สวรส. หนุนใช้ออกแบบมาตรการรัฐ ผ่อนปรนล็อคดาวน์ประเทศ

Published on

สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) จัดประชุมคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ครั้งที่ 5/2563 โดยมี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานฯ เมื่อเร็วๆนี้ ณ ห้องประชุมสุปัญญา สวรส. อาคารสุขภาพแห่งชาติ

นพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด-19 สวรส. ได้เร่งขับเคลื่อนการวิจัยภายใต้แผนงานวิจัยระบบสาธารณสุขเร่งด่วนเพื่อตอบสนองการระบาดโควิด-19 วงเงินงบประมาณ 103 ล้านบาท ซึ่งแผนงานดังกล่าวกำหนดกรอบการวิจัยสำคัญไว้ 5 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ แนวทางการตรวจคัดกรองการวินิจฉัยและรักษา, การวิจัยทางคลินิก, การวิจัยด้านระบาด, การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ และการวิจัยเชิงระบบสุขภาพ โดย สวรส. ได้ดำเนินการสนับสนุนทุนวิจัย ไปแล้วกว่า 20 โครงการ อาทิเช่น การพัฒนาแบบจำลองปอดโดยแบบจำลองการเลี้ยงเซลล์สามมิติเพื่อพัฒนายาในการรักษาโควิด-19, การเตรียมพลาสมาผู้ฟื้นจากโรคโควิด-19 เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิด, การใช้ยาฟาวิพิราเวียร์เทียบกับการรักษาแบบประคับประคองในผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไม่หนักและยังไม่มีภาวะปอดอักเสบ, ความชุกการติดเชื้อด้วยการตรวจทางซีโลยีและการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ SAR-CoV-2 ในบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยใน

สถานการณ์ระบาดโรคโควิด-19 ภายใน รพ.ศิริราช, การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการป้องกันติดเชื้อโควิดด้วยคลอโรควินและวิตามินซีในผู้อยู่อาศัยร่วมบ้านกับป่วยที่ได้รับวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19, การศึกษาการตอบสนองและเตรียมพร้อมของระบบบริการสุขภาพต่อวิกฤตการระบาดของโควิด-19 ในด้านการดำเนินการของโรงพยาบาล รวมถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมภายในขอบเขตของระบบสุขภาพ เป็นต้น

นพ.นพพร ชื่นกลิ่น

ทางด้าน ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ ผู้จัดการงานวิจัยอาวุโส สวรส. ได้กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับงานวิจัยซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการระบาดโควิค-19 ของประเทศในแต่ละช่วง ซึ่ง สวรส. ได้เร่งผลักดันผลการศึกษาวิจัยต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการออกแบบมาตรการของรัฐ อาทิเช่น การสังเคราะห์มาตรการและนโยบายของรัฐบาลในการลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดจากการประเมินการปฏิบัติตนของประชาชนไทยที่มีต่อมาตรการต่างๆ และผลศึกษาจากโครงการเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมว่าด้วยเส้นทางชีวิตและกิจกรรมร่วมของครัวเรือนไทยภายใต้สถานการณ์โควิด-19

โดยได้นำเสนอผลการวิจัยพร้อมข้อเสนอเชิงนโยบายต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาแนวทางผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์ประเทศ นอกจากนั้น สวรส. ยังได้สนับสนุนให้มีการศึกษาเพื่อพัฒนามาตรการกักตัวสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยจะช่วยกำหนดจำนวนวันของการกักตัวของบุคลากรทางการแพทย์ที่เหมาะสม เนื่องจากระยะเวลาการกักตัวที่นานเกินไป เช่น 14 วัน อาจส่งผลต่อการขาดกำลังคนในการทำงาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบบริการสาธารณสุข

ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์

ทั้งนี้ คณะกรรมการ สวรส. ได้ให้แนวทางและข้อเสนอแนะในการศึกษาวิจัยสำคัญๆ ในระยะต่อไป อาทิเช่น โครงการวิจัยที่ต้องใช้จำนวนผู้ป่วยเป็นกลุ่มตัวอย่าง ถ้าจำนวนผู้ป่วยไม่เพียงพออาจส่งผลกระทบต่อการวิจัย ควรมีแผนรองรับและปรับแผนการดำเนินงานให้เหมาะสม การศึกษาระยะฟักตัวและระยะการแพร่เชื้อของโควิด-19 จากกรณีที่มีข้อมูลของระยะเวลาการตรวจพบเชื้อที่นานกว่า 14 วัน ควรมีประเด็นการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้ความรู้กับประชาชน ต้องมีการสื่อสารข้อมูลความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อลดความวิตกกังวลของประชาชนต่อการระบาดของโรค เนื่องจากความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่เชื่อมโยงต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

นอกจากนั้น ผลกระทบที่สำคัญจากการระบาดของโควิด-19 อาทิ การปรับระบบบริการของโรคอื่นๆ ของโรงพยาบาล เช่น ระบบ Stroke Fast Track ที่อาจมีผลต่อการเสียชีวิตของผู้ป่วยในโรคนี้มากกว่าผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากการรักษามีการยืดระยะเวลาออกไป รวมทั้งการงดให้บริการโรคเรื้อรังอื่นๆ หรือบริการทางทันตกรรม ดังนั้น จำเป็นต้องมีองค์ความรู้สำหรับการรับมือในอนาคตต่อการระบาดของโรคในลักษณะการระบาดใหญ่ (pandemic) และการปรับตัวของระบบบริการต่อปัญหาการเจ็บป่วยโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โควิด-19 ด้วย

Latest articles

‘ฮีโร่นักเตะ’ ช้างป่าห้วยขาแข้ง บอกต่อเคล็ดลับสางปัญหาใจ เหตุคนไทยแบกความเครียด

คนไทย 13.4 ล้าน กำลังแบกความเครียด PRINC Group จับมือ 'ฮีโร่นักเตะ' บอกต่อเคล็ดลับสุขภาพดี 'พลังใจ' ต้องมาคู่ 'พลังกาย'

BANDAI SPIRITS HOBBY EXHIBITION 2025 ฉลองครบรอบ 45 ปี กันพลา

สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และ ดรีมทอย ฉลองครบรอบ 45 ปี กันพลา จัดมหกรรมยิ่งใหญ่แห่งปีของคนรักกันพลา BANDAI SPIRITS HOBBY EXHIBITION 2025

PTECH-W1 เทรดวันแรก 31 ต.ค. 68 เร่งเครื่องธุรกิจมั่นใจครึ่งปีหลังแนวโน้มดี

PTECH-W1 พร้อมเทรด 31 ต.ค. 68 แจกผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิเพิ่มทุนเมื่อส.ค.ที่ผ่านมา ในอัตรา 1 หุ้นสามัญใหม่ ต่อ 1 หน่วย อายุ 3 ปีราคาใช้สิทธิ 4 บาท/หุ้น วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ต.ค. 2568

แลคตาซอย ลดแรง ลดเลย! ซื้อ 1,000 ลด 100 แถมฟรี 1 แพ็ก

Lactasoy นมถั่วเหลืองแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค อร่อยจัดเต็มโปรตีนจากถั่วเหลือง ป้ายยาคนรักสุขภาพให้รีบมากดซื้อตุนรับลมหนาวกับโปรโมชันที่คุ้มสุดๆ “ลดแรง ลดเลย!” ตลอดเดือนพฤศจิกายน 68 นี้

More like this