Salesforce เผยองค์กรไทย 53% เห็นว่างานบริการลูกค้าเป็นเครื่องมือสร้างรายได้

Published on

Salesforce (NYSE: CRM) ผู้นำด้าน CRM ระดับโลกได้เปิดตัวรายงาน State of Service ฉบับที่ห้า ซึ่งนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเป้าหมายสำคัญ ความท้าทาย การวัดผลสำเร็จ และกลยุทธ์ขององค์กรที่เปลี่ยนแปลงไปท่ามกลางความคาดหวังของลูกค้าในโลกที่ดิจิทัลมาเป็นอันดับหนึ่ง และสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทาย จากมุมมองของมืออาชีพกว่า 8,000 คนจาก 36 ประเทศ ในจำนวนนี้มีกว่า 300 คนจากประเทศไทย

ข้อมูลเชิงลึกสำคัญในรายงาน State of Service ฉบับปีนี้ได้แก่ ความผันผวนทางเศรษฐกิจกระตุ้นให้มีการเน้นประสิทธิภาพ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นข่าวใหญ่ ทีมบริการลูกค้าต่างหันมาใช้การวัดผลสำเร็จและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 67% ขององค์กรด้านบริการในประเทศไทยใช้เวิร์กโฟลว์และกระบวนการทางธุรกิจแบบอัตโนมัติ

งานบริการลูกค้าที่ใช้ระบบดิจิทัลเป็นอันดับแรกจะยังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ลูกค้าหันเริ่มมาใช้ระบบดิจิทัลในช่วงที่เกิดโรคระบาด และยังไม่มีสัญญาณว่าจะชะลอลง 67% ขององค์กรด้านบริการในประเทศไทยให้บริการผ่านระบบวิดีโอและ 63% ให้บริการแชท

การลาออกครั้งใหญ่ กระตุ้นให้เกิดความสนใจเรื่องประสบการณ์ของพนักงาน อัตราการเปลี่ยนงานที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้องค์กรด้านบริการคิดสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การทำงานทางไกลและโอกาสในการก้าวหน้าในการทำงานที่ดีขึ้น องค์กรด้านบริการในประเทศไทยมีอัตราการหมุนเวียนของพนักงานเฉลี่ย 17% ในปีที่ผ่านมา

การให้บริการลูกค้ายังเติบโตเกินไปกว่าศูนย์บริการติดต่อ ขณะนี้บริการภาคสนามมีความสำคัญมากกว่าขอบเขตการทำงานเดิมในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ในภาคพลังงานและสาธารณูปโภค 88% ขององค์กรด้านบริการที่มีบริการภาคสนามในประเทศไทยกล่าวว่าบริการประเภทนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายธุรกิจ

กิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ กรรมการผู้จัดการของเซลส์ฟอร์ซ ประเทศไทยกล่าวว่า ในสภาพการณ์ที่เศรษฐกิจเผชิญกับความท้าทายในขณะนี้ ผลักดันให้เกิดความจำเป็นและเร่งด่วนที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพ และส่งผลให้ทีมบริการต้องกลับมาคิดทบทวนว่าจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรทั้งค่าใช้จ่าย บุคลากร เวลา ฯลฯ ที่น้อยลงได้อย่างไร

สภาวะการณ์นี้ทำให้เกิดความจำเป็นอย่างยิ่งที่องค์กรธุรกิจจะต้องสร้างมุมมองแบบ 360 องศาของลูกค้าจากข้อมูลการติดต่อในทุกด้านและนำระบบการให้บริการแบบอัตโนมัติเข้ามาเสริมเพื่อมอบบริการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

ในปัจจุบัน SmartCost บริษัทจำหน่ายเครื่องมืองานช่างและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการขัดสีและพื้นผิวในกรุงเทพฯ ซึ่งให้บริการลูกค้าแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) กว่า 1,500 ราย กำลังใช้งาน Service Cloud เพื่อเข้าถึงมุมมองแบบ 360 องศาของลูกค้า และข้อมูลเชิงลึกตามเวลาจริงในทุกความคืบหน้าของคำสั่งซื้อ กฤตกร วงษ์ศุทธิภากร ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ SmartCost กล่าวว่า “Salesforce มีความยืดหยุ่นสูง เราสามารถปรับขั้นตอนและกระบวนการขายได้อย่างง่ายดาย ทำให้ธุรกิจของเราสามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วและเราเองยังสามารถปรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของเราได้ตลอด ถ้าหากไม่มีความยืดหยุ่นแบบนี้ การเริ่มธุรกิจด้านใหม่ ๆ อาจจะต้องเหนื่อยและใช้เวลาในการเปลี่ยนกระบวนการในระบบอีกมาก แต่ Salesforce ช่วยให้เราสามารถทำสิ่งนี้ได้ในชั่วข้ามคืน

Latest articles

“คิทโด้” วิตามินเม็ดเคี้ยว จัดโปรสุดคุ้ม 1 แถม 1 พิเศษ 49 บาท ที่เซเว่น อีเลฟเว่น

"คิทโด้" วิตามินเม็ดเคี้ยว 2 สูตร 2 รสชาติสุดอร่อย! เป็นทางเลือกที่ดีของลูก และเป็นตัวช่วยที่ลงตัวของผู้ปกครองในการสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาการทางสมองของเด็กๆ จัดโปรสุดคุ้ม 1 แถม 1 พิเศษ 49 บาท ที่เซเว่น อีเลฟเว่น 

คู่มือการออกแบบการจัดสวนสไตล์ซีรีส์เรื่อง Shogun

กระแสความนิยมจากซีรีส์ ‘Shōgun’ ไม่เพียงปลุกความสนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังทำให้หลายคนหลงใหลในความงามอันสงบนิ่งของภูมิสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘สวน’ ซึ่งเป็นมากกว่าพื้นที่สีเขียว แต่คือปรัชญา คือศิลปะ

บัตรเครดิต Agoda ใบเดียวเอาอยู่ ตอบเหตุผลที่ควรมีติดกระเป๋า

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวและจองที่พักด้วยตัวเอง การมีบัตรเครดิตที่ให้สิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ากับการเดินทางถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งบัตรเครดิต Agoda คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว

รวบรวมมาให้ครบเรื่องประกันรถไฟฟ้า: สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ

ประกันรถไฟฟ้ามีรายละเอียดอย่างไร มีความแตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไปหรือไม่ และคนที่กำลังวางแผนจะซื้อรถไฟฟ้าควรเป็นกังวลกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน บทความนี้ได้รวบรวมสิ่งที่คุณควรรู้มาไว้ให้แล้ว 

More like this