PRM โชว์กำไรสุทธิครึ่งปีแรก แตะ 1,252 ล้านบาท เผยแผนการลงทุนขยายกองเรือเต็มสูบ

Published on

สุธาสินี หมื่นละม้าย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการลงทุน วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี พร้อมด้วย พชร รอดสมบูรณ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ร่วมแถลงข้อมูลบริษัทฯ แก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักลงทุน ในงาน Analyst Meeting และ Opportunity Day ประจำไตรมาส 2/2568 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุมใหญ่ บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน)

สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการรวม 4,286 ล้านบาท ลดลงจากรายได้ของครึ่งแรกปี 2567 ที่ 4,519 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,252ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจาก 1,267 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน

เนื่องจากบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์นำเรือ Aframax ออกจากการให้บริการในธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันดิบ (COC) เพื่อเข้าอู่ดัดแปลงเป็นเรือ FSO และนำไปให้บริการภายใต้สัญญาระยะยาว ซึ่งเริ่มเข้างานตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านและบริษัทฯ มีเรือการนำเรือเข้าอู่แห้งหลายลำในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น หลังจากที่เรือทั้งหมดที่เข้าอู่กลับเข้าให้บริการทั้งหมดแล้ว

ในส่วนของกลยุทธ์ครึ่งปีหลังของปี 2568 บริษัทฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจเชิงรุกเต็มกำลัง โดยวางแผนกลยุทธ์ 3 แกนหลักตามกลุ่มธุรกิจ ดังนี้

ธุรกิจเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (Floating Storage Unit “FSU”) แม้ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกจะได้รับผลกระทบจากการปลดระวางเรือที่มีอายุมากหนึ่งลำในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ดำเนินการนำเรือลำใหม่เข้าประจำการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเพื่อทดแทนกำลังการให้บริการที่หายไป ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าอัตราการใช้เรือ FSU ในไตรมาส 3/2568 จะอยู่ในระดับสูงกว่า 90% จากการที่บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาให้บริการล่วงหน้าครอบคลุมช่วงเวลาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว สะท้อนถึงความต่อเนื่องของรายได้และความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของธุรกิจ FSU ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้หลักของบริษัทฯ

ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (Petroleum and Chemical Tankers “PCT”) สำหรับกลุ่มเรือขนส่งน้ำมัน การเรือต่อใหม่ของบริษัทฯ จำนวน 6 ลำ ยังคงคืบหน้าตามแผนงาน โดยมีกำหนดการรับมอบเรือลำแรกในเดือนกรกฎาคมปี 2569 และจะทยอยรับเรือลำที่เหลือในเดือนต่อไป เดือนละ 1 ลำจนถึงสิ้นปี การเสริมกองเรือใหม่จะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งเนื่องจากเรือต่อใหม่ทั้ง 6 จะมีระวางบรรทุกเพิ่มมากขึ้น และยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานผ่านการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น (Economies of Scale)

ขณะเดียวกัน ด้านกลุ่มเรือขนส่งเคมี บริษัทฯ ได้รับแรงหนุนจากปริมาณอุปทานของกองเรือขนส่งเคมีที่เริ่มตึงตัว โดยข้อมูลจากอุตสาหกรรมชี้ว่าเรือขนส่งเคมีในตลาดมีอายุเฉลี่ยสูง โดยมีเพียง 11% เท่านั้นที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะขาดแคลนเรือในอนาคตเมื่อเรือเก่าเริ่มทยอยปลดระวาง บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนในกลุ่มเรือขนส่งเคมี และรุกเข้าสู่ตลาดการขนส่งระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนการรับมอบเรือขนส่งเคมีลำใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงปลายไตรมาส 4/2568 เป็นต้นไป

ธุรกิจเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล (Offshore Support Vessel “OSV”) บริษัทฯ เสริมทัพด้วยเรือ Crew Boat ใหม่ 2 ลำ เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่ผู้ประกอบการรายอื่นทั้งในและต่างประเทศ ตามแผนกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้าเพียงไม่กี่ราย ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่า ในไตรมาส 4/2568 ผลการดำเนินงานจะมีความโดดเด่นจากกลุ่มเรือ OSV ที่พร้อมให้บริการเต็มอัตราโดยไม่มีเรือลำใดเข้าอู่

ด้วยแผนการลงทุนและการขยายกองเรือที่ชัดเจนในแต่ละกลุ่มของธุรกิจ PRM มีความพร้อมรองรับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงด้านฐานลูกค้าที่จะเป็นปัจจัยหนุนความมั่นคงทางรายได้ ส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจว่าครึ่งปีหลังของปี 2568 นี้ จะเป็นโมเมนตัมสำคัญที่ PRM จะแสดงศักยภาพการเติบโตได้อย่างโดดเด่น และพร้อมตอกย้ำตำแหน่งผู้นำธุรกิจขนส่งทางทะเลแบบครบวงจรของประเทศ

Latest articles

Deloitte report: Thailand’s ESG regulations and policies facilitate sustainable finance innovation

According to Deloitte’s latest report, organisations in Thailand should strengthen ESG data collection and reporting systems, as well as expand partnerships across their value chains, given that sustainable finance is fast becoming a critical lever for market development.

รายงาน ดีลอยท์ เผยมาตรการ ESG หนุนการเงินเติบโตยั่งยืน

รายงานล่าสุดของดีลอยท์ ระบุว่าองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยสามารถดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบการเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูล ESG

โอซีซี เปิดตัว Deep Layer ExV ฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยีความงามจากญี่ปุ่น

b-ex Thailand (บีเอ็กซ์ ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ บมจ.โอซีซี เปิดตัว Deep Layer สูตร ExV (Extra Velvety) ใหม่ล่าสุด

สัมผัสความละมุนจากเนื้อวากิว ทุกคืนวันศุกร์ ณ ห้องอาหารเวนติซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ

ห้องอาหารเวนติซี ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญร่วมเปิดประสบการณ์ลิ้มรสชาติเนื้อวากิวคุณภาพพรีเมียมแสนอร่อยละมุนลิ้นในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรนำเนื้อส่วนต่าง ๆ มาให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง

More like this