depa เดินหน้าแก้ปัญหาเมืองอัจฉริยะ

Published on

เมืองอัจฉริยะ หรือ “Smart City” เป็นสิ่งที่หลายเมืองใหญ่ทั่วโลกกำลังเดินหน้าพัฒนา ซึ่งเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะก็เพื่อการ “สร้างคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น” สำหรับประเทศไทย “เมืองอัจฉริยะ” กำลังเป็นโครงการระยะยาว ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) มุ่งพัฒนาให้เกิดขึ้นจริง แต่การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้ต้องเกิดจากการร่วมกันทำงานของหลายภาคส่วน เพื่อร่วมกันหาโซลูชั่น ในการขับเคลื่อนโครงการเมืองอัจฉริยะ ที่จะตอบโจทย์และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างแท้จริง

หนึ่งในภาคส่วนที่ depa ให้ความสำคัญคือการสนับสนุน ภาคประชาชนผ่านตัวแทนจังหวัด และภาคเอกชนอย่างสตาร์ทอัพ ผ่านโครงการ depa Accelerator 2019 โดยคำนึงอยู่เสมอว่า การพัฒนาเมืองไม่สามารถทำได้เพียงภาคส่วนเดียวแต่ต้องร่วมมือกันระหว่างภาคประชาชนผู้อยู่ในพื้นที่ ภาครัฐ และภาคเอกชน

ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โครงการ depa Accelerator 2019 ได้เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพ เข้าร่วมโครงการ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้าง “เมืองอัจฉริยะ” และได้คัดเลือกจนเหลือ 20 ทีมสุดท้าย ซึ่งตอนนี้โครงการได้มีการจัดกิจกรรมทุกสัปดาห์เพื่อเสริมสร้างความรู้และเตรียมตัวสร้างโซลูชั่น ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเสวนา Smart City Development กับตัวแทนจังหวัดจากเมืองอัจฉริยะ 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และภูเก็ต ที่มาเล่าถึงปัญหาและความต้องการในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันให้แก่สตาร์ทอัพ ที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อที่จะเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการพัฒนาโซลูชั่น เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริง

เริ่มต้นที่ จังหวัดชลบุรี ในจังหวัดชลบุรีมีโมเดลการพัฒนาหลายโครงการ รวมถึงงบประมาณที่พร้อมลงมือทำในด้าน Logistic ซึ่งคือ “เรือ, รถ, ราง” ให้ถูกนำมาพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดแต่สิ่งที่ทางจังหวัดยังขาดคือ บุคลากรหรือสตาร์ทอัพในการคิดแก้ปัญหา รวมถึงมาพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้จริง

ส่วนที่ จังหวัดเชียงใหม่ จากการที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้คนเชียงใหม่ต้องการความปลอดภัยที่ครอบคลุมมากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามารวมถึงประชาชนที่อยู่ในจังหวัด อีกหนึ่งปัญหาคือด้านการจราจร เนื่องจากเมืองเชียงใหม่บริเวณคูเมืองซึ่งเป็นพื้นที่เก่า ถนนค่อนข้างแคบทำให้เกิดรถติดจากปริมาณคนที่เข้ามามากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาการจอดรถบริเวณถนนเส้นหลักในคูเมืองที่มีคนจอดรถทำให้รถติด, ปัญหาสิ่งแวดล้อม ฝุ่น PM 2.5, ชุมชนหลักในเมืองที่เป็นผู้สูงอายุและเด็กต้องการการดูแลสุขภาพ

ด้านจังหวัดขอนแก่นที่ตอนนี้มีการพัฒนาขนส่ง มี Smart Bus ซึ่งทำได้แล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น ด้านสุขภาพทางโรงพยาบาลขอนแก่นอยากเก็บข้อมูลสุขภาพบุคคลเพื่อนำข้อมูลมาสร้างสุขภาวะที่ดีให้คนขอนแก่น ซึ่งโซลูชั่นด้านนี้ก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ขอนแก่นเช่นกัน นอกจากนี้จากการที่สถานที่รองรับการท่องเที่ยวและการจัดประชุม เป็นส่วนที่ยังไม่พัฒนามากนัก ทางจังหวัดจึงกำลังผลักดันเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งทางจังหวัดยังต้องการสตาร์ทอัพที่มีโซลูชั่นเข้ามาร่วมกันช่วยกันทำงาน

และปิดท้ายที่จังหวัดภูเก็ต ที่กำลังมุ่งเน้นการยกระดับการขนส่งสาธารณะของจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีไม่มากนัก ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูง ประเด็นด้านความปลอดภัยที่ต้องการโซลูชั่นมาช่วยตำรวจหรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมถึงการขนส่งทางน้ำด้วย อีกด้านที่กำลังมุ่งเน้นคือด้านพลังงาน จากสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะและมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้พลังงานมีไม่เพียงพอ และสุดท้ายคือด้านการท่องเที่ยวที่ปัจจุบันยังไม่มีโซลูชั่นเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว

นอกจากการพูดคุยกับตัวแทนแต่ละจังหวัดแล้ว ทางโครงการยังได้นำภาคเอกชน คือ siri ventures มาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยในส่วนของ Digital Solution ที่เข้ามาตอบโจทย์ Smart Living ของคนกรุงเทพ ซึ่ง siri ventures มีแกนหลักที่อยากพัฒนา การลงทุนในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของคน เช่น ด้านของการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ ด้านการดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ซึ่ง siri ventures มองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการได้โซลูชั่นใหม่ๆ จากสตาร์ทอัพของโครงการ

หลังจากได้รับฟังเสียงตัวแทนจาก 4 จังหวัดและประสบการณ์จากภาคเอกชนสตาร์ทอัพ ทั้ง 20 ทีม ที่เข้าร่วมโครงการ depa Accelerator 2019 จะนำโจทย์สำคัญจากข้อมูลที่ได้มาต่อยอดว่าโซลูชั่นที่แต่ละทีมมีอยู่นั้นว่าจะตรงกับปัญหาของจังหวัดไหนหรือสามารถนำมาใช้ในการพัฒนางานของตนได้หรือไม่

สุดท้ายแล้วสตาร์ทอัพ ทีมใดจะถูกเลือกและตอบโจทย์ปัญหาในจังหวัดใดคงต้องมารอลุ้นกันต่อในรอบ Demo Day ที่จะจัดขึ้นใน วันที่ 13 มีนาคม 2020 นี้ (รายละเอียด เวลา และสถานที่ โปรดติดตามได้ที่เพจ Techsauce เร็วๆ นี้) โดยงานนี้เปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาฟังการนำเสนอผลงานรอบตัดสินพร้อมลุ้นกันว่าทีมใดจะเป็น The Winner ของโครงการ depa Accelerator 2019

Latest articles

ยัวซ่าแบตเตอรี่ ฉลอง 2,600 วันแห่งความปลอดภัย ปักหมุดองค์กรต้นแบบ Zero Accident

บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าสร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัย (Safety First) จนประสบความสำเร็จในโครงการ Zero Accident 2,600 วัน แห่งวัฒนธรรม “ปลอดภัยอย่างยั่งยืน”

PTG ผนึก รพ.ศิริราช จัดโครงการ “บริจาคโลหิต ให้เลือด ให้ชีวิต เพื่อคนไทย อยู่ดีมีสุข”

PTG ผนึก รพ.ศิริราช จัดโครงการ “บริจาคโลหิต ให้เลือด ให้ชีวิต เพื่อคนไทย อยู่ดีมีสุข #1” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในไทย ผ่าน 'PTG Social Innovation' ใช้สถานีบริการน้ำมันเป็นศูนย์รับบริจาคโลหิต แก้ปัญหาเลือดขาดแคลนอย่างยั่งยืน

โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย เดินหน้าลดขยะอาหาร ตอกย้ำพันธกิจสู่ความยั่งยืน

โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย ผู้นำระดับโลกด้านบริการอาหารอย่างยั่งยืนและการมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าในทุกช่วงเวลาของชีวิตจากประเทศฝรั่งเศส เดินหน้าตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืนผ่านกิจกรรม “WasteWatch & WasteWise Champion 2025” อย่างต่อเนื่อง

AESLA จัดงานสัมมนาองค์ความรู้ด้านเวชศาสตร์ความงามเกี่ยวกับโพลินิวคลีโอไทด์

เอสล่า (AESLA) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ด้านความงามและเวชสำอางชั้นนำระดับโลกที่ผ่านมาตรฐาน U.S. FDA และ Gold Standard จัดงานสัมมนาเชิงวิชาการ “Seeing is Believing: Trusted Science, Visible Results with Polynucleotides”

More like this