หน้าแรกRelease hub“MC” โชว์ผลงานทำกำไรเติบโต 15%

“MC” โชว์ผลงานทำกำไรเติบโต 15%

Published on

“MC” โชว์ผลงานทำกำไรเติบโต 15%

นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี และนางสาวสุทธิภา วัชโรทยางกูร (ขวา) ผู้อำนวยการ แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เข้าร่วมงาน Opportunity Day เพื่อพบนักลงทุนประจำไตรมาส 1/2560 ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานมีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2560 ที่ 232 ล้านบาท เติบโต 14.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทยังคงพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายและดีไซน์ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ทำให้ดึงดูดให้ลูกค้าแวะเข้าร้านบ่อยขึ้น สำหรับไตรมาส 2 บริษัท ได้ออกผลิตภัณฑ์ยีนส์คอลเลกชั่นใหม่ Mc Move Denim และ Activewear คอลเลกชั่นใหม่ของ UP ในส่วนผลิตภัณฑ์บำรุงผิว M&C บริษัทจะวางจำหน่ายไลน์สินค้าใหม่ ได้แก่ สบู่ก้อน แป้งหอม และน้ำหอม เพิ่มเติมจากโลชั่นและเจลอาบน้ำที่วางจำหน่ายแล้ว รวมทั้งมีแผนเปิดจุดจำหน่ายแบบ Pop-up store สำหรับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเดียวในห้างสรรพสินค้าชั้นนำเร็วๆ นี้

Latest articles

มหกรรมสินค้าไอทีกลางปี “COMMART UNLIMIT” ณ ไบเทคบางนา

มหกรรมสินค้าไอทีคอมมาร์ต รอบกลางปี 2568 มาในคอนเซ็ปต์ COMMART UNLIMIT โปรน็อนสต๊อป ช้อปไม่จำกัด จัดเต็มครบทุกแบรนด์สินค้าไอทีชั้นนำ

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ แนะนำเมนูชวนลิ้มลอง “เค้กชาเขียววสันตฤดู”

เค้กช็อพ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ คัดสรรเมนูเค้กเด่นประจำฤดูฝนหรือฤดูใบไม้ผลิให้ได้ลิ้มลองความอร่อยด้วย “เค้กชาเขียววสันตฤดู (Green Tea Rainy Season Cake)” โดย เชฟเต้ - จักรพรรดิ์ พจน์ชัยกุล

Workation Paradise ss.3 รุกตลาดฟรีแลนซ์ ปั้นไทยสู่ศูนย์กลาง Work & Travel

ททท. ผนึกกำลัง Fastwork รุกตลาดฟรีแลนซ์ยุคใหม่ เตรียมเปิดตัว “Workation Paradise Throughout Thailand Season 3” ปั้นไทยสู่ศูนย์กลาง Work & Travel

เต็ดตรา แพ้ค ขยายโรงงานใน Binh Duong รองรับตลาดประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นับได้ว่าเป็นภูมิภาคที่ตลาดอาหารและเครื่องดื่มมีการแข่งขันดุเดือดมากที่สุดแห่งหนึ่ง มีมูลค่าตลาดกว่า 667 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2566 และมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงถึง 900 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2571

More like this