หน้าแรกHeadlineGenerative AI จะมาพลิกโฉม “ประสบการณ์ลูกค้า” ได้อย่างไร

Generative AI จะมาพลิกโฉม “ประสบการณ์ลูกค้า” ได้อย่างไร

Published on

โดย: อานิล คามัธ รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีของอะโดบี

Generative AI ได้กลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นที่สุดและก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางภายในเวลาอันรวดเร็ว แอปพลิเคชันที่ออกมาในช่วงแรกๆ ช่วยให้ผู้ใช้ในทุกระดับทักษะสามารถพิมพ์ป้อนคำสั่งสั้นๆ และสร้างรูปภาพที่สวยงามหรือข้อความที่ซับซ้อน นอกจากนี้ นักการตลาดกำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างคอนเทนต์ SEO, Social Copy และรูปภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย ตลอดจนเอกสารด้านการตลาดอื่นๆ ที่หลากหลาย

อย่างไรก็ตาม ศักยภาพสูงสุดในการใช้เทคโนโลยีที่ทรงพลังนี้สามารถเปลี่ยนประสบการณ์ลูกค้าซึ่งเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม กล่าวคือ สำหรับนักการตลาดและคนอื่นๆ ที่ต้องติดต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ Generative AI จะสามารถทำหน้าที่เป็น Co-pilot ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะพลิกโฉมการออกแบบและการส่งมอบประสบการณ์ลูกค้าในทุกแง่มุม ช่วยให้ทีมสามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็ว มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น โดยเทคโนโลยีใหม่นี้หากปรับใช้อย่างเหมาะสมและมีความรับผิดชอบ จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถนำเสนอประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมากขึ้นให้กับลูกค้า และสร้างการเติบโตของธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ให้แก่ธุรกิจ

Generative AI ทำหน้าที่เป็น Co-pilot สำหรับ “ประสบการณ์ลูกค้า”

แม้ว่าจะมีข้อสงสัยเล็กน้อยว่า Generative AI จะพลิกโฉมวิธีการที่นักการตลาดดิจิทัลเข้าถึงลูกค้าได้อย่างไร มาพบกับ 4 ด้านที่โดดเด่นในการสร้างมูลค่าที่เป็นรูปธรรมในระยะสั้น:

การสร้างก๊อปปี้ทางการตลาด: แบรนด์ต่างๆ จะสามารถใช้ Generative AI เพื่อสร้างข้อความรูปแบบต่างๆ สำหรับหลากหลายช่องทางการติดต่อกับผู้บริโภคได้ในทันที เช่น เว็บเพจ อีเมล และเมสเสจสำหรับมือถือ โดยทั้งหมดนี้มีการปรับแต่งให้สอดรับกับสไตล์และภาษาของแบรนด์นั้นๆ

ประสบการณ์การสนทนา: Generative AI จะปรับปรุงบริการแชทบอท (Chatbot) โดยจัดหาเครื่องมือที่เหนือกว่าให้กับแบรนด์ที่ทำธุรกิจ B2B เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่ดิจิทัลของบริษัท และสร้างข้อมูลสรุปเกี่ยวกับการติดต่อเมื่อลูกค้าเป้าหมายกลับเข้ามาอีกครั้ง  สำหรับผู้บริโภค เทคโนโลยีแชทจะได้รับการพัฒนาให้กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและมีความเห็นอกเห็นใจมนุษย์มากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้นักการตลาดรู้ว่าควรจะใช้การสนทนาเมื่อใดและในจุดใดบ้างใน customer journey โดย Generative AI ยังมอบอินเทอร์เฟซการสนทนาระหว่างนักการตลาด โดยประกอบด้วยเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น การวิเคราะห์และการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึก การนำเสนอข้อมูลข่าวกรองให้แก่บุคลากรในหน่วยงานต่างๆ และเพิ่มศักยภาพให้แก่บุคลากรเพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและรวดเร็วยิ่งขึ้น

กลุ่มเป้าหมาย และการสร้าง Customer Journey: การระบุ การแบ่งเซ็กเมนต์ และการเปรียบเทียบผู้ชมสำหรับแคมเปญที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายนับเป็นงานที่ยุ่งยากและต้องใช้เวลานาน และบางครั้งก็อาจไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์  ในทำนองเดียวกัน การเชื่อมโยงจุดต่างๆ สำหรับประสบการณ์ของลูกค้าอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย  Generative AI จะเข้ามาช่วยสร้างกลุ่มผู้ชมที่หลากหลายโดยอัตโนมัติ และให้ความแม่นยำที่น่าทึ่งสำหรับแคมเปญแบบเฉพาะบุคคลที่นำเสนอแก่ลูกค้าหลายล้านคน  นอกจากนี้ยังช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถจำลองประสบการณ์ของลูกค้าที่เกิดขึ้นบนช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ รับทราบข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับข้อเสนอที่ดีที่สุดและช่องทางติดต่อที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภค และเริ่มต้นส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยใช้ Generative AI เพื่อปรับแต่งเทมเพลตตามแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม

ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ที่นำไปใช้ได้จริง: Generative AI จะขับเคลื่อนการสร้างคำบรรยายแบบอัจฉริยะ รวมถึงคำอธิบายแบบข้อความสำหรับการแสดงผลต่างๆ เช่น ตารางกลุ่มประชากร และแผนภูมิ Fallout ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ได้รับทราบข้อมูลและนำเสนอคำตอบให้แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

Best Practices ที่เหมาะสมของ Generative AI สำหรับองค์กร

เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวาง การวัดผลขั้นสุดท้ายว่า Generative AI ก่อให้เกิดประโยชน์หรือผลกระทบด้านลบต่อพนักงาน ลูกค้า และบริษัท อยู่ที่ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการพัฒนาและปรับใช้ในลักษณะใด และต่อไปนี้คือบางส่วนของแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าและธุรกิจของตน:

มุ่งเน้นประโยชน์ใช้สอย: เครื่องมือด้านศิลปะและข้อความที่ใช้ Generative AI ส่วนใหญ่ที่เปิดตัวในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีทั้งแบบที่อยู่บนเว็บเพจหรือในแอป เพื่อให้ความสามารถใหม่เหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงสำหรับนักการตลาด จำเป็นต้องปรับแต่งให้เหมาะกับกรณีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง และผนวกรวมอย่างกลมกลืนเข้ากับเครื่องมือและเวิร์กโฟลว์ที่ใช้งานอยู่ในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงทั้งประสบการณ์ของผู้ใช้และผลงานที่ได้รับจาก Generative AI

ความพร้อมสำหรับองค์กร: เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ การผสานรวม Generative AI เข้ากับระบบขององค์กรต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เหมาะสม  เทคโนโลยี Generative AI ต้องเป็นไปตามมาตรฐานองค์กรด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว การจัดการข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การกำกับดูแล ความโปร่งใส และความรับผิดชอบ  และสิ่งสำคัญก็คือ เนื้อหาที่สร้างขึ้นต้องสอดคล้องกับสไตล์และหลักเกณฑ์ของแบรนด์ และสามารถนำไปใช้งานในเชิงพาณิชย์

เสริมสร้างขีดความสามารถ ไม่ใช่ “แทนที่”: แม้ว่าแบรนด์ต่างๆ อาจต้องการที่จะถ่ายโอนงานจำนวนมากให้กับ Generative AI แต่พลังที่แท้จริงของเทคโนโลยีนี้คือ “ความสามารถในการเสริมศักยภาพให้แก่มนุษย์” Generative AI สามารถเพิ่มมูลค่าของนักการตลาด และช่วยให้การทำงานมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยบุคลากรจะสามารถทำงานที่มีคุณภาพมากขึ้นได้รวดเร็วกว่าเดิม และนำเอาพลังความคิดและเวลาของพวกเขาไปใช้กับงานสำคัญๆ ที่เครื่องจักรไม่สามารถทำซ้ำได้  เราควรมองว่า Generative AI คือผู้ช่วยหรือ Co-pilot ที่สามารถให้ความช่วยเหลือและยกระดับทักษะของนักการตลาด แต่ยังคงต้องอาศัยบุคลากรในการตรวจสอบและแก้ไขผลงานขั้นสุดท้าย เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ถูกต้องในทุกๆ ครั้ง

กรอบการกำกับดูแล: เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมักจะนำหน้ากฎหมายและข้อบังคับอยู่เสมอ และ Generative AI ก็เช่นเดียวกัน ไม่ว่าแบรนด์กำลังพัฒนาหรือเพิ่งจะปรับใช้ Generative AI สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าโมเดลนั้นๆ ถูกสร้างขึ้นอย่างไรและนำไปใช้งานในลักษณะใด  หากบริษัทของคุณยังไม่มีนโยบายและกรอบการทำงานเพื่อควบคุมการสร้างและการใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่ ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องกำหนดแนวทางที่รัดกุมและกรอบโครงสร้างสำหรับการทดสอบอคติ (Bias) ที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการแอบอ้างของทรัพย์สินทางปัญญา และการตรวจสอบความคิดเห็น ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถตัดสินใจอย่างรอบคอบและเป็นผู้นำสำหรับกฎระเบียบในขอบเขตที่กว้างขึ้น  แนวทางนี้สามารถใช้ได้กับโซลูชั่นที่สร้างขึ้นเองและโซลูชั่นของพาร์ทเนอร์

Generative AI ไม่สามารถแก้ไขทุกปัญหาด้านการตลาด หรือพลิกโฉมแบรนด์ที่ประสบปัญหาให้กลายเป็นผู้นำตลาดในชั่วข้ามคืน  อย่างไรก็ตาม หากดำเนินการอย่างถูกต้อง Generative AI จะมีศักยภาพในการยกระดับความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพของมนุษย์ เสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่ทีมงานฝ่ายการจัดการประสบการณ์ลูกค้าดิจิทัล ทั้งยังช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นและความคล่องตัว ช่วยให้การดำเนินงานรวดเร็วยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า

นักการตลาดจะสามารถใช้ความเชี่ยวชาญของตนเพื่อเป็นแนวทางและควบคุมดูแลผลงานที่ได้รับจากGenerative AI รวมทั้งตรวจสอบกระบวนการต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์นั้นๆ มีความสอดคล้องกับแนวทางของแบรนด์และโดนใจลูกค้า  ขณะที่คอนเทนต์และข้อมูลถือเป็นรากฐานของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เทคโนโลยี AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคหน้า Generative AI จะทำหน้าที่เป็น Co-pilot ที่เชื่อถือได้สำหรับการจัดการประสบการณ์ลูกค้าดิจิทัล พร้อมทั้งปรับปรุงการเติบโตของธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยประสบการณ์ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการแข่งขันในหลายปีนับจากนี้

Latest articles

ทีทีบี ปิดโรงหนัง เอาใจแฟนคลับ “สติทช์”

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี สร้างปรากฏการณ์แห่งความสุขอย่างต่อเนื่องให้กับเหล่าผู้ถือบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ทีทีบี ดิสนีย์ กับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟต้อนรับการมาของเพื่อนรักจากต่างดาวตัวสีฟ้าสุดแสบ “สติทช์” (Stitch) เหมาโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ให้ผู้ถือบัตร ทีทีบี ดิสนีย์ ได้ชมภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันฟอร์มยักษ์แห่งปี Disney’s Lilo & Stitch ฟรี รอบพิเศษก่อนใคร

Maxim ร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกระดับความสะดวกชายหาด จ.ภูเก็ต

Maxim ประเทศไทย ร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกระดับพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกชายหาด จังหวัดภูเก็ต Maxim แอปพลิเคชันเรียกรถและบริการขนส่งยอดนิยม เดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหาดป่าตอง ผ่านกิจกรรมส่งมอบเก้าอี้ม้านั่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่อำนวยความสะดวก และสนับสนุนการใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะบริเวณชายหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต

คาร์เทียร์ และ Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ญี่ปุ่น เปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ

คาร์เทียร์ และ Expo 2025 โอซาก้า คันไซ ญี่ปุ่น เปิด Women’s Pavilion อย่างเป็นทางการ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะรัฐมนตรี กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น คาร์เทียร์ และสมาคมผู้จัดงานมหกรรมโลกญี่ปุ่น ในฐานะเวทีระดับโลกที่อุทิศเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อย่างสร้างสรรค์ และเชิดชูบทบาทสำคัญของผู้หญิงในการร่วมสร้างสังคมที่เปิดกว้าง เข้มแข็ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น

กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าอบรมผู้ควบคุมการใช้โดรนพ่นสาร ตั้งเป้า 5,000 รายทั่วประเทศภายในปี 2570

กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช เดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการควบคุมการใช้โดรนพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตร จัดอบรมหลักสูตร “ผู้ควบคุมการพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตรด้วยอากาศยาน” เตรียมความพร้อมบังคับใช้กฎหมายควบคุมผู้รับจ้างพ่นสารฯ อย่างเป็นทางการ ภายในปี 2570 ตั้งเป้าครอบคลุมผู้ปฏิบัติงานกว่า 5,000 รายทั่วประเทศ

More like this