โอกาสครบรอบ 89 ปี กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มุ่งมั่นสานต่อการขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ ทุกๆ ตัวยูทำสิ่งดีๆ หรือ Every U Does Good ปีที่ 2 พร้อมยกระดับความพิเศษ ด้วยการลดราคาสินค้าสูงสุด 45% พร้อมโปรโมชั่นแจกแถมมากมาย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้คนไทยได้เข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
อภิชาติ ศาลิคุปต รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาลูกค้า บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “แคมเปญ ทุกๆ ตัวยูทำสิ่งดีๆ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดให้คนไทยได้เข้ามามีส่วนร่วมทำสิ่งดีๆ ให้สังคมผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา แคมเปญนี้ต้องการสื่อให้ผู้บริโภคเห็นว่าการลงมือทำสิ่งเล็กๆ ก็สามารถก่อให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่แก่สังคมได้ ดังนั้นในปีนี้ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย จึงได้สานต่อแคมเปญอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างพลังบวกให้กับโลกและสังคมไทย ซึ่งถือเป็นพันธกิจสำคัญของยูนิลีเวอร์ในการสนับสนุน People และ Planet อย่างยั่งยืน”
ภายใต้แคมเปญ ทุกๆ ตัวยูทำสิ่งดีๆ ได้รวบรวมแบรนด์ของยูนิลีเวอร์ เช่น บรีส โอโม่ ซันไลต์ ซันซิล โดฟ วาสลีน คนอร์ และวอลล์ ซึ่งแต่ละแบรนด์มีการทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นทุกครั้งที่ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ จึงเท่ากับได้มีส่วนทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคม และสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน ตัวอย่างกิจกรรมของยูนิลีเวอร์ ได้แก่
- บรีส จัดกิจกรรม “เรียนรู้ เล่นเลอะ เปิดประสบการณ์นอกห้องเรียน” (Outdoor Classroom Day) ที่ให้เด็กได้เล่นและลงมือทำจริงในธรรมชาติ เพื่อนำไปสู่การเป็นอีกหนึ่งแรงในการช่วยลดขยะพลาสติก และสร้างความรู้ในการจัดการขยะในเชิงเศรษฐกิจหมุนเวียน
- ซันซิล จัดโครงการศักยภาพที่เป็นไปได้ เพื่อให้ผู้หญิงค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง รวมถึงสนับสนุนเงินทุนในการทำตามความฝัน และมอบความรู้ผ่านแพลตฟอร์มและชั้นเรียนออนไลน์
- คนอร์ ร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) แบ่งปัน 50 เมนูจากพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการตามธรรมชาติ แต่สร้างผลกระทบต่อโลกของเราน้อยกว่าอาหารจากสัตว์
- โดฟ สนับสนุนโครงการความภาคภูมิใจในตนเองของโดฟ (Dove Self-Esteem) ที่มุ่งสร้างความมั่นใจและส่งเสริมความงามที่แท้จริง ให้กับเยาวชน 250 ล้านคน ภายในปี 2573
- บรรจุภัณฑ์ของซันไลต์ทุกขวดผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ช่วยลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน
- วาสลีน จัดโครงการ “วาสลีน ฮีลลิ่ง โปรเจค” เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาในด้านต่างๆ รวมถึงบริจาคเจลล้างมือแอลกอฮอล์และสบู่ชำระล้างแบคทีเรีย เพื่อร่วมต่อสู้และปกป้องผู้คนจากโรคระบาด
- ไอศกรีมวอลล์ จัดแคมเปญ “วอลล์ส่งยิ้ม” ที่แจกไอศกรีมมากกว่า 2 ล้านแท่งในวันศุกร์ของเดือนเมษายนของทุกปี เพื่อสร้างความสุขให้แก่ชุมชนทั่วประเทศ
- โอโม จัดเวิร์คช็อปเรียนรู้สู่อนาคตสดใส (OMO Bright Future Academy) เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความเปล่งประกายที่แท้จริงของตนเอง เช่น การร่วมมือกับติวเตอร์ครูลูกกอล์ฟ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษให้กับคนรุ่นใหม่
- ร้านติดดาว หนึ่งในเป้าหมายของแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของยูนิลีเวอร์ คือ การเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่คนจำนวนหลายล้านคน ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงร้านข้างบ้าน หรือที่เรียกกันว่าร้านโชห่วย ที่กระจายอยู่ตามชุมชนทั่วประเทศกว่า 470,000 ร้าน โดยยูนิลีเวอร์ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของร้านข้างบ้านเหล่านี้ ผ่านโครงการ ‘ร้านติดดาว’ ที่นำความรู้ในการบริหารจัดการร้านที่ยูนิลีเวอร์มีความเชี่ยวชาญ เข้าไปถ่ายทอดให้กับร้านที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจร้านข้างบ้านให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ในปีนี้ยังเป็นโอกาสที่ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ครบรอบ 89 ปี บริษัทจึงได้ยกระดับแคมเปญ ทุกๆ ตัวยูทำสิ่งดีๆ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสินค้าของยูนิลีเวอร์หลายรายการที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ซึ่งนำมาลดราคาสูงสุดถึง 45% พร้อมทั้งจัดโปรโมชั่นแจกและแถมฟรีมากมาย เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคในภาวะที่วิกฤตโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและชีวิตประจำวัน โดยสามารถพบกับโปรโมชั่นฉลองครบรอบ 89 ปี จากยูนิลีเวอร์ ได้ที่ร้านค้าโมเดิร์นเทรด และร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมหรือร้านติดดาวทั่วประเทศ รวมถึงร้านค้าออนไลน์ ตลอดเดือนมิถุนายนนี้
“ยูนิลีเวอร์ มีความรับผิดชอบต่อผู้คน ชุมชน และโลกใบนี้ เราเชื่อว่าด้วยศักยภาพที่เรามี และการให้เพื่อคืนกลับสู่สังคมและผู้บริโภค สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและทำให้โลกดีขึ้นได้ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตใดก็ตาม แคมเปญทุกๆ ตัวยูทำสิ่งดีๆ ที่จัดขึ้นในโอกาสครบรอบ 89 ปีในประเทศไทย ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ายูนิลีเวอร์ไม่เคยหยุดทำตามพันธกิจเพื่อช่วยให้โลกและสังคมดีขึ้น และทำให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” อภิชาติ กล่าวสรุป
