หน้าแรกHealth&Wellness8 วิธีรักษาโรคมะเร็ง

8 วิธีรักษาโรคมะเร็ง

Published on

เนื่องในวันมะเร็งโลก หรือ World Cancer Day 2022 ที่ตรงกับ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงการรักษาโรคมะเร็งและดูแลป้องกันตนเองให้มีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคมะเร็งไปด้วยกัน หากรู้เร็ว รักษาเร็ว ย่อมช่วยเพิ่มโอกาสการหายและการรอดชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรค ชนิดเซลล์มะเร็ง อายุ และสุขภาพของผู้ป่วย

ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นโรคที่สามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ เป็นโรคที่เกิดจากการมีเซลล์ผิดปกติในร่างกายและเซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตรวดเร็วเกินปกติ ร่างกายควบคุมไม่ได้ จึงเจริญลุกลามและแพร่กระจายทั่วร่างกาย ส่งผลให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลว ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด ได้แก่ ปอด ตับ สมอง ไต กระดูก และไขกระดูก

ในปีที่ผ่านมามะเร็งที่พบมากที่สุดในโลกคือมะเร็งปอด และมะเร็งที่พบมากที่สุดในคนไทยคือ มะเร็งตับและท่อน้ำดี และมะเร็งเต้านมพบมากที่สุดในผู้หญิง ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพคือ การรักษาที่เข้าถึงผู้ป่วยมะเร็งทุกคนได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้ป่วยกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างยืนยาว ปิดทุกช่องว่างสุขภาพ เติมเต็มการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

ซึ่งปัจจุบันการรักษามะเร็งมีหลายวิธี ได้แก่ 1) การผ่าตัด (Surgery) เป็นวิธีรักษามะเร็งเฉพาะที่ ซึ่งมีการพัฒนาการผ่าตัดให้ไม่สูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียน้อยที่สุด ที่สำคัญปัจจุบันมีเทคโนโลยีผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก ที่ให้ผลการรักษาเทียบเท่าการผ่าตัดแบบแผลเปิด แต่แผลเล็ก เจ็บน้อย เสียเลือดระหว่างผ่าตัดลดลง ฟื้นตัวไว ลดการเกิดผลแทรกซ้อนและการติดเชื้อจากการผ่าตัด ผู้ป่วยมะเร็งจึงคลายความกังวลจากการผ่าตัดรักษาได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ

2) รังสีรักษา (Radiotherapy) หรือการฉายแสงเป็นการใช้รังสีกำลังสูงเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งในตำแหน่งที่กำหนด โดยแพทย์รังสีรักษาจะวางแผนการให้ปริมาณรังสีที่มีผลข้างเคียงกับผู้ป่วยน้อยที่สุด การใช้รังสีรักษาสามารถรักษามะเร็งบางชนิดให้หายขาด บรรเทาอาการจากมะเร็ง อาทิ ลดความเจ็บปวด หยุดการไหลของเลือด เป็นต้น อีกทั้งยังรักษาภาวะเร่งด่วนที่เกิดจากโรคมะเร็งได้ ซึ่งปัจจุบันรังสีรักษาได้พัฒนาไปมากเพื่อให้รักษาได้ถูกต้องตรงตำแหน่งและลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย

3) เคมีบำบัด (Chemotherapy) เป็นการรักษาโดยการให้ยา (สารเคมี) เพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง โดยยาเคมีบำบัดจะเข้าไปขัดขวางการแบ่งเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็วกว่าเซลล์ปกติจึงอาจมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนอกจากยาเคมีบำบัดจะช่วยให้หายขาด ยังสามารถให้ก่อนผ่าตัดเพื่อลดขนาดก้อนมะเร็ง และใช้รักษาเสริมหลังผ่าตัดเพื่อลดโอกาสมะเร็งกลับมาเป็นซ้ำ

4) ฮอร์โมนบำบัด (Hormonal Therapy) เป็นการใช้ฮอร์โมนเพื่อยับยั้งหรือยุติการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ซึ่งใช้ได้ในการรักษามะเร็งบางชนิดอย่างมะเร็งเต้านมที่อาจต้องกระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศหญิงและมะเร็งต่อมลูกหมากที่กระตุ้นด้วยฮอร์โมนเพศชาย เป็นต้น

5) การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) จะเข้าไปออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับเซลล์มะเร็งเพื่อยับยั้งการแบ่งตัวและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง มีประสิทธิภาพในการรักษาสูง ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเคมีบำบัด แต่ใช้ได้ดีกับเนื้อเยื่อมะเร็งที่มีเป้าจำเพาะต่อยาเท่านั้น จึงขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งเป็นสำคัญ

6) การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ใช้หลักการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อสู้กับเซลล์มะเร็งเพื่อต่อต้านเซลล์มะเร็งได้ดียิ่งขึ้น วิธีนี้ใช้รักษามะเร็งได้หลายชนิด ขึ้นอยู่กับชนิด ลักษณะ และความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่ได้ผลดีในการรักษาและผลข้างเคียงต่ำ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง

7) การปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow/Stem Cell Transplantation) มีทั้งแบบการใช้เซลล์ต้นกำเนิดของตัวเองหรือของบุคคลที่มีความเข้ากันได้ของระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนใหญ่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งระบบเลือดอื่น ๆ หรือมะเร็งเซลล์สืบพันธุ์บางชนิด

8) การรักษาแบบผสมผสาน (Combined Modality Therapy) เป็นการรักษาโรคมะเร็งโดยใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อเพิ่มโอกาสหายและรอดชีวิต แต่จะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับระยะ ความรุนแรงของโรค และสุขภาพของผู้ป่วย โดยแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งจะประเมินการรักษาอย่างละเอียดเพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ

นอกจากนี้การดูแลสุขภาพที่ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ ถูกสุขอนามัย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่ตากแดดจ้า ไม่ทานปลาน้ำจืดดิบและตรวจสุขภาพร่างกายอย่างเป็นประจำ จะช่วยให้สามารถป้องกันมะเร็งและสุขภาพที่แข็งแรงได้ เนื่องในวัน World Cancer Day 2022 อยากให้ทุกคนป้องกันมะเร็งด้วยการดูแลสุขภาพให้ห่างไกลมะเร็งและหมั่นตรวจเช็กร่างกายอย่างสม่ำเสมอ

Latest articles

บอกต่อ 5 เคล็ดลับการเข้าพักโรงแรมหัวหินให้คุ้มสุด

หัวหิน เมืองตากอากาศยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็อยากมาพักผ่อน ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ชายหาดสวยงาม และกิจกรรมหลากหลาย ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ และแน่นอนว่าการมาพักผ่อนที่หัวหิน การเลือกที่พักให้ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุดก็เป็นสิ่งสำคัญ วันนี้เราจึงมี 5 เคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้การเข้าพักของคุณที่โรงแรมหัวหินนั้นพิเศษและประทับใจกว่าที่เคย

สรุปขั้นตอนการทำ ICSI เข้าใจอย่างละเอียดก่อนเริ่มกระบวนการ

สำหรับคู่สมรสที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์อย่าง ICSI หรือ Intracytoplasmic Sperm Injection เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีที่ฝ่ายชายมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพหรือจำนวนอสุจิ หรือฝ่ายหญิงมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการปฏิสนธิ

รู้จักระบบบำบัดน้ำเสียมีกี่แบบ ต้องเลือกอย่างไร

น้ำคือทรัพยากรที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ แต่ในขณะเดียวกัน กิจกรรมของมนุษย์ก็เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้น้ำกลายเป็นของเสีย ไม่ว่าจะเป็นจากการใช้น้ำในครัวเรือน ภาคเกษตรกรรม หรือภาคอุตสาหกรรม ซึ่งน้ำเสียเหล่านี้หากไม่ได้รับการบำบัดก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ รวมถึงสุขภาพของมนุษย์โดยตรง

5 ขั้นตอนขอสินเชื่อส่วนบุคคล อนุมัติไว ทำตามนี้ได้เงินเร็ว

ในยุคที่ความต้องการใช้เงินฉุกเฉินอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซ่อมบ้าน ดำเนินธุรกิจ หรือจัดการค่าใช้จ่ายส่วนตัว การขอสินเชื่อส่วนบุคคล อนุมัติไว กลายเป็นทางเลือกที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะสะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่จะขอสินเชื่อให้ผ่านไว ๆ ต้องเตรียมตัวยังไง? บทความนี้มีคำตอบ กับ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณได้เงินเร็วขึ้นจริง

More like this