จิตเวชโคราช จัดเมนูอาหารเฉพาะโรค “จิตเภท” ช่วยการฟื้นตัว

Published on

รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ จัดเมนูอาหารช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยโรคจิตเภท ซึ่งพบมากอันดับ 1 ในเขตนครชัยบุรินทร์ โดยเน้นอาหาร 5 กลุ่มที่มีคุณค่าสูง เช่นข้าวกล้อง ผักใบเขียว และจำกัดเนื้อสัตว์ไม่ให้เกิน 60-80 กรัมต่อวัน และจัดเครื่องดื่มสมุนไพร 3 ชนิด ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย เช่นน้ำตะไคร้ใบเตย น้ำใบบัวบก พร้อมแนะญาติให้ระมัดระวังอาหารการกินที่บ้าน เลี่ยงอาหารประเภทมีน้ำตาลต่ำ อาหารที่มีผงชูรสทุกชนิด และเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ เนื่องจากจะยับยั้งการดูดซึมยา ไม่เป็นผลดีต่อการรักษา

แพทย์หญิงกรองกาญจน์ แก้วชัง

แพทย์หญิงกรองกาญจน์ แก้วชัง รองผู้อำนายการด้านการแพทย์และประธานทีมนำทางคลินิก โรงพยาบาล(รพ.)จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคจิตเภท(Schizophrenia)ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง ผู้ป่วยจะมีความผิดปกติทั้งการรับรู้ ความคิดและพฤติกรรม มีประสาทหลอน หูแว่ว หลงผิด มีพฤติกรรมถดถอย ส่วนใหญ่มักจะมีอาการเรื้อรัง ที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯให้การรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ซึ่งเป็นรายที่อาการรุนแรง ยุ่งยาก ซับซ้อนปีละเกือบ 2,000 คน มากเป็นอันดับ 1 ของผู้ป่วยทางจิตที่อยู่ในเขตนครชัยบุรินทร์หรือเขตสุขภาพที่ 9 ที่รับไว้รักษาทั้งหมด การดูแลรักษาจะบูรณาการระหว่างทีมสหวิชาชีพต่างๆเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูอย่างครบถ้วนทั้งกาย ใจ สังคม สามารถกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งยังให้ความสำคัญด้านอาหารซึ่งมีส่วนช่วยให้การฟื้นฟูสภาพของผู้ป่วยดีขึ้น ช่วยเสริมคุณภาพการรักษาของแพทย์ไปในทิศทางเดียวกัน โดยในพื้นที่เขตนครชัยบุรินทร์ได้แก่จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์คาดว่ามีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 44,000 คน ขณะนี้เข้าถึงบริการรักษาแล้วกว่า 36,000 คน

จิรัฐิติกาล ดวงสา

ทางด้านนางจิรัฐิติกาล ดวงสา นักโภชนาการและหัวหน้ากลุ่มงานโภชนาการ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯกล่าวว่า ต่อวันมีผู้ป่วยจิตเภทพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเฉลี่ย 158 คน หรือประมาณร้อยละ 58 ของผู้ป่วยในทั้งหมด ฝ่ายโภชนาการได้จัดอาหารให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายและครบถ้วน 5 กลุ่ม เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษาของแพทย์ ประกอบด้วย 1.กลุ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จะใช้ข้าวกล้อง เมล็ดธัญพืช เช่นข้าวโพดเป็นต้น 2.กลุ่มผัก จะใช้ผักใบเขียวทุกชนิด 3.กลุ่มโปรตีนจะใช้เต้าหู้แข็ง ถั่ว ปลาเล็กปลาน้อย 4. กลุ่มไขมันจะเน้นอาหารที่มีไขมันโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาทะเล และมีโอเมก้า 6 สูง เช่นน้ำมันดอกทานตะวัน และ5.กลุ่มผลไม้ จะใช้ประเภทกล้วยซึ่งจะช่วยให้หลับดีขึ้น โดยจะควบคุมปริมาณอาหารที่ให้สารโดปามีน(Dopamine) ได้แก่ เนื้อสัตว์ นม ปลา ถั่วต่างๆ ให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะคือ 60-80 กรัมต่อวัน พร้อมทั้งจัดน้ำสมุนไพร 3 ชนิด เป็นเครื่องดื่มจะช่วยให้ผู้ป่วยจิตเภทรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ได้แก่ 1.น้ำตะไคร้ใบเตย แก้อาการอ่อนเพลีย เพิ่มความสดชื่น อารมณ์ดีขึ้น บำรุงระบบประสาท เสริมสร้างความจำ 2.น้ำใบบัวบกลดความกระวนกระวาย ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย นอนหลับได้ง่ายขึ้น และ3.น้ำมะตูม ช่วยบำรุงสมอง คลายกังวล สมาธิดีขึ้น

สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้ป่วยโรคจิตเภทที่อาการดีแล้วและอยู่ระหว่างการฟื้นฟูต่อที่บ้านไม่ควรรับประทานมี 5 ประเภท ซึ่งทางฝ่ายโภชนาการได้ขอความร่วมมือญาติให้ช่วยกันระมัดระวัง ได้แก่ 1.อาหารกลูเตน(Gluten) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งพบในข้าวสาลี นมวัว อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการแพ้ เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท ทำให้ประสาทหลอน รวมทั้งเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ 2.ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล มักจะพบในเครื่องดื่มน้ำอัดลมประเภทปราศจากน้ำตาลหรือไดเอท ,โยเกิร์ตที่ปราศจากน้ำตาล ,หมากฝรั่งโลว์ชูก้า หากรับประทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะสะสมในร่างกายเนื่องจากเป็นกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นสาเหตุของอาการวิตกกังวล ความเครียดและไมเกรน

3. อาหารที่ใช้ผงชูรส สารเคมีในผงชูรสจะเข้าไปจัดการสมองให้รู้สึกว่าอาหารมีความอร่อย ส่งผลให้สมองหลั่งสารโดปามีน(Dopamine)ออกมาเกินความจำเป็นและทำงานเพิ่มขึ้น ทำให้ยาที่ใช้รักษาไม่ได้ผลดี และหากทานอาหารที่ใส่ผงชูรสเป็นประจำจะเกิดการรบกวนการทำงานของสมองและระบบประสาท เป็นสาเหตุการเจ็บป่วยโรคพาร์กินสัน สมองเสื่อมอัลไซเมอร์ได้ โดยผงชูรสนี้จะพบมากในอาหารปรุงพร้อมจำหน่าย เช่นอาหารถุง ยังพบในอาหารสำเร็จรูปไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยว,น้ำปรุงสลัด,บาร์บีคิวซอส,บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารกระป๋องต่างๆ วิธีที่ดีที่สุดคือควรปรุงอาหารเองและไม่ใช้ผงชูรสใดๆ 4. น้ำตาลที่ผ่านการฟอกขาว เนื่องจากจะไปยับยั้งการผลิตอาหารของเซลล์สมอง (BDNF) ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญของโกรทฮอร์โมนในเซลล์สมอง ขัดขวางไม่ให้เซลล์สมองเชื่อมโยงกันได้ เกิดการอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้ซึมเศร้าได้ ควรใช้น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายสีรำหรือน้ำตาลทรายที่ไม่ได้ผ่านการฟอกสี และ 5. เครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ น้ำอัดลมสีดำ ช็อกโกแลต เนื่องจากจะไปยับยั้งการดูดซึมของยาที่รักษา นางจิรัฐิติกาล กล่าว

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this