ถึงเวลาองค์กรไทยปรับตัวสู่ดิจิทัล รับชีวิตวิถีใหม่

Published on

วิกฤตโควิด-19 สร้างโมเดลธุรกิจใหม่ เพิ่มโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ หรือขยายตลาดได้กว้างไกลกว่าเดิม เมื่อทุกองค์กรธุรกิจทั่วโลก ไม่เว้นไทย ต่างหันหัวรบสู่แพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัล อี-มาร์เก็ตเพลส และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น เฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ หนึ่งในเครื่องมือพัฒนาธุรกิจไทยก้าวสู่ดิจิทัล คือข่องทางหลักชดเชยรายได้

นครินทร์ เทียนประทีป ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าวว่า ในระหว่างที่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาได้มีส่วนกระตุ้นให้หลายองค์กรธุรกิจกล้าที่จะก้าวออกจากพื้นที่แสนสบาย หรือ Comfort Zone แบบเดิมๆ เปลี่ยน ผ่านสู่การทำงานบนฐานชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) โดยการใช้ประโยชน์จาก เครื่องมือดิจิทัลและข้อมูล ในการผสมผสานโครงสร้างพื้นฐานเข้ากับเทคโนโลยีขั้นสูง (High-end Technology) เช่น ไฮบริดคลาวด์ ไอโอที เอไอ/บ็อท ระบบการทำงานในองค์กรแบบอัตโนมัติ (Robotic Process Automation: RPA) เพื่อสร้างช่องทางปฏิสัมพันธ์หรือส่งต่อประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าที่มีพฤติกรรมการบริโภคและการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้

ดิจิทัลกับการปรับวิธีทำงาน-เสริมความเป็นทีม
สถานการณ์การแพร่ระบาดทำให้หลายองค์กรธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงาน เช่น การสร้างพื้นที่ทำงานเสมือน (Virtual Workplace) เพื่อรองรับการทำงานระยะไกลโดยอาศัย เทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง บิ๊ก ดาต้า เวอร์ชวลไลเซชัน (Virtualization) และระบบความปลอดภัย มาช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและศูนย์ข้อมูลหลักไว้รองรับการทำงานในสำนักงานและออนไลน์ผ่านอุปกรณ์ไอทีหรือไอโอทีจากที่ใดก็ได้ ผนวกกับการใช้ ครื่องมือบูรณาการสื่อสาร (Collaboration Tools) เช่น การประชุมแบบเสมือนผ่าน เทคโนโลยีเว็บ คอนเฟอเรนซ์ หรือ วิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการตัดสินใจในองค์กรร่วมกันแบบเป็นทีม รวมถึง โซลูชันฝึกอบรม เว็บ เทรนนิ่ง ไว้เสริมด้านการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะทักษะด้านไอทีซึ่งจำเป็นต่อธุรกิจที่ต้องการไปต่อในยุคชีวิตวิถีใหม่

ดิจิทัลกับโมเดลธุรกิจเชิงรุก
ช่องทางการค้าและบริการออนไลน์ ได้กลายเป็นโมเดลเชิงรุกยุคชีวิตวิถีใหม่ที่องค์กรธุรกิจเลือกใช้ในการสร้างนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน หรือแทนที่บางสายธุรกิจซึ่งไม่สามารถไปต่อด้วยวิธีเดิมๆ เช่น การปรับเปลี่ยนวิธีค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคจากหน้าร้านไปสู่ช่องทางการขายผ่าน แพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัล อี-มาร์เก็ตเพลส หรือ โซเชียลมีเดียต่าง ๆ อย่าง เฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ เพื่อชดเชยรายได้ช่วงวิกฤตโควิด-19 แต่กลับได้โมเดลธุรกิจใหม่ที่เพิ่มโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ หรือขยายตลาดได้กว้างไกลกว่าเดิม เช่นเดียวกับการปรับตัวของธุรกิจจัดอบรมสัมมนา ซึ่งเลือกปรับปรุงโมเดลธุรกิจด้วยการจัดคอร์สอบรมออนไลน์ผ่าน แพลตฟอร์มเว็บแคส (Webcast) หรือ เว็บบินาร์ (Webinar) หรือ ธุรกิจการจัดนิทรรศการหรือแฟชั่นโชว์ซึ่งใช้เทคโนโลยีวีอาร์ (VR) และเออาร์ (AR) ในการจัดแสดงงานแบบเสมือนจริงสามมิติ โดยสามารถกระจายการเข้าชมไปได้ทั่วประเทศหรือทั่วโลก

อีกหนึ่งโมเดลธุรกิจเชิงรุก คือ การปรับใช้โครงสร้างเดิมไปเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการใหม่ ๆ อาทิ ความร่วมมือระหว่างฟอร์ด จีเอ็ม และเทสล่า ที่ตัดสินใจปรับฐานการผลิตรถยนต์มาผลิตเครื่องช่วยหายใจและหน้ากากอนามัยชั่วคราว ซึ่งต้องอาศัยโครงสร้างการจัดการด้าน ซัพพลาย เชน ที่แข็งแกร่ง ผสมกับการตัดสินใจบนฐานข้อมูล บิสซิเนส อินเทลลิเจนซ์ ซึ่งสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้เหมาะกับสถานการณ์ขณะที่บางธุรกิจซึ่งปรับตัวได้ช้ากว่าก็เลือกการปรับโครงสร้างเพื่อรักษาธุรกิจเดิม เช่น ธุรกิจขนส่งพัสดุที่จับมือกับเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซเพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์ซึ่งเติบโตเป็นทวีคูณในช่วงที่ผ่านมา และมีท่าทีพัฒนาต่อเนื่องไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างโมเดลธุรกิจเชิงรุกข้างต้น จำต้องมีโซลูชันด้านความปลอดภัยของระบบเครือข่ายและข้อมูล เช่น ระบบป้องกันไวรัส เกตเวย์ ไฟร์วอลล์ เข้ามาเสริมความมั่นใจในการใช้งานไอทีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานผ่านคลาวด์ทุกประเภท การรับ-ส่งข้อมูลที่ได้มาจากการใช้งานเอไอ แมชชีนเลิร์นนิ่ง ไอโอที ตลอดจน การพัฒนาระบบพิสูจน์ตัวตน (Authentication) ในการขอเข้าใช้งานระบบหรือร้องขอข้อมูลเชิงลึก เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยไซเบอร์ และมาตรฐานจริยธรรมทางเทคโนโลยีที่โปร่งใสตรวจสอบได้ (Transparency and Traceability) ดังเช่น การปรับตัวของสถาบันการเงินยุคโควิด-19 ซึ่งมีการขยายบริการธุรกรรมออนไลน์ เช่น คิวอาร์โค้ด กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องมีระบบเฝ้าระวังการชำระเงินทางดิจิทัล การฟอกเงิน การปลอมแปลงที่ผิดกฎหมาย หรือการโจรกรรมการเงินผ่านออนไลน์ เป็นต้น

ดิจิทัลกับประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า
นับวัน กลยุทธ์ด้านลูกค้าสัมพันธ์ หรือ ซีอาร์เอ็ม ยิ่งมีความจำเป็นต่อการนำมาใช้เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในชีวิตวิถีใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า หรือสร้างความรู้สึกผูกพันกับสินค้าและบริการของเรา (Customer Engagement) เมื่อผสมด้วย กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลและการสื่อสารแบบออมนิ แชนเนล (Omni Channel) ในการเข้าถึงตัวลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายในทุกช่องทางสื่อสารทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียอย่าง เฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ จะยิ่งสร้างกิจกรรมส่งเสริมการขายหลายรูปแบบ

เช่น การสร้างหรือบอกเล่าเรื่องราวสินค้าและบริการให้แตกต่าง การสร้างกระแสบอกต่อ หรือเปิดการสื่อสารสองทางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในแบบอินเตอร์แอคทีฟมากขึ้น เช่น การทำไลฟ์สดขายสินค้าและบริการ การเว็บแคส หรือไลฟ์แชทเพื่อพูดคุยระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นต้น ทั้งนี้เพราะการตัดสินใจซื้อของลูกค้าจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกและประสบการณ์ที่มีต่อสินค้าและบริการนั้น ๆ ด้วย ซึ่งทำให้กลยุทธ์การตลาดที่เกี่ยวพันกับการสร้างความพึงพอใจหรือประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้ายิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต

สู่องค์กรพร้อมเปลี่ยนแบบ Agile
ท้ายที่สุด องค์กรธุรกิจควรเร่งยกระดับตัวเองสู่การเป็นองค์กรแบบอไจล์ (Agile) ให้พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจเชิงรุกเพื่อตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลง โอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า องค์กรจะประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะ ชุดความคิดแบบอไจล์ (Agile Mindset) ควบคู่กับ ชุดความคิดแบบดิจิทัล (Digital Mindset) ในระดับผู้บริหารและพนักงานได้หรือไม่ เพราะการกระตุ้นให้บุคลากรทุกระดับตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาในการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง

และพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูง จะมีส่วนสำคัญต่อการเตรียมบุคลากรให้พร้อมรับการปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ ภายใต้การสื่อสารและการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างมูลค่าเพิ่มหรือคุณค่าใหม่ให้กับสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตามต้องการและทันท่วงที ซึ่งนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตราสินค้าและธุรกิจในฐานะองค์กรดิจิทัลที่ก้าวและเท่าทันยุคชีวิตวิถีใหม่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this