มาสเตอร์การ์ด เผย 79% ของประชากรทั่วโลก จ่ายแบบคอนแทคเลส

Published on

มาสเตอร์การ์ดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนไป จาก 19 ประเทศ พบว่า การใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ต่อไปเหมือนเดิมหลังจากผ่านวิกฤติโรคโควิด-19 ครั้งนี้ไปแล้ว

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่ผ่านมา หลายประเทศออกกฎระเบียบคุมเข้มมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ทำให้ผู้คนจำนวนมากหันไปใช้จ่ายแบบ “คอนแทคเลส” หรือ “การใช้จ่ายแบบไร้สัมผัส” ในการจับจ่ายของใช้ในชีวิตประจำวัน จากผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกของมาสเตอร์การ์ด 79% ของประชากรทั่วโลกและ 91% ของประชากรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า ตอนนี้พวกเขาได้หันมาใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสแล้ว โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยและลดความกังวลในการสัมผัสเงินสดและอุปกรณ์ต่างๆของการชำระเงิน

ทั้งนี้เมื่อต้องออกไปซื้อของข้างนอก พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปสามารถเห็นได้ชัดเจนเมื่อถึงเวลาจ่ายเงินที่แคชเชียร์ ผู้คนเริ่มแสดงความต้องการชำระสินค้าด้วยรูปแบบคอนแทคเลส รวมทั้งแสดงความกังวลเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยของจุดชำระเงิน

ผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคของมาสเตอร์การ์ด เผย:
• บัตรคอนแทคเลสถูกเก็บเป็นใบแรกๆ ในกระเป๋าเงิน – การคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการแตะเพื่อจ่ายทำให้ผู้คนหันมาใช้บัตรคอนแทคเลสมากขึ้น 46% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ทั่วโลกได้เปลี่ยนบัตรชำระเงินที่ใช้เป็นประจำเป็นบัตรที่รองรับระบบคอนแทคเลส เช่นเดียวกันกับ 51% ของประชากรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่หันมาใช้บัตรที่รองรับระบบคอนแทคเลสแล้วเช่นกัน

• ผู้คนมั่นใจกับการใช้จ่ายแบบคอนแทคเลส – โรคโควิด-19 ทำให้เกิดความกังวลในการใช้เงินสดและนำไปสู่ทัศนคติที่ดีต่อการใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยและความสบายใจ 82% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกมองว่าการใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสเป็นช่องทางการชำระเงินที่ลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของเชื้อที่ดีกว่า ซึ่ง 80% ของผู้ตอบแบบสอบถามในเอเชียแปซิฟิกมองแบบเดียวกัน นอกจากนี้ เพราะการใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสเร็วกว่าการใช้จ่ายที่ไม่ใช่คอนแทคเลสถึง 10 เท่า ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้า-ออกร้านค้าได้เร็วขึ้น ผู้คนจึงมีความมั่นใจต่อการใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสมากขึ้น

• การใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสจะอยู่กับเราต่อไป – ตอนนี้เป็นช่วงที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับวิธีการชำระเงินเป็นอย่างมาก การใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสในประเทศที่มีการใช้อย่างแพร่หลายอยู่แล้วถูกนำมาปรับใช้มากขึ้นอีก ในขณะเดียวกันก็เกิดการกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายเงินแบบคอนแทคเลสในประเทศ ที่วิธีนี้ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย จากผลสำรวจ 74% ของประชากรทั่วโลก และ 75% ของประชากรในเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า พวกเขาจะยังคงใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสต่อไปแม้จะผ่านวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ไปแล้ว

“ผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ดแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนไปใช้จ่ายแบบคอนแทคเลส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้วิธีการชำระเงินและการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของผู้คนเปลี่ยนไป” แซนดีป มอลโฮทรา รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด กล่าว “ความจริงที่ว่า 3 ใน 4 ของประชากรมีความตั้งใจที่จะใช้จ่ายแบบคอนแทคเลส หรือ แตะเพื่อจ่ายต่อไป แม้สถานการณ์โควิดจะจบลง เป็นสัญญาณที่ชัดเจนจากผู้บริโภคถึงประโยชน์ของการใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสในระยะยาวในเรื่องของความปลอดภัย ความสะอาด ความรวดเร็วและความรับผิดชอบต่อสังคม”

การเติบโตของการใช้จ่ายแบบคอนแทคเลส
มาสเตอร์การ์ดเป็นผู้นำในการผลักดันให้มีการใช้ระบบคอนแทคเลสในการชำระเงินทั่วโลก เพื่อให้มีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย สอดคล้องกับความต้องการปัจจุบันของผู้บริโภคที่มองหาวิธีที่พวกเขาสามารถเข้า-ออกร้านค้าได้เร็วที่สุดโดยที่ไม่ต้องสัมผัสกับจุดชำระเงิน มาสเตอร์การ์ดพบว่ายอดการทำธุรกรรมแบบคอนแทคเลสเติบโตกว่า 40% ทั่วโลกในไตรมาสแรกของปี 20201 โดยที่กว่า 80% ของการทำธุรกรรมมีมูลค่าต่ำกว่า 25 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 800 บาท ซึ่งโดยปกติจะเป็นการใช้จ่ายด้วยเงินสดเสียมากกว่า

แม้ว่าแต่ละประเทศจะอยู่ในช่วงที่ต่างกันของการนำคอนแทคเลสมาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ด้วยพฤติกรรมและการเลือกวิธีการชำระเงินของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ข้อมูลเชิงลึกจากผลสำรวจของมาสเตอร์การ์ดพบว่า แนวโน้มการจับจ่ายด้วยบัตรคอนแทคเลสเพื่อซื้อสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันในร้านสะดวกซื้อและร้านขายยาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเกือบทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยที่การใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสทั่วโลกเติบโตสูงกว่าการใช้จ่ายที่ไม่ใช่คอนแทคเลส 2 เท่า1 และ 2.5 เท่าสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก2

ในเดือนที่ผ่านมามาสเตอร์การ์ดได้ประกาศเพิ่มวงเงินสำหรับบัตรคอนแทคเลสใน 50 กว่าประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียน และประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมาสเตอร์การ์ดในการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ร้านค้าและธุรกิจขนาดเล็กว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีเครื่องมือในการทำธุรกรรมการเงินที่ปลอดภัยและจะยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้ในช่วงวิกฤติโควิดนี้

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this