แอพ iCanPlan เฝ้าระวังความรุนแรงในครอบครัว แคมเปญ “ทีมเผือกชุมชน”

Published on

เครือข่ายเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิงผนึกจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชูแคมเปญ #ทีมเผือกneighborhood หรือ “ทีมเผือกชุมชน” เฝ้าระวังความรุนแรงในครอบครัว ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมเปิดตัว แอพพลิเคชั่น iCanPlan เทคโนโลยีประเมินความสัมพันธ์ชีวิตคู่

ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ กล่าวว่า เป้าหมายของเครือข่ายเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิงคือการสร้างพื้นที่ปลอดภัยกับผู้หญิงในสังคม ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้น คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น เพราะไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้าน หรือว่างงาน คนจำนวนมากมีปัญหาเรื่องรายได้ที่ลดลง จนเกิดความเครียด นำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์กับคนในบ้าน ซึ่งในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส มีข้อมูลที่แสดงว่าช่วงวิกฤตโควิด-19 มีความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มมากขึ้น

โดยหน่วยงานในฝรั่งเศสได้เพิ่มช่องทางให้ผู้หญิงที่ประสบเหตุความรุนแรงในครอบครัวจากการถูกกักตัวอยู่ในบ้านสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือที่ร้านขายยาได้ ซึ่งเมื่อมีการประชาสัมพันธ์ออกไปพบว่า ในช่วงการระบาดของโควิด-19 มีเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงเวลาปกติถึงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

ดร.วราภรณ์ แช่มสนิท

ในประเทศไทย ที่ผ่านมาในเวลาปกติคนที่ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวและออกมาแจ้งเหตุมีจำนวนน้อยอยู่แล้ว อีกทั้งตามปกติกระทรวงสาธารณสุขจะมีศูนย์บริการช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง หรือ “ศูนย์พึ่งได้” ตามโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยผู้หญิงหรือเด็กที่ไปพบแพทย์เพราะถูกทำร้ายร่างกายหรือมีปัญหาสุขภาพจิตจากการถูกกระทำรุนแรงก็จะถูกส่งตัวมารับความช่วยเหลือที่ศูนย์นี้

แต่เมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 โรงพยาบาลส่วนใหญ่มีภาระงานเพิ่มขึ้น และมีนโยบายไม่สนับสนุนให้คนไปโรงพยาบาลเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ โอกาสที่ผู้หญิงและเด็กจะได้รับความช่วยเหลือผ่านช่องทางนี้จึงน้อยลง นอกจากนี้ ในกรณีของเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายในบ้าน ส่วนใหญ่จะถูกสังเกตโดยครู แต่ขณะนี้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน ดังนั้นโอกาสที่ครูหรือบุคคลภายนอกจะช่วยสอดส่องป้องกันหรือช่วยเหลือเด็กถูกทำร้ายในครอบครัวจึงลดน้อยลง

ในโซเชียลและข่าวตามสื่อต่าง ๆ เราเริ่มเห็นกรณีของคนที่มีปัญหาความสัมพันธ์ซึ่งเป็นผลมาจากโควิด-19 ชัดเจนมากขึ้น บางรายมีการใช้ความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่อยู่เป็นคู่ แต่ก่อนเคยมีเวลาที่ต่างคนต่างออกไปทำงาน มีรายได้ปกติ แต่ตอนนี้ต้องทำงานอยู่ที่บ้าน ถูกลดชั่วโมงทำงาน หรือตกงาน และต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมงร่วมกันในพื้นที่จำกัด ไม่มีกิจกรรมที่จะดึงดูดความสนใจ ออกไปข้างนอกไม่ได้ หลายรายมีรายได้ลดลง ความเครียดจึงเพิ่มมากขึ้น โอกาสที่จะกระทบกระทั่งจนเกิดความรุนแรงก็มีมากขึ้น และความรุนแรงในครอบครัวไม่ได้จำกัดเฉพาะระหว่างผู้หญิง-ผู้ชาย สามี-ภรรยา หรือคนที่เป็นคู่รักกันเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของความรุนแรงในเด็กด้วย

ดร.วราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะทีมเผือกจึงอยากจะชวนประชาชนที่สนใจมาเป็นทีมเผือกช่วยกันสอดส่องและช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหา ผ่านแคมเปญ “#ทีมเผือกneighborhood” หรือ “ทีมเผือกชุมชน” ซึ่งคนที่ประสบปัญหาความรุนแรงที่เราจะสอดส่องดูแลช่วยเหลือก็ไม่ใช่เฉพาะคนแถวบ้าน แต่อาจเป็นเพื่อน เป็นคนรู้จัก หรือเพื่อนร่วมงานกับเราก็ได้ โดยในช่วงแรกนี้อยากเชิญชวนให้คนเข้ามาทดลองใช้และส่งต่อ “แอพพลิเคชั่น iCanPlan” ที่จะช่วยให้คนที่กำลังมีปัญหาความสัมพันธ์สามารถประเมินได้ว่าตนเองกำลังถูกใช้ความรุนแรงหรือไม่

“แอพพลิเคชั่น iCanPlan เป็นชุดคำถามสำหรับประเมินตัวเองว่าสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่เป็นความรุนแรงหรือไม่ สำหรับคนที่กำลังเผชิญปัญหาความสัมพันธ์ เขาสามารถทำแบบสอบถามในแอพพลิเคชั่นเพื่อประเมินว่าเขากำลังเจอกับความรุนแรงอยู่ไหม และเป็นความรุนแรงระดับใด แต่ถ้าตัวเราเองไม่เจอปัญหา อย่างน้อยเราก็สามารถส่งเครื่องมือนี้ให้เพื่อน เป็นช่องทางสื่อสารกับเพื่อนว่าเราใส่ใจเขาอยู่นะ เป็นการถามไถ่อ้อม ๆ ว่าเขามีปัญหาอะไรไหม หากมีปัญหาจะได้หาช่องทางช่วยเหลือกัน โดยในระยะต่อไป ทางเครือข่ายเมืองปลอดภัยเพื่อผู้หญิงจะเผยแพร่ชุดข้อมูลการรับมือกับปัญหา โดยเฉพาะกรณีที่เป็นความตึงเครียดระดับที่ไม่รุนแรงมาก ไม่ถึงกับมีการทำร้ายร่างกายกัน จะจัดการอย่างไร บางทีเพื่อนอาจจะต้องคนที่จะรับฟังให้เขาได้ระบายความอึดอัดหรือความเครียด แต่หากถึงขั้นที่มีการทำร้ายร่างกายกัน เริ่มมีอันตรายมากขึ้น ทางเครือข่ายเมืองปลอดภัยฯ จะรวบรวมข้อมูลช่องทางติดต่อหน่วยที่ทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาเพื่อเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาต่อไป” ดร.วราภรณ์ กล่าว

ด้านดร.มนทกานติ์ เชื่อมชิต อาจารย์ประจำวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทีมวิจัยและพัฒนาแอพพลิเคชั่น iCanPlan กล่าวว่า ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เรื่องนี้จึงไม่ควรถูกมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงทางจิตใจ ทางร่างกายหรือทางเพศ เพราะเมื่อความรุนแรงเกิดขึ้น และมีการกระทำต่อเนื่องจนเป็นวงจรไม่มีที่สิ้นสุด จะทำให้กลายเป็นแนวโน้มที่จะยอมรับและใช้ความรุนแรงในชีวิตคู่ของตัวเอง ซึ่งเมื่อเห็นปัญหาจึงเริ่มทำงานวิจัย เพื่อสำรวจปัญหาความรุนแรงในประเทศและพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อช่วยเหลือวางแผนความสัมพันธ์ในชีวิตคู่

จากงานวิจัยพบว่า 1 ใน 6 ของผู้หญิงไทยหรือคิดเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ เคยเจอความรุนแรงในครอบครัวไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ทั้งทางจิตใจ ร่างกายและทางเพศ แต่มีผู้หญิงถึง 78 เปอร์เซ็นต์ไม่เคยขอความช่วยเหลือเพราะอาย และไม่ทราบว่าจะเข้าถึงแหล่งช่วยเหลือได้อย่างไร ซึ่งผลจากผลวิจัยนี้ ทำให้ทีมคิดต่อว่าควรจะมีเทคโนโลยีเพื่อช่วยประเมินความสัมพันธ์ในชีวิตคู่เพื่อให้คำปรึกษาและคำแนะนำในการวางแผนชีวิตคู่ก่อนที่จะเกิดความรุนแรงได้ในอนาคต

สำหรับแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ประกอบไปด้วย 4 ส่วน คือ 1.แบบวัดความสัมพันธ์และความรุนแรงในชีวิตคู่ เพื่อประเมินความสัมพันธ์ในครอบครัวเชิงลึกครอบคลุมร่างกาย จิตใจ รวมกว่า 30 ข้อ 2.ผลการประเมินพร้อมคำแนะนำเบื้องต้น ผ่านระบบประมวลผลออกเป็น 3 ระดับ คือ 1)ไม่มีประสบการณ์ความรุนแรง 2)มีประสบการณ์ความรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระดับต่ำ 3)มีประสบการณ์ความรุนแรงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระดับสูง 3.รวบรวมช่องทางการสืบค้นการช่วยเหลือครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

โดยระบบจะสืบหาสถานที่ที่ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัยของผู้ทำแบบทดสอบให้ และ4.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความรุนแรงในชีวิตคู่ผ่านการสื่อสารที่เข้าใจง่ายด้วยภาพอินโฟกราฟฟิก ซึ่งหลังจากหลังเปิดให้มีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าใช้งานหลายร้อยคนซึ่งผลจากการประเมิน พบว่า ความรุนแรงในครอบครัวเกิดขึ้นกับคนทุกเพศ ทุกวัยและทุกความสัมพันธ์ โดยไม่แบ่งฐานะหรือการศึกษา และที่สำคัญผู้หญิงเคยมีประสบการณ์ความรุนแรงในชีวิตคู่มากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า

“iCanPlanจะช่วยวางแผนรับมือปัญหาความรุนแรงได้เป็นอย่างดีและเหมาะสมและตอบโจทย์กับช่วงเวลานี้ที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้าน เนื่องจากการวิจัย เราพบว่าความเครียดถือเป็นปัจจัยร่วมที่กระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงได้ง่าย ยิ่งในช่วงนี้หลายคนเครียด ตกงานและออกไปไหนไม่ได้ ดังนั้น iCanPlan จะเข้ามาช่วยให้สามารถวางแผน ตั้งรับและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมบอกช่องทางการช่วยเหลือในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต่อไปจะมีการพัฒนาการสื่อสารของแอพพลิเคชั่นให้สามารถโต้ตอบและแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากยิ่งขึ้น จากเดิมเป็นการสื่อสารแบบทางเดียวหรือตั้งรับ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและการช่วยเหลือได้ทันทีทันใด สามารถวางแผนให้ได้ผ่านระบบเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้ในต่างประเทศกำลังทดลองระบบว่าได้ประสิทธิภาพหรือไม่” ทีมวิจัยและพัฒนาแอพพลิเคชั่น iCanPlan กล่าว

สำหรับแอพพลิเคชั่น iCanPlan สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ที่ App Store บนอุปกรณ์โทรศัพท์ของทุกคน

Latest articles

สกพอ. เดินหน้าดึงเอกชนชั้นนำญี่ปุ่น ร่วมลงทุนอุตสาหกรรม BCG การแพทย์ พื้นที่ EEC

“สกพอ. จับมือ กนอ. เยือนนครโอซากา เดินหน้าดึงเอกชนชั้นนำญี่ปุ่น ร่วมลงทุนอุตสาหกรรม BCG การแพทย์ และการพัฒนาเมืองใหม่พื้นที่อีอีซี

โอซีซี เดินหน้าโครงการ “ผมสวย ด้วยรัก ครั้งที่ 73” ตัดผมฟรีให้บ้านนนทภูมิ

กรกช ลิมพะสุต ผู้จัดการโครงการ CSR บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) นำทีมงาน CSR ทีมช่างผมจาก Black Amber, Easy cut ร่วมตัดผมให้กับน้อง ๆ กว่า 80 คน เพื่อสุขอนามัยที่ดี รวมถึงช่วยแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่ ผ่านกิจกรรม CSR “ผมสวย…ด้วยรัก ครั้งที่ 73” 

มูฟออนให้สุด เที่ยวไม่สะดุดกับ Trip.com พลิกโฉม BTS พร้อมสิทธิพิเศษจาก Travel Card

Trip.com ร่วมกับ ททท. และ One Bangkok เปิดตัวแคมเปญ "มูฟออนให้สุด เที่ยวไม่สะดุดกับ Trip.com" เนรมิต 3 สถานี BTS เป็นแลนด์มาร์กสุดปัง พร้อมออกบัตร BTS รุ่นพิเศษสิทธิประโยชน์คุ้มค่าตอบโจทย์นักท่องเที่ยว

ซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส เปิดตัว “MAMMOMAT B.brilliant” เครื่องแมมโมแกรม 3 มิติรุ่นล่าสุด

ซีเมนส์ เฮลท์ธิเนียร์ส (Siemens Healthineers) ผู้นำด้านนวัตกรรมการแพทย์ระดับโลก เดินหน้ารับมือวิกฤตมะเร็งเต้านมซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของโลก โดยคิดค้นและพัฒนาเครื่องแมมโมแกรม 3 มิติรุ่น ‘MAMMOMAT B.brilliant’ โดยชูเทคโนโลยี PlatinumTomo รองรับการตรวจและวินิจฉัยโรคที่แม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

More like this