มั่งคั่งจาก “กัญชา” หุ้นอนาคตไกลจน David Beckham โดดเข้าร่วม

Published on

ขณะที่ประเทศไทยกำลังปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด เพื่อนำกัญชามาใช้ประโยชน์ในเชิงการแพทย์และการรักษาสุขภาพ ทว่า ประเทศในซีกโลกตะวันตกนั้น กัญชาอยู่กับพวกเขากันมานานแล้ว พวกเขาได้แปรรูปกัญชาเป็นสินค้าจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ต่างๆมากมาย จุดประสงค์ทั้งเพื่อการรักษาในเชิงการแพทย์และในเชิงสันทนาการ

ในเชิงพาณิชย์นั้น ธุรกิจกัญชานั้นได้เติบโตกลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่มีมูลค่ามหาศาล ตามข้อมูลของ THCaffilicates.com เว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจกัญชาและกัญชงระดับโลก ระบุว่า อุตสาหกรรมกัญชาของโลกที่ถูกกฎหมายจะมีมูลค่าถึง 46.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2568 เป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 21.2% จากปี 2562 ถึงปี 2568 ปัจจุบันเห็นได้ว่า มีผู้ประกอบหลากหลายในตลาด โดยเฉพาะในสหรัฐฯและแคนาดา มีหลายบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุน และที่น่าสนใจมากคือ ในปีที่ผ่านมา บริษัทเหล่านี้ก็มีผลประกอบการอย่างโดดเด่น แม้จะเผชิญหน้ากับการระบาดของโควิด-19 ก็ตามที

สำหรับการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการนั้นก็มีให้เห็นไม่เพียงอยู่ในรูปผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย แต่ยังในรูปแบบอื่นๆอีกด้วย หากใครได้ไปท่องเที่ยวที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์แล้ว ก็จะพบเห็นคอฟฟี่ช็อปกัญชาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซ่อนตัวอยู่ในตัวตึกอย่างมากมาย มีสินค้าให้เลือกซื้อและสามารถมีความสุขกับนั่งอัดควันอยู่ที่ร้าน แต่กฎเหล็กของที่นี่คือ คุณต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี ถึงจะเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลของ CNN Travel เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รายงานว่า ปัจจุบันคอฟฟี่ช็อปกัญชามีราว 166 แห่งในเมืองหลวงแห่งนี้ กลายเป็นประเด็นได้รับความสนใจและมีการถกเถียงกันว่า จะห้ามให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใช้บริการ หรือจะเปิดบริการให้แค่คนท้องถิ่นเท่านั้น

วันนี้ The Balance อยากชวนผู้อ่านมาทำความรู้จักบริษัทกัญชายักษ์ใหญ่ที่ในโลก (วัดจากรายได้) ที่ชื่อ Curaleaf Holdings บริษัทสัญชาติอเมริกัน ตั้งอยู่ในรัฐ Massachusetts แต่ไปจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศแคนาดา โดยมีมหาเศรษฐีที่ชื่อ Boris Jordan ซึ่งเขามีทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือหุ้นในบริษัทแห่งนี้อยู่ในบริษัทราว 30% (ข้อมูลปี 2563)

Forbes ออนไลน์รายงานว่า Jordan ได้เข้าซื้อกิจการของ Curaleaf ในปี 2556 ผ่านบริษัทไพรเวท อิควิตี้ ของเขา จากนั้นก็นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศแคนาดาปี 2561 เขามอง Curaleaf เป็นบริษัทผลิตสินค้าอุปบริโภคบริษัทหนึ่ง และย้ำว่า “พวกเรามุ่งผลิตสินค้า (กัญชา) ให้เป็นสินค้ากระแสหลักมากๆยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับฐานลูกค้าของพวกเรา พวกเราไม่ต่างจาก Coca Cola หรือ Frito-Lay”

ปัจจุบัน Curaleaf เติบโตขึ้นตามลำดับ ล่าสุด ตัวเลขรายได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ทะยานขึ้น 195% เป็น 182.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 ขณะที่ผลกำไรก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ บริษัทมีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 10.53 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ราคาหุ้นอยู่ที่ 15.90 เหรียญสหรัฐฯ (ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564) โดยหุ้นของบริษัทได้เติบโตถึง 137% ในปี 2563 ดีกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆในตลาดฯ

สำหรับอนาคตนั้นยังมีแนวโน้มสดใส เนื่องจาก Curaleaf ได้รับอานิสงค์จากการเติบโตของตลาดกัญชาในเชิงการแพทย์ที่เพิ่มมากขึ้นของสหรัฐฯ ตามแรงขับเคลื่อนของการค่อยๆเปิดเสรีของการใช้กัญชาหลังมีการแก้ไขกฎหมายในแต่ละรัฐ เห็นได้ว่า หลายรัฐได้มีการออกกฎหมายเพื่อรองรับการใช้กัญชาสำหรับผู้ใหญ่ ดังนั้น คาดว่าตลาดกัญชาสำหรับผู้ใหญ่ที่ผิดกฎหมายอยู่เดิมที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญ จะพลิกกลับมาอยู่บนดินอย่างถูกกฎหมาย รวมไปถึงการเข้ามาเป็นบริหารของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่จากพรรค Democrat ที่พรรคของเขาค่อนข้างจะสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากการใช้กัญชา ดังนั้น เชื่อว่า Curaleaf น่าจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้เต็มๆ เนื่องจากมีความพร้อมด้านต่างๆอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีร้านขายยาเครือข่ายที่จำหน่ายกัญชาของตนเอง 96 แห่งกระจายอยู่ในเมืองต่างๆ หรือไร่ที่ปลูกกัญชาอยู่ 23 แห่ง นอกจากนี้ ยังได้มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่ม เพื่อรองรับกับการขยายของตลาด

ผลที่ตามมาในปี 2565 คาดว่า Curaleaf จะเป็นบริษัทกัญชาที่สามารถทำกำไรได้สูงสุดเมื่อเทียบกับบริษัทกัญชาอื่นๆ และยังส่งผลให้หุ้นของ Curaleaf เป็นบริษัทหนึ่งที่น่าลงทุนอีกด้วย

 Beckham กระโดดเข้าร่วม

ข้ามมาฝั่งสหราชอาณาจักรกันบ้าง อุตสาหกรรมกัญชาก็ได้เริ่มก่อร่างสร้างตัวเช่นกัน ล่าสุดไม่น่านมานี้ สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า Cellular Goods บริษัทที่มุ่งเน้นผลิตสินค้าสกินแคร์และสินค้าที่เกี่ยวกับการกีฬาที่มีส่วนผสมของกัญชา จะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน  (London Stock Exchange: LSE) และคาดว่า จะเป็นบริษัทกัญชาแห่งแรกที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งนี้

การเข้าระดุมในตลาดฯครั้งนี้ Cellular Goods ได้ขายหุ้นบางส่วนให้กับ DB Ventures ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของ David Beckham โดย Cellular Goods มีแผนว่า จะออกสินค้าจำหน่ายในเดือนกันยายนปีนี้ โดยมุ่งเน้นจำหน่ายสินค้าที่เกิดจากการพัฒนาคิดค้นมากกว่าจำหน่ายกัญชาที่เป็นพืช

ในสหราชอาณาจักร บริษัทกัญชาสามารถเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นใน LSE ได้ ตราบใดที่บริษัทนั้นดำเนินธุรกิจกัญชาเพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ ซึ่งต่างจากสหรัฐฯ ที่เปิดโอกาสให้บริษัทกัญชาต่างๆสามารถผลิตกัญชาเพื่อใช้ในสันทนาการได้ ดังนั้น หากบริษัทกัญชาที่ผลิตสินค้าเพื่อสันทนาการต้องการจะมาระดมทุนที่ตลาด LSE ก็ไม่สามารถทำได้เพราะผิดกฎหมายของประเทศ

References:

  1. https://investorplace.com/2021/01/7-best-marijuana-stocks-on-the-market-today/?mod=mw_quote_news
  2. https://investorplace.com/2021/01/the-top-7-marijuana-stocks-to-buy-for-january/?mod=mw_quote_news
  3. https://www.businessleader.co.uk/david-beckham-backed-cellular-goods-to-sell-shares-on-lse/109498/
  4. https://thcaffiliates.com/cannabis-stats/
  5. https://edition.cnn.com/travel/article/amsterdam-cannabis-coffee-shops-restrictions/index.html
  6. https://www.bbc.com/news/business-55903814
  7. https://www.forbes.com/sites/willyakowicz/2020/11/27/inside-curaleaf-billionaire-boris-jordans-hunger-to-become-the-frito-lay-of-cannabis/?sh=770315222196

 

 

 

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this