เจาะลึกทำความเข้าใจกับ ChatGPT และ AI 

Published on

 “ChatGPT” กำลังเป็นหัวข้อมาแรงที่ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นประเด็นถกเถียงถึงข้อดีและความเสี่ยงของการที่ AI จะเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตในการทำงานร่วมกับเครื่องจักร (machines) และการสื่อสารระหว่างกันของพวกเราอีกด้วย

โดยเมื่อเร็วๆนี้ AMCHAM Education committee และ Digital Economy committee ได้มีการจัดอภิปรายขึ้น ซึ่งรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทั้ง 4 ท่าน ที่จะร่วมเจาะลึกถึงเทคโนโลยีนี้และไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความหมายโดยนัยและความเกี่ยวข้องของ AI ที่มีต่อภาคส่วนธุรกิจและการศึกษา Lyn Kok, DE committee co-chair ได้เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามด้านจริยธรรมเกี่ยวกับการสร้างเครื่องจักรที่มีความสามารถในการโต้ตอบบทสนทนา สร้างสรรค์บทความใหม่ และตัดสินใจทำบางอย่างแทนเราได้ ว่าเราจะสามารถหาจุดตรงกลางระหว่างของประโยชน์และความเสี่ยงของการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างไร

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร ?

ดร.พิณนรี ธีร์มกร อาจารย์ประจำสาขาวิชาการจัดการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “AI คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้มีความคล้ายคลึงกับความสามารถและพฤติกรรมของมนุษย์ ถึงแม้ว่า AI จะถูกคิดค้นขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1942 แต่กลับเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในปี ค.ศ. 2022 เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์สามารถกักเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในปัจจุบัน AI นั้นมีความสามารถในการเรียนรู้ วิเคราะห์ และคาดการณ์ ความสนใจของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง อย่างที่เห็นได้ชัดบนแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิเช่น Netflix, Meta (Facebook) และ Instagram เป็นต้น นอกจากนั้น AI ยังเป็นเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายอุตสาหกรรม อย่างที่เรารู้จักกันในชื่อ “ChatGPT””

 

รู้จักกับคอนเซ็ปต์หลักของ AI

ดร.พิณนรี กล่าวเสริมว่า machine learning, deep learning และ data science คือ 3 คอนเซ็ปต์หลักของ AI สำหรับ “machine learning” นั้นถือเป็น AI ประเภทหนึ่ง ที่ระบบสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจากข้อมูลตัวอย่างที่ได้รับก่อนหน้าโดยไม่จำเป็นใช้โปรแกรมในการป้อนคำสั่งทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม การจัดเตรียมข้อมูลยังจำเป็นต้องใช้ feature engineering ในการช่วยป้อนรายละเอียดเชิงลึกและเพื่อให้แน่ใจว่าชุดข้อมูลสามารถเข้ากันได้กับอัลกอริธึม machine learning อย่างมีประสิทธิภาพ

และ machine learning ประเภทหนึ่ง คือ “deep learning” ที่มีการเลียนแบบระบบประสาทของมนุษย์ผ่านเครือข่ายประสาท (neural network) ที่เชื่อมกันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเราสามารถป้อนข้อมูลดิบ (raw data) เข้าสู่ระบบได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ feature engineering เข้ามาช่วย อีกทั้งคำตอบที่ได้รับยังมีความถูกต้องกว่า machine learning ธรรมดาอีกด้วย อันดับสุดท้าย “data science” เป็นการดึงเอาข้อมูลความรู้และความเข้าใจมาประยุกต์ใช้กับเทคนิคสถิติพื้นฐาน machine learning หรือ deep learning เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่เจาะลึกของdata science

เจาะลึกทำความเข้าใจกับ ChatGPT

ChatGPT หนึ่งในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ได้แทรกซึมเข้าสู่ทุกวงการธุรกิจ อาทิเช่น การคมนาคม การค้า การแพทย์ และ การคลัง เป็นต้น ในขณะนี้นั้นคือ โมเดลภาษาปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย OpenAI ผ่านการป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาลจากโลกอินเตอร์เน็ตเข้าไป ซึ่ง ChatGPT เปรียบเสมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถพูดคุยผ่านตัวอักษร (chatbot) และให้คำตอบตามที่เราต้องการได้ภายในเวลาอันสั้นไม่กี่นาที อย่างไรก็ตาม เราจำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดย ChatGPT อยู่เสมอ เนื่องจากอาจเกิดการเข้าใจผิดและอคติของคำตอบที่เกิดจากการป้อนข้อมูลในตอนต้นได้

ถึงแม้ว่า AI และ ChatGPT จะถูกพัฒนาประสิทธิภาพและแทรกซึมเข้าสู่ภาคธุรกิจและการศึกษาในทิศทางที่ดี แต่ความก้าวหน้าด้านทางด้านเทคโนโลยีนี้นั้นกลับส่งผลให้ผู้คนบางส่วนรู้สึกกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในด้านการจ้างงานและระบบการศึกษา ซึ่งประเด็นนี้จำเป็นจะต้องมีการทำความเข้าใจ เจาะลึก และถกกันให้มากขึ้นถึงมุมมองของความแตกต่างเพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกนำไปใช้อย่างถูกวิธี

คน” จะถูกแทนที่การทำงานด้วย AI จริงหรือ?

การแทนที่การทำงานของคน การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน และทักษะเพิ่มเติมที่จำเป็นต้องมีเพื่อความอยู่รอดในยุคสมัยใหม่ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ล้วนเป็นความกังวลหลักของผู้คนจำนวนมากในช่วงเวลาที่ AI ได้แทรกซึมเข้าสู่ภาคธุรกิจและการศึกษาอย่างต่อเนื่อง Anne Cheng ประธานบริษัท Supercharge Lab จำกัด ได้กล่าวว่า การผสมผสาน AI เข้ากับการทำงานของคนจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทิศทางบวก ไม่เพียงแต่ช่วยเพียงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการทำงาน แต่ยังส่งเสริมความมั่นใจและความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย นอกจากนั้น AI ยังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเราทั้งในวันนี้และอนาคต ที่จะช่วยเสริมเพิ่มความน่าสนใจในการทำงานและช่วยลดขั้นตอนการทำงานได้

ในขณะที่ เชาวลิต รัตนกรไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า AI จะเข้ามาเป็นเพียงผู้ช่วย (co-pilot) ให้กับคน ซึ่งคนยังเป็นส่วนสำคัญหลักในการป้อนคำสั่งหรือความรู้แก่ AI เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนั้น องค์กรควรให้ความสำคัญในการเลือกใช้เทคโนโลยีหรือ AI เพื่อการพัฒนาบริการ ต่อยอดด้านธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน มากกว่าการแทนที่การทำงานของ AI  นอกจากนี้ รณพงศ์ คำนวณทิพย์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท มายด์ เอไอ เซาท์อีสเอเซีย จำกัด ได้เสริมว่า อาชีพใหม่ที่จะเกิดขึ้นคือ  “Prompt engineers” ผู้เชี่ยวชาญที่มาพร้อมความรู้และทักษะในการป้อนคำสั่งให้ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมีคืออะไร?

ดร.พิณนรี กล่าวว่า การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) เป็นสิ่งที่ท้าทายและจำเป็นต้องฝึกฝนเพื่อให้สามารถอยู่รอดในยุคของ AI นี้ได้ ถึงแม้ว่า AI จะสามารถสร้างสรรค์บทความต่างๆได้คล้ายคลึงกับมนุษย์แต่ก็ยังสามารถเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ ดังนั้น ผู้อ่านจึงจำเป็นต้องมีทักษะการคิดวิเคราะห์นี้เพื่อใช้พิจารณาว่าสิ่งที่กำลังอ่านนั้นเชื่อถือได้หรือไม่

ChatGPT ควรถูกแบนในสถาบันการศึกษาหรือไม่?

ดร.พิณนรี กล่าวว่า นักเรียนควรจะมีช่วงเวลาช่วงหนึ่งที่ไม่มีการนำ AI เข้ามาใช้ประกอบการเรียนรู้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถพัฒนาทักษะพื้นฐานได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีต่างๆ และเมื่อถึงเวลาพวกเขาจะสามารถประยุกต์ใช้ AI เพื่อช่วยพัฒนาทักษะและตรวจสอบความถูกต้องของการใช้งานได้เองในภายหลัง นอกจากนี้ คุณ Cheng กล่าวเสริมว่า ChatGPT เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยนักเรียนในการหาคำตอบเชิงลึกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่ผู้สอนไม่สามารถตอบได้

และหากมองลึกลงไปในด้านจริยธรรมนั้น เชาวลิต ได้แนะนำว่า ChatGPT นั้นได้ถูกพัฒนาจนถึงปี ค.ศ. 2021 เท่านั้น นั่นหมายความว่า ยังมีข้อมูลอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้อัพเดต และหน้าที่สำคัญของ ChatGPT ไม่ได้ถูกพัฒนาเพื่อแทนที่อินเตอร์เนตแต่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นโมเดลภาษา ดังนั้น เราจึงยังไม่ควรเชื่อทุกการตัดสินใจของข้อมูลที่ได้รับมา

สุดท้ายนี้ การอภิปรายเกี่ยวกับ AI และ ChatGPT ในครั้งนี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการหาจุดกึ่งกลางระหว่างข้อดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่า AI จะยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น สังคมจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับแรงกระทบนี้ และเพิ่มพูนทักษะต่างๆที่สำคัญ อีกทั้งเสริมสร้างนโยบายต่างๆเพื่อต่อยอดศักยภาพและลดความเสี่ยงด้านต่างๆให้น้อยลง

บทความนี้ได้ถูกเรียบเรียงภายใต้ความร่วมมือระหว่าง AMCHAM Education และ Digital Economy Committees โดยมีสมาชิก ดังนี้ Laurie Colyer-Charusorn – โรงเรียนนานาชาติบางกอก   เพรพ, Jonathan Lembright – สถาบันการศึกษานานาชาติ (IIE), Robert Tyler – โรงเรียนนานาชาติ ISB, James Dalziel – โรงเรียนนานาชาตินิสท์ (NIST), Jason Shipman – บริษัท ทาทา คอนซัลแทนซี เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด, Lyn Kok – บริษัท มูลา-เอกซ์ โฮลดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด, Peter Fischbach of บริษัท จัดหางาน ไอเอสเอ็ม เทคโนโลยี จำกัด และคุณวลีพร สายะสิต บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.amchamthailand.com/2023/05/11/joint-education-digital-economy-committees-demystifying-chatgpt-and-ai/

 

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this