เอสซีจี เตรียมเปิดเวที INTERCEM Asia 2025 ปฏิวัติวงการปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ

Published on

เอสซีจี ผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในอาเซียน แสดงความพร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน INTERCEM Asia 2025 งานประชุมผู้ผลิตและผู้เกี่ยวข้องในเชนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ระดับโลก แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมการเป็นผู้นำขับเคลื่อนนวัตกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำและแสดงวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้านนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง โซลูชันที่ยั่งยืน ยกระดับมาตรฐานด้านความยั่งยืนในเวทีสากล  ดีเดย์ 6-8พฤษภาคม 2568 ที่กรุงเทพมหานคร

ในยุคที่ “นวัตกรรมกรีน” ไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็น “ทางรอด” ของธุรกิจ งาน INTERCEM Asia 2025 จะเป็นเวทีสำคัญในการหารือประเด็นเร่งด่วนที่ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ทั่วโลกต้องปรับตัว โดยเฉพาะในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เป็นหนึ่งในสาเหตุในการสร้างภาวะโลกร้อน คิดเป็นสัดส่วน 7-8% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก

ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ยังต้องเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการใหม่ๆ โดยเฉพาะ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นกลไกปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมคาร์บอนจากผู้นำเข้าสินค้าที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง และ Carbon Tax หรือภาษีคาร์บอน ซึ่งเป็นการเก็บภาษีจากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผู้ผลิต

มาตรการเหล่านี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อขีดความสามารถในการแข่งขันและต้นทุนการผลิตของผู้ผลิตปูนซีเมนต์ทั้งในไทยและอาเซียน รวมถึงโอกาสในการส่งออกสู่ตลาดโลก

ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ เอสซีจีได้วางรากฐานและลงทุนในนวัตกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำมาอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นเป็นผู้นำและยกระดับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเตรียมความพร้อมด้านกลยุทธ์ ด้านวิจัยและพัฒนา ด้านเทคโนโลยีการผลิต และการมองการณ์ไกลถึงแนวโน้ม
ของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์โลกและอนาคตแห่งการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน

ภายในงานเอสซีจีจะนำเสนอนวัตกรรมระดับ First-to-Market ประกอบด้วย:

  • SCG LC3 Structural Cement: ปูนซีเมนต์งานโครงสร้างคาร์บอนต่ำสูตรต้นแบบของไทยที่พัฒนา จากองค์ความรู้เฉพาะของเอสซีจี สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ได้มากถึง 38% เมื่อเทียบกับปูนงานโครงสร้างทั่วไป ขณะที่ยังคงคุณสมบัติด้านความแข็งแรงทนทานและสามารถประยุกต์ใช้งานตกแต่ง
    ได้อย่างลงตัว โดยมีเป้าหมายในการลดคาร์บอนให้ได้ถึง 50% ในอนาคตอันใกล้ สร้างมาตรฐานใหม่ให้
    กับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในระดับภูมิภาคอาเซียน
  • SCG 3D Printing: เทคโนโลยีการพิมพ์ขึ้นรูปสามมิติด้วยปูนคาร์บอนต่ำ ที่ปฏิวัติวงการก่อสร้าง
    ด้วยความสามารถในการสร้างโครงสร้างที่มีความซับซ้อนสูง ตั้งแต่การออกแบบเส้นสาย ความโค้ง ไปจนถึงงานก่อสร้างหลายชั้น ตอบโจทย์งานสถาปัตยกรรมล้ำสมัย อีกทั้งยังสามารถใช้ในงานอนุรักษ์ที่ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล เสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยในเวทีโลก
  • TORA S-ONE: นวัตกรรมเครื่องพ่นฉาบปูนระบบดีเซลที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างก้าวกระโดด
    โดยเพิ่มความเร็วในการฉาบผนังปูนซีเมนต์ได้ถึง 40% และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้วัสดุให้คุ้มค่าสูงสุด
    ช่วยยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างไทยสู่ความเป็นเลิศ แก้ปัญหาขาดแคลนทักษะฝีมือแรงงาน
  • SCG International: ผู้นำด้านโซลูชัน Supply Chain แบบครบวงจร เพื่อช่วยพันธมิตรลดคาร์บอนและยกระดับศักยภาพการแข่งขัน ด้วยบริการครบวงจร (End-to-End Solutions) ที่ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ
    การขนส่ง ไปจนถึงการส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้า โดยคำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่อุปทาน
  • Saraburi Sandbox: ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำที่แสดงให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมกรีนของเอสซีจีมาประยุกต์ใช้ในบริบทจริง เป็นแหล่งเรียนรู้และแรงบันดาลใจสำหรับภาคอุตสาหกรรม สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

นอกจากการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์แล้ว เอสซีจียังมุ่งมั่นลงทุนในกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างต่อเนื่อง โดยได้เพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล เช่น แกลบและฟางข้าว แทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในสัดส่วนกว่า
45% พร้อมทั้งเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ให้สูงถึง 40% และนำลมร้อนเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ในปี 2593 (ค.ศ. 2050)

การเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำไม่ใช่เพียงแค่การปรับตัวเพื่ออยู่รอด แต่เป็นการสร้างการยอมรับและการกำหนดมาตรฐานใหม่ เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาว เอสซีจีมองว่านี่คือโอกาสเชิงกลยุทธ์ที่จะยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมทั้งในไทย อาเซียน และระดับโลก พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และการก่อสร้างอย่างยั่งยืน

อีกหนึ่งไฮไลท์พิเศษของงานในปีนี้ คือ ของที่ระลึก “ช้างปูนปั้น” ที่ผลิตจากปูนต้นแบบ “ปูนเอสซีจี LC3” แก่ผู้ร่วมบรรยาย เพื่อสื่อถึงความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและ Soft Power ของไทยผ่านสัญลักษณ์ประจำชาติไทย แสดงให้เห็นถึงการผสานอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติไทย

ภายในงาน INTERCEM Asia 2025 ผู้เข้าร่วมจะได้รับฟังวิสัยทัศน์เชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางและแนวโน้มอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในระดับโลก โดยตัวแทนจากเอสซีจี  มนสิช สาริกะภูติChief Innovation & Technology Officer ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ นำเสนอในหัวข้อเรื่อง SCG’s Inclusive Green Growth: มุมมองเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นความยั่งยืนและนวัตกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ และ เจริญชัย เฉลียวเกรียงไกร Bio-Circular Business Director ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ และประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ในหัวข้อเรื่อง Saraburi Sandbox: ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำ ที่แสดงให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมกรีนของเอสซีจี มาประยุกต์ใช้ในบริบทจริง

 

ด้าน สุรชัย นิ่มละออ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ ฉายภาพรวมของ
“INTERCEM Asia 2025 จะเป็นเวทีสำคัญในการเริ่มต้นสร้างการยอมรับและกำหนดมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในภูมิภาคอาเซียน ทั้งในด้านการพัฒนาสูตรมาตรฐานของปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำในระดับภูมิภาคอาเซียน
การสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนในโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ และการสร้างความร่วมมือจากนานาประเทศหรือสตาร์ทอัพในการลงทุนด้านเทคโนโลยี CCUS (Carbon Capture, Utilization & Storage) ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ที่มีฐานการผลิตระดับภูมิภาคและเครือข่ายส่งออกทั่วโลก

เอสซีจีตระหนักดีว่าการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำไม่ใช่เพียงความท้าทาย แต่เป็นโอกาสเชิงกลยุทธ์ในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน และก้าวสู่ความเป็นผู้นำในเวทีโลก การเป็นเจ้าภาพร่วมงาน INTERCEM Asia 2025 จึงเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพ วิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นของเอสซีจีในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทยและอาเซียนให้เติบโตอย่างยั่งยืน และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม”

Latest articles

Deloitte report: Thailand’s ESG regulations and policies facilitate sustainable finance innovation

According to Deloitte’s latest report, organisations in Thailand should strengthen ESG data collection and reporting systems, as well as expand partnerships across their value chains, given that sustainable finance is fast becoming a critical lever for market development.

รายงาน ดีลอยท์ เผยมาตรการ ESG หนุนการเงินเติบโตยั่งยืน

รายงานล่าสุดของดีลอยท์ ระบุว่าองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยสามารถดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบการเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูล ESG

โอซีซี เปิดตัว Deep Layer ExV ฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยีความงามจากญี่ปุ่น

b-ex Thailand (บีเอ็กซ์ ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ บมจ.โอซีซี เปิดตัว Deep Layer สูตร ExV (Extra Velvety) ใหม่ล่าสุด

สัมผัสความละมุนจากเนื้อวากิว ทุกคืนวันศุกร์ ณ ห้องอาหารเวนติซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ

ห้องอาหารเวนติซี ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญร่วมเปิดประสบการณ์ลิ้มรสชาติเนื้อวากิวคุณภาพพรีเมียมแสนอร่อยละมุนลิ้นในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรนำเนื้อส่วนต่าง ๆ มาให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง

More like this