จัดส่งวัคซีนโควิด ล็อตแรก พร้อมฉีดบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนพื้นที่เสี่ยง

Published on

กระทรวงสาธารณสุข โดยองค์การเภสัชกรรมจัดส่งวัคซีนซิโนแวคล็อตแรก 2 แสนโดสแล้ววันนี้ พร้อมฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนในเขตพื้นที่ที่มีความเสี่ยง 28 กุมภาพันธ์นี้ ชี้การฉีดวัคซีนเป็นไปตามข้อบ่งชี้และการพิจารณาของแพทย์ ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนกา อยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ จะฉีดได้ในเดือนมีนาคมนี้

ที่สถาบันบำราศนราดูร นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาล มีนโยบายให้ประชาชนทุกคนในประเทศไทย ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดยความสมัครใจ ซึ่งการฉีดวัคซีนต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทางการแพทย์ และการพิจารณาของแพทย์เท่านั้น สำหรับวัคซีน CoronaVac ของบริษัทซิโนแวค ล็อตแรกได้รับแล้ว 2 แสนโดส ขณะนี้ผ่านการตรวจรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นการนำเข้าเพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นลำดับแรก และฉีดให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อเพื่อการควบคุมการระบาด จากนั้นจึงเป็นการฉีดเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เฉพาะกลุ่มในบางพื้นที่เท่านั้น

นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ในวันนี้องค์การเภสัชกรรม ได้จัดส่งวัคซีนให้กับ 4 โรงพยาบาล ได้แก่  โรงพยาบาลสมุทรสาคร 20,040 โดส โรงพยาบาลชลบุรี 4,720 โดส โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 3,000 โดส และสถาบันบำราศนราดูร 3,000 โดส พร้อมเริ่มฉีดวันแรกในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ขณะนี้ โรงพยาบาลได้เตรียมการจัดบริการวัคซีนพร้อมแล้ว ส่วนวัคซีนซิโนแวคที่เหลืออีก 1.8 ล้านโดส จะมาในเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน จะเป็นการฉีดตามโปรแกรมที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เป็นผู้พิจารณากำหนดแผนจัดการฉีดวัคซีนไว้ และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ในส่วนของวัคซีนแอสตร้าเซนเนกา อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ (Quality assurance) โดยบริษัทแอสตร้าเซนเนกา ประเทศอังกฤษ ก่อนจะนำมาฉีดให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายและประชาชนกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คาดว่าจะฉีดได้ในเดือนมีนาคมนี้ โดยจะทยอยกระจายและจัดส่งวัคซีนทั้งหมดไปยังโรงพยาบาลใน 18 จังหวัด ตามแผนของคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19)

“ขณะนี้ ฝ่ายนโยบายหรือฝ่ายบริหารได้นำวัคซีนมาให้แล้ว ต่อไปแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคด้วยวัคซีน ให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย สร้างภูมิคุ้มกันให้คนที่อยู่ในแผ่นดินไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ” นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าว

ภายหลังการตรวจเยี่ยมความพร้อมระบบริการจัดฉีดวัคซีนในช่วงบ่าย นพ.เกียรติภูมิให้สัมภาษณ์ว่า ระบบการให้บริการฉีดวัคซีนที่ได้จัดเตรียมไว้มีความพร้อม ใช้เวลาในการจัดฉีดและเฝ้าระวังสังเกตอาการประมาณ 37 นาที ซึ่งในวันพรุ่งนี้เป็นจะวันแรกในการเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยจะนำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขร่วมฉีดวัคซีนที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าวัคซีนมีความปลอดภัย ในส่วนที่มีสื่อมวลชนถามเกี่ยวกับประเด็นการฉีดวัคซีนให้กับนายกรัฐมนตรี นำเรียนว่า คณะกรรมการด้านการแพทย์เห็นว่านายกรัฐมนตรีอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่สมควรได้รับวัคซีนเนื่องจากมีอายุมากกว่า 60 ปี โดยวัคซีนที่เหมาะสมที่จะฉีดคือวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ คาดว่าจะสามารถฉีดให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ภายในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนจะต้องอยู่ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์ในการสั่งฉีดและความสมัครใจของผู้ที่รับการฉีดด้วย

ด้านนายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า สถาบันบำราศนราดูรได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของซิโนแวค 3,000 โดส ขณะนี้เก็บไว้ที่คลังยาในตู้แช่ยาที่ความเย็น 2-8 องศา และเตรียมสถานที่ที่หอประชุมอัจฉราและตู้เย็นสำหรับเก็บยา โดยจะฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมาย อายุ 18-59 ปี จำนวน 1,500 คน ได้แก่ บุคลากรสาธารณสุขด่านหน้า เจ้าหน้าที่ที่ดูแลหรือต้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด 19  เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวาน โรคอ้วน

 

Latest articles

Deloitte report: Thailand’s ESG regulations and policies facilitate sustainable finance innovation

According to Deloitte’s latest report, organisations in Thailand should strengthen ESG data collection and reporting systems, as well as expand partnerships across their value chains, given that sustainable finance is fast becoming a critical lever for market development.

รายงาน ดีลอยท์ เผยมาตรการ ESG หนุนการเงินเติบโตยั่งยืน

รายงานล่าสุดของดีลอยท์ ระบุว่าองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยสามารถดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบการเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูล ESG

โอซีซี เปิดตัว Deep Layer ExV ฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ด้วยเทคโนโลยีความงามจากญี่ปุ่น

b-ex Thailand (บีเอ็กซ์ ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมระดับพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือ บมจ.โอซีซี เปิดตัว Deep Layer สูตร ExV (Extra Velvety) ใหม่ล่าสุด

สัมผัสความละมุนจากเนื้อวากิว ทุกคืนวันศุกร์ ณ ห้องอาหารเวนติซี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ

ห้องอาหารเวนติซี ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญร่วมเปิดประสบการณ์ลิ้มรสชาติเนื้อวากิวคุณภาพพรีเมียมแสนอร่อยละมุนลิ้นในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรนำเนื้อส่วนต่าง ๆ มาให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง

More like this