เอ้ก ดิจิทัล คว้า 2 รางวัล จาก MAAT Media Awards 2024

Published on

เอ้ก ดิจิทัล (EGG Digital) ผู้นำธุรกิจด้านวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ให้บริการสื่อโฆษณาครบวงจรและการให้คำปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัลสัญชาติไทย โชว์ผลงานโดดเด่นคว้า 2 รางวัล จากเวที MAAT Media Awards 2024 จัดโดยสมาคมมีเดียเอเจนซีและธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT)

โดยแบ่งเป็น Gold Award 1 รางวัล ซึ่งมีเพียง 10 แคมเปญที่ได้รับรางวัลระดับนี้ และ Bronze Award 1 รางวัล ตอกย้ำความสำเร็จและศักยภาพในการวางแผนการสื่อสารและการทำการตลาดผ่านสื่อ ซึ่งใช้ศักยภาพของ First-Party Data 720 องศา, AI/ML และสื่อ O4s (Online, OOH, On-Premise, On-Ground) ที่เชื่อมต่อทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์มาเป็นหัวใจสำคัญในการวางกลยุทธ์ สร้างสรรค์คอนเทนต์ เลือกใช้สื่อ รวมไปถึงมอนิเตอร์และวัดผลแคมเปญแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อให้ผู้บริโภค สร้างประโยชน์รอบด้านให้ธุรกิจลูกค้า และสนับสนุนแบรนด์ต่าง ๆ สู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย

นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Media Convergence บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ธุรกิจ Media Convergence สามารถคว้ารางวัลจากงาน MAAT Media Awards 2024 ซึ่งเป็นเวทีอันทรงเกียรติสำหรับแสดงความสามารถด้านการวางกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ผ่านสื่อและโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในไทย การได้รับรางวัลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นด้านเทคโนโลยี มีเดียแพลตฟอร์ม ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิทัศน์สื่อ ธุรกิจลูกค้า ความต้องการตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา รวมไปถึงความทุ่มเทของทีมดูแลลูกค้า, ทีมกลยุทธ์, ทีมนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และทีมปฎิบัติการ ที่ร่วมกันส่งมอบผลงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละแบรนด์ได้อย่างเหนือชั้น”

ในปีนี้ MAAT Media Awards จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้คอนเซปต์ “Divergence: The Art of Future Thinking” มีผู้ประกอบธุรกิจสื่อและเอเจนซีมีเดียส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 229 ผลงาน ซึ่ง “เอ้ก ดิจิทัล” ส่งผลงานเข้าประกวดจำนวน 7 ผลงาน ได้รับคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย จำนวน 5 ผลงาน และคว้า MAAT Media Awards ได้ถึง 2 รางวัล ประกอบด้วย Gold Award 1 รางวัล สาขา Best Media Strategy จากแคมเปญ Listerine Decisive Moment Triggers และ Bronze Award 1 รางวัล สาขา Effectiveness Awards จากแคมเปญ The Impact of Hygiene 5x Fragrance

ความสำเร็จของทั้ง 2 แคมเปญจากการวางกลยุทธ์การสื่อสารด้วย First-Party Data, AI และ สื่อ O4s
• แคมเปญ Listerine Decisive Moment Triggers: ใช้ AI วิเคราะห์และแบ่งกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญออกเป็น 1) กลุ่มลูกค้าเดิม 2) กลุ่มเป้าหมายใหม่ (New Category) ซึ่งแบ่งได้ 3 กลุ่มคือ กลุ่มลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม กลุ่มลูกค้าที่ซื้อของแห้ง และกลุ่มลูกค้าที่ซื้ออาหารสด วางกลยุทธ์การสื่อสารผ่าน Omnichannel Media ที่ประสานการทำงานของสื่อ Online และสื่อ On-Premise ในรูปแบบ Extra Shelf Display บริเวณสินค้าที่กลุ่มเป้าหมายใหม่เดินช้อปปิ้ง เช่น แชมพู, เครื่องดื่ม 3 in 1, ผักสดและอาหารสด เป็นต้น พร้อม Tailor-made คอนเทนต์ให้ตรงกับความสนใจกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม โดยคอนเทนต์บนออนไลน์และชั้นวางสินค้าจะต้องสอดคล้องกันเพื่อสร้างการรับรู้แบบไร้รอยต่อ นำไปสู่การปิดการขายในที่สุด ซึ่งกลยุทธ์นี้ช่วยเพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่และสร้างยอดขายจากกลุ่มนี้ได้มากถึง 44% ของยอดขายรวม

• แคมเปญ The Impact of Hygiene 5x Fragrance: สร้างการรับรู้อย่างไร้รอยต่อผ่านสื่อ O2O2O เพื่อเพิ่มยอดขายจากกลุ่มลูกค้าเดิมและชิงลูกค้าจากแบรนด์คู่แข่ง มีการใช้สื่อ OOH หรือ Shoppers’ Digital Screen สื่อ Online และสื่อ On-Premise กำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบเน้นคุณภาพและสร้างคอนเทนต์ที่เหมาะกับแต่ละสื่อ โดยสามารถผลักดันแบรนด์สู่ผู้นำตลาดน้ำยาปรับผู้นุ่มได้สำเร็จ ช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ได้ถึง 36% ซึ่งเป็นลูกค้าที่เปลี่ยนจากแบรนด์คู่แข่งถึง 16%

“นักโฆษณาในยุคนี้ต้องปรับตัวให้ทันต่อไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยปัจจุบันผู้บริโภคใช้ชีวิตแบบผสมผสานโลกดิจิทัลและโลกจริงเข้าด้วยกัน มีการเสพสื่อและคอนเทนต์ที่หลากหลาย รวมถึงตัดสินใจซื้อในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่ง ‘การผสานพลัง First-Party Data 720 องศา, AI/ML และสื่อ O4s’ เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เอ้ก ดิจิทัลสามารถตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ โดยเรานำ First-Party Data จากพันธมิตรห้างค้าปลีกและ Third-Party Data มาวิเคราะห์ด้วย AI และ ML จากนั้นนำอินไซท์ที่ได้มาวางกลยุทธ์การสื่อสารที่ตอบโจทย์ โดยเรามีสื่อ O4s ที่เชื่อมต่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์แบบไร้รอยต่อ ทั้งสื่อออนไลน์ (Online) สื่อโฆษณานอกบ้าน (Out-of-Home) หรือ Shoppers’ Digital Screen สื่อในห้างค้าปลีก ณ จุดขาย (On-Premise) และกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้าง (On-Ground Activation) นอกจากนี้ยังใช้ AI มอนิเตอร์ KPI แบบเรียลไทม์ เพิ่มผลลัพธ์โฆษณาด้วยการอัปเดตกลุ่มเป้าหมายตลอดเวลา (Dynamic Audience Targeting) และจัดสรรงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างประโยชน์รอบด้านให้ธุรกิจลูกค้าและสนับสนุนแบรนด์ต่าง ๆ สู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย” นายชัชพล กล่าวทิ้งท้าย

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this