ไอบีเอ็ม ชี้ หมดยุคการใช้งานคลาวด์จากผู้ให้บริการรายเดียว

Published on

ในประเทศไทย 70% ของผู้บริหารที่สำรวจ มองว่าการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของอุตสาหกรรมที่กำกับดูแลอยู่ เป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างยิ่ง และจะทำให้เกิดการใช้คลาวด์เฉพาะอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ภายใต้สถานการณ์การโจมตีไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 93% ของผู้บริหารที่สำรวจ ระบุว่าการลงทุนด้านซิเคียวริตี้ เป็นหนึ่งในการลงทุนด้านธุรกิจและไอทีที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุด

ผลการศึกษาระดับโลกของไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) เกี่ยวกับทรานส์ฟอร์เมชันของการใช้คลาวด์ ชี้ให้เห็นถึงความต้องการขององค์กรธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2564 ไม่มีผู้บริหารไทยที่ตอบแบบสำรวจแม้แต่รายเดียว ที่ระบุว่ายังใช้คลาวด์จากเวนเดอร์รายเดียว หรือยังใช้พับบลิคคลาวด์เพียงอย่างเดียวอยู่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ 16% ในปี 2562 โดยสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จากนี้ไปไฮบริดจ์คลาวด์จะกลายเป็นสถาปัตยกรรมไอทีที่มีการใช้งานและมีความสำคัญสูงสุด

การศึกษาทั่วโลกโดยสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็มหรือ IBV ภายใต้ความร่วมมือกับอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับ C-suite จำนวน 7,200 ราย ใน 28 อุตสาหกรรม ใน 47 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยการศึกษาพบว่าตลาดคลาวด์ได้เข้าสู่ยุคไฮบริดมัลติคลาวด์แล้ว ขณะที่ข้อกังวลเกี่ยวกับการ lock-in โดยผู้ให้บริการรายเดียว รวมถึงความกังวลด้านซิเคียวริตี้ การปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่กำกับดูแล และความสามารถในการทำงานข้ามระบบ ยังคงเป็นปัญหาที่มีความสำคัญสูงสุด ทั้งนี้ ผลการศึกษาพบว่า

ภัยคุกคามไซเบอร์พุ่งสูงสุดเป็นประวัติกาล[1]
• ความซับซ้อนของระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีกำลังสร้างช่องโหว่การโจมตี และอาชญากรไซเบอร์ก็กำลังใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านี้
• ในประเทศไทย 93% ของผู้บริหารที่สำรวจ ระบุว่าการลงทุนด้านซิเคียวริตี้ เป็นหนึ่งในการลงทุนด้านธุรกิจและไอทีที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุด
• ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร 83% มองว่าระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมคลาวด์ทั้งระบบ เป็นสิ่งสำคัญหรือสำคัญอย่างยิ่ง โดยส่วนใหญ่มองว่าเป็นกลไกสำคัญหากต้องการให้โครงการดิจิทัลต่างๆ ประสบความสำเร็จ

บริษัทต่างๆ หนีกับดักผู้ให้บริการรายเดียว (vendor lock-in)
• 85% ของผู้บริหารไทยที่สำรวจ มองว่าเวิร์คโหลดที่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ติดกับดัก lock-in ของผู้ให้บริการรายเดียวนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของโครงการด้านดิจิทัลของตน
• ผู้บริหารไทยเกือบ 62% ที่สำรวจ มองว่ากับดัก lock-in ของผู้ให้บริการคลาวด์ เป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจส่วนใหญ่หรือทั้งหมดที่อยู่บนคลาวด์

จากคลาวด์สาธารณะสู่คลาวด์เฉพาะอุตสาหกรรม
• เกือบ 70% ของผู้ตอบแบบสำรวจในหน่วยงานภาครัฐและภาคบริการทางการเงินทั่วโลก มองว่าความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของอุตสาหกรรมที่กำกับดูแลอยู่ เป็นอุปสรรคต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของระบบคลาวด์ที่ใช้อยู่

“การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น ทำให้องค์กรเริ่มคิดทบทวนถึงคุณค่าที่ได้จากการเก็บแอพพลิเคชันต่างๆ ไว้ในระบบในองค์กร (on-premise) และหันมาพิจารณาอย่างรอบคอบมากขึ้น ว่าแอพพลิเคชันไหนควรอยู่บนคลาวด์ และอันไหนควรได้รับการเก็บอยู่ในระบบภายในองค์กรต่อไป” สุรฤทธิ์ วูวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว “ความซับซ้อนของระบบโครงสร้างพื้นฐานกำลังสร้างช่องโหว่การโจมตี และอาชญากรไซเบอร์เองก็กำลังหาทางใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านี้ วันนี้ ผลการศึกษาตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า การจะเดินหน้าสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันได้อย่างประสบความสำเร็จนั้น องค์กรต้องมีเครื่องมือด้านซิเคียวริตี้ บรรษัทภิบาล และการควบคุมให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับที่กำกับดูแล ที่ต้องสามารถทำงานข้ามระบบคลาวด์ต่างๆ และผนวกเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมคลาวด์ทั้งระบบ”

การศึกษายังแนะนำให้องค์กรควรประเมินตนเองว่าใช้งานระบบคลาวด์อย่างไร ทั้งในแง่มุมของรูปแบบการใช้งาน อัตราการใช้งาน การไมเกรทระบบ ความเร็ว รวมถึงโอกาสในการช่วยลดค่าใช้จ่าย โดยข้อแนะนำเพิ่มเติม ดังนี้
• เน้นการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว องค์กรต้องดูว่าเวิร์คโหลดที่มีความสำคัญถูกจัดเก็บอยู่ที่ไหน และไตร่ตรองให้ดีว่าใครและระบบใดที่ควรจะสามารถเข้าถึงเวิร์คโหลดเหล่านั้นได้ โดยองค์กรต้องทดสอบอย่างสม่ำเสมอว่ามีการปฏิบัติตามการควบคุมด้านความปลอดภัยและนโยบายความเป็นส่วนตัว และมีการแก้ไขอย่างทันท่วงทีหรือไม่เมื่อพบการตั้งค่าระบบผิดหรือช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ที่ใช้

• ถามตัวเองว่าเวิร์คโหลดใดควรย้ายไปคลาวด์ องค์กรต้องเข้าใจภาพรวมของสภาพแวดล้อมไอทีของตน เพื่อที่จะสามารถกำหนดได้ว่า เวิร์คโหลดและแอพพลิเคชันใดที่จะให้คุณค่ามากที่สุดหากอยู่บนคลาวด์ และส่วนใดเหมาะที่จะอยู่บนระบบภายในองค์กรมากกว่า
• ใช้ข้อมูลทำงานแทน องค์กรควรใช้เครื่องมือ AI และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์เวิร์คโหลด เพื่อตัดสินใจว่าควรเก็บข้อมูลไว้ที่ไหนและอย่างไร ถึงจะถูกที่และสมเหตุสมผลมากที่สุด

• กำหนดกลยุทธ์และแนวทางที่เหมาะสม ว่าควรเพิ่มหรือลดการใช้เทคโนโลยีในส่วนใด เช่น การเลือกแนวทางที่ดีที่สุดเพื่อปรับปรุงแอพพลิเคชันที่มีความเฉพาะเจาะจงให้ทันสมัย และจัดการกับปัญหาที่สำคัญอย่างการรักษาความปลอดภัย การกำกับดูแล และการกู้คืนเมื่อระบบล่ม
• เลือกทีมที่ใช่ ฟอร์มทีมด้วยคนที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายด้าน เพื่อช่วยกันคิดใหม่และมองมุมใหม่ว่าองค์กรจะสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าได้อย่างไร

ผลการศึกษาทั่วโลกเพิ่มเติมจากรายงานฉบับปีนี้ยังคลอบคลุมถึง
• ผลการศึกษาจำแนกตามอุตสาหกรรม โดยผู้ตอบแบบสำรวจในอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล หน่วยงานภาครัฐ (85%) และบริการทางการเงิน (80%) มองว่าเครื่องมือที่กำกับดูแลและควบคุมให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับ ที่สามารถทำงานข้ามคลาวด์หลายระบบได้ ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของโครงการดิจิทัล
• ผลการศึกษาจำแนกตามอุตสาหกรรม ในปี 2564 มีผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 1% ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประกันภัย การผลิต โทรคมนาคม การขนส่ง และท่องเที่ยว ที่ระบุว่ายังใช้ไพรเวทคลาวด์หรือพับบลิคคลาวด์จากผู้ให้บริการเพียงรายเดียว

ดูผลการศึกษาฉบับเต็มได้ที่ https://www.ibm.com/thought-leadership/institute-business-value/report/cloud-transformation

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันการศึกษาคุณค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็มหรือ IBV ได้ที่ https://www.ibm.com/thought-leadership/institute-business-value/

ข้อมูลอ้างอิง
[1] 2021 Cost of a Data Breach report by the Ponemon Institute, sponsored by IBM

 

Latest articles

MALEE เปิด 5 กลยุทธ์ ปั้นวิสัยทัศน์ Beyond Fruit to Global Wellbeing แตะหมื่นล้าน ภายใน 3 ปี

MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ สร้างสรรค์นวัตกรรมมอบคุณค่าที่เหนือกว่าน้ำผลไม้เพื่อชีวิตที่ Healthier & Happier เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ก้าวสู่ ‘Global Wellbeing Company’   

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง  หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

More like this