สิ่งที่ต้องรู้ เมื่ออยากกลับบ้านไปรักษาโควิด 19 ณ ภูมิลำเนา

Published on

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ห่วงผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ต้องการกลับไปรักษาหรือกักตัวที่ภูมิลำเนาต่างจังหวัด ขอให้ทำในกรณีจำเป็นจริงๆ แนะควรปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก่อนเพื่อประเมินอาการและความปลอดภัย เนื่องจากการเดินทางข้ามจังหวัด ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า ระบบภูมิต้านทานโรคอ่อนแอลง เสี่ยงเกิดอาการป่วยที่รุนแรงขึ้นได้ พร้อมแนะการปฏิบัติตัว 6 ประการ ระหว่างเดินทาง ป้องกันและลดแพร่กระจายเชื้อตลอดเส้นทาง

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล บางส่วนมีความประสงค์จะเดินทางกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลหรือกักตัวที่ภูมิลำเนาในต่างจังหวัดว่า กรมควบคุมโรคมีความห่วงใยสุขภาพ เนื่องจากการเดินทางข้ามจังหวัดจะทำให้ร่างกายของผู้ติดเชื้อเกิดความเหนื่อยล้า ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคอ่อนแอลง อาจเพิ่มความเสี่ยงให้อาการป่วยเร็วหรือรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น จึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง และทำในกรณีที่มีความจำเป็น

ทั้งนี้ขอให้ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก่อน โดยอาจเป็นโรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปลายทางที่จะกลับไปรักษา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินอาการก่อน และจัดเตรียมความพร้อมรองรับการรักษาอย่างเหมาะสม หรือขอรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพภาพแห่งชาติทางสายด่วน 1330 กด 15 หรือแจ้งลงทะเบียนทางเว็บไซต์ https://crmdci.nhso.go.th เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแลในพื้นที่ตามมาตรฐาน

รวมถึงควรเตรียมเอกสารรับรองการเดินทางข้ามจังหวัด หรือ QR Code เพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ โดยสามารถลงทะเบียนได้ 3 วิธีคือ 1.ขอเอกสารรับรองที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการเขต 2.หากไม่มีข้อ 1 ให้ลงทะเบียนการเดินทางข้ามจังหวัดผ่านทางเว็บไซต์ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” https://covid-19.in.th เพื่อนำ QR code แสดงแก่เจ้าหน้าที่ และ 3.ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่ด่านตรวจ

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคขอแนะนำการปฏิบัติตัวในการเดินทาง เพื่อความปลอดภัยของผู้ติดเชื้อและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อระหว่างเดินทาง โดยหากเป็นไปได้ขอให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก่อนเดินทางให้เตรียมสิ่งของต่อไปนี้ให้เพียงพอ ได้แก่ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ 70% ถุงใส่ขยะส่วนตัว ยาที่ใช้ทั้งรักษาโรคประจำตัวหรือยาบรรเทาอาการป่วยโควิด 19 เตรียมอาหารและน้ำดื่มชนิดขวด พร้อมจดเบอร์โทรศัพท์สายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อแจ้งหากเจ็บป่วยฉุกเฉินในระหว่างเดินทาง

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดระหว่างที่เดินทาง 6 ประการ ดังนี้

  1. สวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง
  2. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
  3. ล้างมือบ่อยๆด้วยเจลแอลกอฮอล์ 70 % ก่อนและหลังรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ หลังจากไอจาม
  4. ห้ามแวะพักระหว่างเดินทาง ขอให้ตรงไปยังโรงพยาบาลหรือสถานที่ปลายทางที่ประสานไว้
  5. หากจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำสาธารณะ เช่นที่ปั๊มน้ำมัน ต้องล้างมือฟอกสบู่ก่อนและหลังจากใช้ห้องน้ำ เพื่อตัดวงจรเชื้อและลดการปนเปื้อนพื้นผิวของห้องน้ำ เช่น กลอนประตู สายฉีดชำระ ขันตักน้ำ
  6. เปิดหน้าต่างหรือช่องหน้าต่าง เพื่อให้อากาศหมุนเวียนถ่ายเทภายในรถยนต์ และเมื่อใกล้ถึงปลายทาง

ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลหรือสถานที่ที่ได้รับการประสาน เพื่อเข้ารักษาและปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไป หากมีข้อสงสัยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนควบคุมโรค โทร. 1422

 

Latest articles

Shell Helix Ultra สูตรใหม่ก้าวข้ามขีดสุด ด้วยเทคโนโลยีล้ำ 3 มาตรฐานโลก

เชลล์เดินเกมรุกตลาดน้ำมันเครื่องพรีเมียม เปิดตัว Shell Helix Ultra สูตรใหม่ล่าสุดในไทยเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชูจุดเด่นด้วยมาตรฐานระดับโลกถึง 3 รายการ ได้แก่ API SQ, ACEA C6...

สมาคมนักศึกษาเก่าฯ ศิลปากร ผนึกกำลัง 29 ศิลปิน ระดมทุนสร้าง Docudrama ครั้งประวัติศาสตร์

สมาคมนักศึกษาเก่าคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับ กลุ่มศิลปิน และนักสร้างภาพยนตร์อิสระจากอิตาลี จัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินรับเชิญ พร้อมสนับสนุนผลงานศิลปะ เพื่อระดมทุนในการสร้างภาพยนตร์ดอคคูดรามา ‘อาณาจักรแห่งความกลมเกลียว’ (Docudrama Film Project: ‘The Empire of Harmony’) ให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อระลึกถึงบรมครูผู้วางรากฐานศิลปะสมัยใหม่ไทย

มศว พร้อมรุกหน้าพัฒนาการศึกษาไทย รับเจ้าภาพ WUNCA ครั้งที่ 45

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) จัดงานแถลงข่าวในการเป็นเจ้าภาพ การประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่องการดำเนินกิจกรรมบนระบบเครือข่ายสารสนเทศเพื่อการพัฒนาการศึกษา หรือ WUNCA(วันก้า)( Workshop on Uninet Network and Computer Application ) ครั้งที่ 45 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ณ อาคารศาสตราจารย์ ดร.สาโรช บัวศรี มศว ประสานมิตร กทม.

PETPAL พร้อมรุกขยายตลาดโลก รับเทรนด์ Pet Humanization

PETPAL ชี้ภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกโตต่อเนื่องคาดปี 72 มูลค่ารวมทะลุ 1.94 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โตเฉลี่ยร้อยละ 5.52 ต่อปีพร้อมรุกขยายตลาดในไทยและต่างประเทศรับเทรนด์ Pet Humanization

More like this