ขึ้นดอยชมวิถีชาวลาหู่ ที่หมู่บ้านห้วยปลาหลด

Published on

“หมู่บ้านห้วยปลาหลด” เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมลาหู่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “ต้นแบบการฟื้นฟูป่าต้นน้ำที่ยั่งยืนของประเทศไทย” นอกจากนั้นยังมีความน่าสนใจจากวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ชวนให้ทุกคนเข้าไปร่วมสัมผัส

จุดกำเนิดงานพัฒนาชาวเขาในยุคแรก ๆ ปี พ.ศ. 2494 รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการเข้าไปสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ห่างไกลคมนาคม เนื่องจากเห็นว่าปัญหาด้านความมั่นคงของชาติและปัญหาเรื่องคุณภาพชีวิตของชาวเขาเป็นปัญหาที่สำคัญ จึงส่งตำรวจตระเวณชายแดนเป็นหน่วยบุกเบิก และ กรมประชาสงเคราะห์ (ปัจจุบันกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ) เข้าไปให้สนับสนุนภารกิจช่วยเหลือพัฒนาชาวเขาให้เกิดการรวมกลุ่ม

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2502 คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้ง “นิคมสร้างตนเองและสงเคราะห์ชาวเขา” เป็นการทดลองขึ้นที่จังหวัดตาก เชียงใหม่ เชียงราย เพชรบูรณ์ เลย และพิษณุโลก ดำเนินการสังคมสงเคราะห์ พัฒนาด้านอาชีพการเกษตรและอุตสาหกรรมในครัวเรือนแทนการปลูกฝิ่น ส่งเสริมด้านการศึกษา สุขภาพอนามัย เพื่อให้ชาวเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตลอดระยะเวลา 6 ศตวรรษผ่านมา กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเข้าไปพัฒนาชาวเขาในพื้นที่จังหวัดตากอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จจากการส่งเสริมด้านอาชีพ ส่งเสริมสวัสดิการชุมชน ส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรม และอนุรักษ์ป่าทำให้ “หมู่บ้านห้วยปลาหลด” เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมลาหู่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “ต้นแบบการฟื้นฟูป่าต้นน้ำที่ยั่งยืนของประเทศไทย”

นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า จากข้อมูลเชื่อว่า “ลาหู่” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “มูเซอ” มีต้นกำเนิดอยู่บริเวณราบสูงธิเบต มีความสัมพันธ์ทางชาติพันธุ์กับชนเผ่าโลโลในทางตอนใต้ของจีนร่วมกับลีซูและอาข่า ลาหู่มีการอพยพย้ายถิ่นฐานตลอดเวลาในช่วงหลายศตวรรษแถบบริเวณประเทศจีน พม่า ลาว และไทย ซึ่งในประเทศไทยพบลาหู่ใน 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร และนครสวรรค์ ลาหู่มีหลายประเภท เช่น ลาหู่แดง ลาหู่เหลือง ลาหู่ดำ หรือ ลาหู่เฌเล ลักษณะครอบครัวเป็นครอบครัวเดี่ยว ยึดถือระบบผัวเดียวเมียเดียว สำหรับการสืบสกุลนั้นไม่ถือระเบียบเคร่งครัดหากมีการแต่งงานเกิดขึ้นฝ่ายชายอาจจะไปอาศัยอยู่กับฝ่ายหญิงเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อเป็นการตอบแทนต่อฝ่ายหญิง การประกอบอาชีพในอดีตลาหู่จะปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย จนทำให้ผืนดินหมดความอุดมสมบูรณ์กลายเป็นภูเขาหัวโล้น แต่ปัจจุบันกลับพลิกวิกฤตเป็นโอกาส พลิกฟื้นพื้นที่กลายเป็นหมู่บ้านอนุรักษ์ป่าที่เข้มแข็งตามแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9

หมู่บ้านห้วยปลาหลดมีบริการที่พักโฮมสเตย์ให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจวิถีอัตลักษณ์ชนเผ่า ท่านจะได้สัมผัสและเรียนรู้ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ เรียนรู้วิธีบริหารจัดการน้ำฝายกักเก็บน้ำที่เป็นเสมือนหัวใจหลักของหมู่บ้านที่ใช้หล่อเลี้ยงชาวชุมชนให้มีน้ำไว้อุปโภคบริโภค และยังนำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า นอกจากนี้ท่านจะได้สัมผัส “ซุปเปอร์มาเก็ตชาวเขา” ซุปเปอร์มาเก็ตที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงมีพืชผักผลไม้นานาพรรณให้เก็บบริโภคได้ตลอดทั้งปี ลิ้มรสกาแฟสดจากต้น หรือ เก็บมาคั่วชงดื่มสดๆ เยี่ยมชมตลาดดอยมูเซอ และชมทะเลหมอก 360 องศาที่ “ลอ กอ ค๊อ” ชื่นชมความงามของผืนป่าอุดมสมบูรณ์กว้างสุด ลูกหูลูกตา ผลผลิตจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวลาหู่ชุมชนรักษ์ป่า โปรโมชั่นพิเศษช่วงเดือนธันวาคม 2561 – กุมภาพันธ์ 2562 มีดังนี้

  1. ที่พักโฮมสเตย์ ลด 150 บาท จากปกติ 550 บาท เหลือเพียง 400 บาท/คน
  2. เต้นท์ หลังละ 200 บาทเท่านั้น
  3. แพ็กเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ลดเหลือเพียง 1,440 บาท/คน

ขอเชิญชวนผู้มีใจรักอัตลักษณ์วิถีชีวิตคนบนดอย ลองมาสัมผัสความงดงามของชนเผ่าลาหู่ ที่จังหวัดตาก สิ่งที่ได้รับไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่ท่านจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานสวัสดิการในชุมชน รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งจะนำมาพัฒนาชุมชน ต่อยอดกิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชนให้เกิดความยั่งยืน อีกส่วนหนึ่งจะนำมาจัดสวัสดิการให้แก่คนในชุมชน หรือผู้ด้อยโอกาสในชุมชน เช่น เด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุคนเร่ร่อน เป็นต้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงตาก โทร. 0 5550 8831 หรือ นายจักรกฤช ตาประยูร ประธานกลุ่มการท่องเที่ยวบ้านห้วยปลาหลด 09 3230 5255 หรือFacebook : Homestay บ้านห้วยปลาหลด จ.ตาก

โปรแกรมท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 1,440 บาท/คน

วันที่ 1

09.00 น.จุดนัดพบต้นไม้ของพ่อ ชิมกาแฟ ชมตลาดคนอยู่กับป่าตามแนวพระราชดำริ ที่เขตอุทยานตากสินมหาราช

09.45 น. ทำบุญไหว้พระ วัดถ้ำจุนโทปฏิปทาราม

11.00 น.เรียนรู้กระบวนการผลิตภัณฑ์ดอยมูเซอ ณ ไร่กาแฟจักรพงษ์ มงคลคีรี

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันอาหารท้องถิ่น (ผักและน้ำพริกมูเซอ)

13.00 น.ชมอัตลักษณ์ความเป็นอยู่ชุมชนวิถีมูเซอดำ เช่น สาธิตการตีมีด การเย็บผ้า และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในหมู่บ้าน

16.00 น. เข้าบ้านพักโฮมสเตย์

18.00 น.รับประทานอาหารเย็น ณ บ้านพัก โฮมสเตย์เป็นอาหารพื้นบ้าน เช่น น้ำพริกมูเซอ ผักต้มปลอดสารพิษ และหมูต้ม จากนั้นชมการแสดงการเต้นจ๊ะคึ หรือการแสดงระบำมูเซอ

20.00 น. พักผ่อนหย่อนใจ

วันที่ 2

06.30 น.กิจกรรมยามเช้าชมทะเลหมอก “ลอ กอ ค๊อ” ณ จุด Check in

07.30 น.รับประทานอาหารเช้า ณ บ้านพักโฮมสเตย์

08.00 น.- เรียนรู้ภูมิปัญญาการบริหารจัดการ ดิน น้ำ ป่า

– ศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติ จุดชมวิว สะพานหิน ถ้ำน้ำตกและชมต้นผึ้ง การปลูก
ผักอินทรีย์การปลูกกาแฟดอยมูเซอ (เส้นทางเดินป่า)

11.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน

12.30 น. เดินทางกลับชุมชน

13.00 น. – เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ 6 ชนเผ่า

– เลือกซื้อสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น ณ ตลาดดอยมูเซอ

14.30 น.เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

**************************************************************

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this