ม.มหิดล ชี้รังสี UV ฆ่าเชื้อไวรัส Covid-19 ได้ หากใช้ถูกวิธี

Published on

รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ แสง UV เป็นสเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีความถี่ที่สูงกว่าช่วงของแสงที่ตาเรามองเห็นได้ปรกติ โดยแสง UV-C เป็นแสง UV ที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กหรือเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งนี้ การใช้แสง UV แม้จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่ต้องระมัดระวังหากนำไปใช้ไม่ถูกวิธีอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่แนะนำให้ใช้แสง UV ในการฆ่าเชื้อโรคบนร่างกายมนุษย์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภาพงษ์ พงษ์นภางค์ หัวหน้าภาควิชารังสีเทคนิค คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานภูมิภาคเอเชียและออสเตรเลีย สมาคมรังสีเทคนิคนานาชาติ กล่าวว่า UV-C เป็นรังสียูวีที่มีความยาวคลื่นสั้น หากใช้ด้วยความเข้ม หรือระดับปริมาณที่เหมาะสม จะมีคุณสมบัติในการทำลายจุลชีพ ซึ่งรวมถึงเชื้อไวรัส Covid-19 ได้ โดยความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการทำลายเชื้อจุลชีพอยู่ที่ประมาณ 200 – 313 นาโนเมตร โดยค่าที่ดีที่สุดอยู่ที่ 260 นาโนเมตร

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภาพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ไวรัสแต่ละชนิดมีความทนต่อยูวีต่างกัน ซึ่งการทำลายเชื้อจะเกิดขึ้นเวลาที่ตัวรังสี UV เข้าไปตกกระทบกับตัวไวรัส แล้วไปทำลายโครงสร้างของตัวไวรัส ทำให้ไม่สามารถที่จะจำลองตัวเอง เพื่อที่จะขยายจำนวนได้ต่อไป เป็นการทำให้เชื้อตาย โดยที่ต้องใช้พลังงานจากรังสี UV ที่เหมาะสม ซึ่งในส่วนของรังสี UV-C ไม่ใช้ฆ่าเชื้อกับคน แต่จะใช้ฆ่าเชื้อที่อยู่บนพื้นผิววัสดุต่าง ๆ เช่น มือถือ พวงกุญแจ หรือวัสดุที่ไม่สามารถซักล้างทำความสะอาดได้

“จริงๆ แล้ว UV คลื่นอื่น ๆ ก็ใช้ฆ่าเชื้อได้เหมือนกัน แต่ต้องใช้เวลานานกว่า เพราะว่ามีพลังงานที่ต่างกันมาก เช่น เวลาเราออกไปตากแดด โดนรังสี UV-A และ UV-B กว่าผิวจะไหม้ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่ถ้าเป็น UV-C จะใช้เวลาเพียงไม่ถึงนาทีเท่านั้น หากอยู่ในระยะใกล้ และมีความเข้มสูง เพราะฉะนั้น หากเราจะใช้เครื่องที่ใช้ฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C ต้องมั่นใจว่าเป็นเครื่องที่ได้มาตรฐาน และมีความถี่ที่เหมาะสม ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ เราควรป้องกันตัวเองด้วย ซึ่งหากเป็นเครื่องที่ปล่อยแสง UV-C ในกล่อง หรือภาชนะปิดจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าถ้าเป็นแสงไฟที่ซื้อมาเป็นหลอดที่ปล่อย UV-C ออกมา เวลาใช้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง หากจะใช้ฆ่าเชื้อในห้อง เวลาเปิดหลอดไฟไม่ควรจะเข้าไปอยู่ในห้อง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผิว และดวงตา ซึ่งหากแสงส่องโดนผิวหนังโดยตรง อาจทำให้เซลล์ผิวหนังถูกทำลาย และมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนัง และหากแสงสาดเข้ามาในดวงตา อาจทำให้ตาอาจเป็นต้อ หรือเกิดความผิดปกติได้ จากการโดนรังสีทำลายกระจกกับเลนส์ตา ดังนั้น จึงควรที่จะต้องจัดเตรียมทุกอย่างไว้ก่อน แล้วให้ตัวเราอยู่นอกห้อง ก่อนเปิดสวิตช์ ให้แสงออกมา แล้วทิ้งไว้ในระยะเวลาที่พอสมควร จึงปิดหลอดไฟ”

“บุคลากรทางรังสีเทคนิค เป็นบุคลากรสำคัญในการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วย Covid-19 โดยจะต้องมีการสัมผัสกับตัวผู้ป่วย จากการเอกซเรย์ปอด และทำ CT Scan ฯลฯ ซึ่งต่อไปทางภาควิชารังสีเทคนิค คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล จะเปิดโอกาสให้อาจารย์ ตลอดจนนักศึกษาในภาควิชาฯ ได้มีการเรียนรู้ และทำงานวิจัยในเรื่องของรังสี UV กันให้มากขึ้น เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งเราปฏิบัติงานโดยมุ่งหวังให้ผู้ป่วยปลอดภัย และตัวเราเองปลอดภัยด้วย” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นภาพงษ์ พงษ์นภางค์ กล่าวทิ้งท้าย

Latest articles

“เชลล์แชมเปียนส์ลีก ชิงแชมป์สามช่างยนต์ระดับประเทศ ปีที่ 2”

“เชลล์แชมเปียนส์ลีก ชิงแชมป์สามช่างยนต์ระดับประเทศ ปีที่ 2” ดันช่างยนต์ไทยสู่เวทีโลก ผนึกกำลังกรมพัฒนาฝีมือแรงงานยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานไทย

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย.จัดกิจกรรม “Ultimate Marketing Plan Contest 2025”

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ร่วมกับ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จัดกิจกรรม “Ultimate Marketing Plan Contest 2025” สร้างนักการตลาดรุ่นใหม่ ต่อเนื่องเป็นปีที่...

ยัวซ่าแบตเตอรี่ ฉลอง 2,600 วันแห่งความปลอดภัย ปักหมุดองค์กรต้นแบบ Zero Accident

บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัย (Safety First) จนประสบความสำเร็จในโครงการ Zero Accident 2,600 วัน แห่งวัฒนธรรม “ปลอดภัยอย่างยั่งยืน”

PTG ผนึก รพ.ศิริราช จัดโครงการ “บริจาคโลหิต ให้เลือด ให้ชีวิต เพื่อคนไทย อยู่ดีมีสุข”

PTG ผนึก รพ.ศิริราช จัดโครงการ “บริจาคโลหิต ให้เลือด ให้ชีวิต เพื่อคนไทย อยู่ดีมีสุข #1” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในไทย ผ่าน 'PTG Social Innovation' ใช้สถานีบริการน้ำมันเป็นศูนย์รับบริจาคโลหิต แก้ปัญหาเลือดขาดแคลนอย่างยั่งยืน

More like this