กรมควบคุมโรค -เครือข่าย ขับเคลื่อนกลไก อาสาสมัครองค์กรภาคประชาสังคม

Published on

กรมควบคุมโรค จับมือเครือข่าย ขับเคลื่อนกลไกรับรองอาสาสมัครองค์กรภาคประชาสังคม มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดบริการในชุมชน เร่งยุติปัญหาเอดส์ ภายในปี 2573

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จับมือภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศขับเคลื่อนกลไกรับรองอาสาสมัครองค์กรภาคประชาสังคม ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดบริการเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในชุมชน เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการป้องกันและดูแลรักษาเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้สะดวก ปลอดภัย และเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มุ่งสู่เป้าหมายยุติปัญหาเอดส์ในประเทศไทย ภายในปี 2573

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับประเทศ เรื่อง การพัฒนาแนวทางการรับรองอาสาสมัครองค์กรภาคประชาสังคมในการจัดบริการด้านเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อยุติปัญหาเอดส์ ว่า ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายในการยุติเอดส์ภายในปี 2573 และได้เร่งรัดด้านการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มประชากรหลัก เพื่อนำเข้าสู่การดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว โดยองค์กรภาคประชาสังคมที่จัดบริการด้านเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในชุมชน มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานดังกล่าว เนื่องด้วยมีความเข้าใจบริบทของกลุ่มประชากรเป้าหมาย มีศักยภาพในการเข้าถึง และให้บริการด้านเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค ร่วมกับภาคีเครือข่ายระดับประเทศ ได้แก่ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย โครงการ USAID Community Partnership ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข (TUC) โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) มูลนิธิรักษ์ไทย มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ มูลนิธิเอ็มพลัส สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย และองค์กร ภาคประชาสังคมที่ดำเนินงานด้านเอดส์ ร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขฯ

ซึ่งออกตามความในกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม กฎหมายวิชาชีพเภสัชกรรม และกฎหมายวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ รวม 3 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 และมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา คือในวันที่ 16 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา นับเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับรองอาสาสมัครองค์กรภาคประชาสังคม ให้สามารถจัดบริการด้านเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยการดูแลกำกับคุณภาพจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพฯ และปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการพัฒนาแนวทางการรับรองอาสาสมัครองค์กรภาคประชาสังคม ในการจัดบริการฯ จากประสบการณ์ของนานาประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ด้านการรับรองอาสาสมัครสุขภาพชุมชน 2 ท่าน คือ Jean Zotter และ Theresa Mason ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) และร่างแนวทางของประเทศไทยที่ได้พัฒนาขึ้น เพื่อให้หน่วยงานในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วม ก่อนขับเคลื่อนสู่การพิจารณาของคณะกรรมการต่างๆ และใช้เป็นแนวปฏิบัติต่อไป

การประชุมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และอาสาสมัครองค์กรภาคประชาสังคม ในพื้นที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1-12 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แพทยสภา สภาเภสัชกรรม สภาเทคนิคการแพทย์ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โครงการ USAID Community Partnership ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐ ด้านสาธารณสุข (TUC) โครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) องค์กรภาคประชาสังคม และผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ บุคลากร ของกรมควบคุมโรค รวมทั้งสิ้น 100 คน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

Latest articles

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/ปี เผยเทรนด์กาแฟพร้อมดื่ม Café Hopping กำลังมา

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/คนปี เผยเทรนด์ก Café Hopping กำลังมา นี่คือโจทย์ใหม่ของกาแฟพร้อมดื่ม จากเครื่องดื่มสู่บทใหม่ของวัฒนธรรมการใช้ชีวิต

More like this