“วุฒิสภา-สสส.” จับ ขรก.อบรมคอร์สกู้ชีพ CPR ติวเข้มปฐมพยาบาลเบื้องต้น

Published on

“วุฒิสภา-สสส.” จับ ขรก.อบรมคอร์สกู้ชีพ CPR ติวเข้มปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมเปิดสมัยประชุมสภา 1 พ.ย.65 นี้ หลังพบสถิติคนไทยป่วยโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดเสียชีวิตเฉียบพลันเฉลี่ย 4 ราย / ชม.เป็นห่วง ส.ว. ส.ส. ขรก.ทำงานหนักเสี่ยงวูบหมดสติฉลับพลัน ชี้ช่วงเวลา 4 นาทีทอง หากกู้ชีพได้ทันรอดตายแน่นอน

นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา เป็นประธานเปิดกิจกรรม การฝึกอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานและการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (CPR & AED)” ประจำปี 2565 ผู้เข้าอบรม 2 รุ่น 70 คน ณ ห้องประชุม 402-403 ชั้น 4 อาคารวุฒิสภา จัดโดย สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยนางนวนันทน์ เนติธนากูล ที่ปรึกษาด้านระบบงานนิติบัญญัติ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์และผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรม โดยมีทีมวิทยากร จากโรงพยาบาลกรุงเทพ บรรยายให้ความรู้และการฝึกปฏิบัติ CPR และการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED)

นวนันทน์ เนติธนากูล ที่ปรึกษาด้านระบบงานนิติบัญญัติ ในนามประธานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมและความผูกพันของบุคลากรสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และคณะผู้จัดกิจกรรม “การฝึกอบรม
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน และการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (CPR & AED)” ว่าจากสถานการณ์โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดในประเทศไทยมีสถิติผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 4 ราย มีผู้ป่วยหลายราย เกิดอาการวูบหมดสติโดยไม่มีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในเวลาที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจต้องเสียชีวิตลง ซึ่งเมื่อเกิดอาการของโรคหากมีผู้ช่วยฟื้นคืนชีพ

ก่อนนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล เพื่อทำการรักษาจากแพทย์ ก็จะเป็นวิธีการหนึ่งในการช่วยไม่ให้ผู้ป่วยเสียชีวิตบาดเจ็บหรือพิการ ซึ่งในบริเวณรัฐสภา มีสมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการ ข้าราชการรัฐสภาสามัญ พนักงานราชการ ลูกจ้าง และประชาชนที่มาติดต่อจำนวนมาก โดยที่เคยมีผู้ป่วยโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดหัวใจมีอาการหมดสติ แต่สามารถช่วยปฐมพยาบาลและฟื้นคืนชีพก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลให้แพทย์ทำการรักษาได้ทัน ซึ่งโครงการรัฐสภาร่วมใจรวมพลังสร้างสุข สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

โดยโครงการสื่อสารนโยบายสาธารณะเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ได้ตระหนักและเล็งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ให้กับบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้และความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ทราบขั้นตอนในการปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง สามารถใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator : AED) รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD’s)

นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวว่ากิจกรรมดังกล่าว นับว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมที่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม เพราะนอกจากจะได้ความรู้สามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติราชการตามหน้าที่และภารกิจของท่าน ยังจะได้ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อป้องกันความเสี่ยงในภาวะวิกฤต หรือเหตุฉุกเฉิน และเพื่อลดความเสี่ยงในภาวะวิกฤต จากการตายของสมองหรือหัวใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลันของบุคลากรในสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หรือเพื่อนร่วมงานที่อาจเกิดขึ้นโดยสามารถช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐานและสามารถใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED) ที่ติดตั้งอยู่ในบริเวณอาคารวุฒิสภาอีกด้วย

ทั้งนี้ ในปัจจุบันสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่เกิดจาก โรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจและหลอดเลือด โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และอุบัติเหตุ จมน้ำ ผู้ป่วยหรือผู้ได้รับบาดเจ็บเหล่านี้บางรายอาจมีภาวะการหยุดหายใจกะทันหัน ถ้าปล่อยไว้นานเกิน 4 นาที แม้จะช่วยให้ฟื้นคืนชีพกลับมาได้ ก็จะเกิดสภาวะการตายของสมองอย่างถาวร การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน เป็นวิธีการช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังจะเสียชีวิตให้สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ หรือที่เรียกว่า CPR; Cardiopulmonary Resuscitation ซึ่งได้มีการศึกษาวิจัยที่ได้ผลแน่นอนและว่าหากผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือทันทีหลังจากหัวใจหยุดเต้นภายใน 4 นาที จะทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิตมากกว่า 4 เท่า

ดังนั้นการได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างทันท่วงทีที่ถูกต้องตามหลักวิชาการและมีการส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บไปยังแพทย์หรือสถานพยาบาลอย่างเหมาะสมรวดเร็วและถูกวิธีจะทำให้ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บมีโอกาสรอดชีวิตและกลับคืนมาใช้ชีวิตเป็นปกติได้

ทั้งนี้ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจําปีครั้งที่สอง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this