รพ.เมตตาฯ ชวนรู้ ภาวะโรคสายตาสั้นเทียม

Published on

กรมการแพทย์โดยรพ.เมตตาฯ เตือนในโลกยุค social media ส่งผลให้มีการกระตุ้นการทำงานของดวงตาเป็นระยะเวลานาน อาจมีอาการตามัวบางขณะ มีอาการปวดตา อาจกระทบต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันได้ การพบจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจรักษาเพื่อดูแลสุขภาพตา จึงเป็นเรื่องสำคัญ

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคภาวะสายตาสั้นเทียมพบมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมในการใช้ social media ทางสมาร์ทโฟน แท็บเลต การใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ใช้สายตาในการเพ่ง หรือจ้องที่มากเกินไป มีผลกระทบต่อการหดตัวของกล้ามเนื้อในตาอย่างมาก ก่อให้เกิดความผิดปกติในการมองเห็นได้โดยมีอาการมองไม่ชัดค่อนข้างจะทันที หลังจากการใช้สายตาในระยะใกล้เป็นเวลานาน ซึ่งจะมีอาการเป็นชั่วคราวในรายที่มีอาการมากอาจปวดตา ปวดหัว บางครั้งมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย อย่างไรก็ตามอาการเหล่านี้ในรายที่เป็นมาก อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ร้ายแรงได้ ในกรณีเช่นนี้ควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจรักษา รับคำแนะนำการดูแลดวงตาที่ถูกต้อง

นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า การป้องกันและการดูแลโรคภาวะสายตาสั้นเทียมนั้นสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยหลังการทำงานใช้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนในระยะใกล้เป็นเวลาต่อเนื่องนานเกิน 30 นาที ควรพักสายตาเป็นเวลา 5 นาที ด้วยการมองไกล ๆ สำหรับในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่แนะนำให้ใช้อุปกรณ์จำพวกสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์เลย และในเด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปี ไม่ควรใช้มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ภาวะสายตาสั้นเทียมพบได้ในบุคคลกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีสายตาปกติในช่วงอายุ 15-30 ปี และบุคคลที่อ่านหนังสือในที่แสงสว่างน้อย หรืออ่านในที่มืด

วิธีการแก้ไขคือ ควรพักสายตาโดยให้มองออกไปไกลๆ หรือหลับตาเป็นระยะ นอกจากนี้กลุ่มบุคคลที่มีสายตายาวแต่กำเนิด ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไป และในบุคคลที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปจะพบภาวะสายตาสั้นเทียมได้บ่อย ในกลุ่มบุคคลนี้การแก้ไข คือ การใช้แว่นสายตาเพื่ออ่านหนังสือ ในส่วนสำหรับการบริหารดวงตา หรือการโยคะกล้ามเนื้อของดวงตาที่มีการแนะนำกันต่อ ๆ มานั้น เป็นการบริหารกล้ามเนื้อกลอกลูกตา จึงไม่ช่วยบรรเทาภาวะสายตาสั้นเทียมนี้ ซึ่งเกิดจากการเกร็งกล้ามเนื้อภายในลูกตา ดังนั้นข้อควรพึงระวังหากมีอาการตามัว มองไกลไม่ชัด อย่าเพิ่งคิดเอาเองว่า สายตาเราสั้นเพิ่มขึ้น แล้วไปตัดแว่นสายตา อาจได้แว่นสายตาสั้นที่มากกว่าเดิมมาใส่(เกินความเป็นจริง) แต่ควรได้รับการตรวจเช็คอาการอย่างละเอียดจากจักษุแพทย์

การใช้อาหารเสริมหรือวิตามินต่าง ๆ เพื่อป้องกันหรือรักษาดวงตานั้น ไม่สามารถป้องกันหรือรักษาได้ ภาวะสายตาสั้นเทียมเป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราวและไม่เป็นอันตราย ดังนั้น การพักสายตาหรือการใช้แว่นสายตา สามารถบรรเทาอาการได้ ซึ่งภาวะนี้ถือว่าไม่เป็นอันตราย กรณีอาการดังกล่าวนี้สามารถตรวจเพิ่มเติมได้กับจักษุแพทย์ มีคำถามชวนสงสัยว่าเป็นสายตาสั้นเทียมแล้วต่อไปกลายเป็นสายตาสั้นจริงได้หรือไม่ มีคำตอบจากแพทย์จักษุว่า เป็นไปได้สูงมากจึงต้องพยายามอย่าให้เป็นสายตาสั้นเทียมอยู่นาน ดังนั้น หากมีอาการสายตาผิดปกติแนะนำให้พบจักษุแพทย์

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this