ศจย. หนุนรัฐเดินหน้าขึ้นภาษียาสูบ ชี้ถึงรายได้เยอะก็ยังไม่คุ้มเสีย

Published on

ศจย. เปิดข้อมูลรายได้รัฐจากภาษียาสูบ ปี 61 จัดเก็บภาษีได้กว่า 71,009 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 60 มากถึง กว่า 4,000 ล้านบาท วอนขอรัฐบาล อย่าเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ไม่เกิดประโยชน์ ควร win win ทุกฝ่าย ย้ำบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ 1 ของการเสียชีวิตของคนไทย ยอดตายสูง 54,610 คน ประมาณค่าสูญเสียทางเศรษฐศาสตร์สูงถึง 74,884 ล้านบาท มากกว่ารายได้จากภาษียาสูบที่รัฐจัดเก็บได้

ศ.นพ.รณชัย คงสกนธ์

ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)  กล่าวถึงกรณีจะมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มภาษียาสูบเป็น 40% ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ว่า จากรายงานภาระโรคจากปัจจัยเสี่ยงของประชากรไทย ในปี 2557 ของแผนงานการพัฒนาดัชนีภาระทางสุขภาพเพื่อการพัฒนานโยบาย (BOD) พบว่า การเสียชีวิตของประชากรไทยจากปัจจัยเสี่ยงจากการสูบบุหรี่สูงถึง 54,610 คน จัดเป็นอันดับ 1 ของปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพของประชากรไทยและก่อให้เกิดความสูญเสียทางสุขภาพอันเกิดจากการสูบบุหรี่ หรือร้อยละ 11.2 ของจำนวนการเสียชีวิตทั้งหมดในระหว่างปี 2550-2557

โดยในกลุ่มประชากรผู้ใหญ่อายุ 35 ปีขึ้นไป เป็นผู้สูบบุหรี่เกือบ 3.6 ล้านคน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลมากกว่า 18,115 ล้านบาท ในมีขณะที่มีการนำเสนอข่าวประเด็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เก็บภาษีบุหรี่ได้ 2,479 ล้านบาท ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่า ต้นทุนการรักษาโรคที่เกิดจากสูบบุหรี่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับรายได้อันเกิดจากการจัดเก็บภาษียาสูบของ อบจ.

ศ.นพ.รณชัย กล่าวว่า ขณะที่รายได้ภาษียาสูบที่เก็บได้จริงจากข้อมูลที่เปิดเผยของสำนักแผนภาษี กรมสรรพสามิต ปี 2561 ยอดรวมการจัดเก็บภาษียาสูบได้จริง 71,009.52 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าภาษียาสูบที่จัดเก็บได้ในปี 2560 มากถึง 4,473.66 ล้านบาท (ปี 2560 จัดเก็บภาษียาสูบได้ 66,535.86 ล้านบาท) แม้มีการปรับโครงสร้างภาษียาสูบ โดยใช้อัตราภาษียาสูบใหม่ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2560 สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้สูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษียาสูบของกรมสรรพสามิต  อย่างไรก็ตาม แม้รายได้ภาษียาสูบจะสูงขึ้น แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าตัวเลขความสูญเสียทางเศรษฐศาสตร์จากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ที่ประมาณการโดย BOD ระบุว่า ในปี 2552 ประเทศไทยมีความสูญเสียทางเศรษฐศาสตร์จากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่เท่ากับ 74,884 ล้านบาท

“การขึ้นภาษีบุหรี่ รัฐบาลควรดำเนินการเป็นอย่างยิ่ง และไม่ควรเลื่อนการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ในวันที่ 1 ตุลาคม ปี 2562 นี้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมยาสูบตามกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกเสนอ และสอดคล้องไปกับแนวคิดของธนาคารโลกที่เสนอว่า การเพิ่มภาษีบุหรี่  Win Win ทั้งฝ่ายสุขภาพและเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การยาสูบแห่งประเทศไทย มักนำเสนอประเด็นเรื่องการขาดทุนจากการผลิตและจำหน่ายบุหรี่ ซึ่งเป็นเพียงการพิจารณาในมุมเดียวเท่านั้น ที่ถูกต้องคือ “ต้องแยกการพิจารณารายได้จากภาษี ออกจากกำไรของการยาสูบแห่งประเทศไทย” เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนต่อทิศทางการควบคุมยาสูบของประเทศไทย “เงิน กับ สุขภาพของประชาชน” ซึ่งควรเลือกสุขภาพดีกว่า”

ศ.นพ.รณชัย กล่าวถึงกรณีปัญหาที่ประชาชนอาจหันไปบริโภคยาเส้น หรือบุหรี่เถื่อน แท้จริงแล้วเป็นประเด็นปัญหาเรื่องประเทศไทยอัตราภาษียาเส้นยังคงต่ำมาก และเป็นปัญหาการบังคับใช้กฎหมายมากกว่า ต้องขอขอบคุณ ท่านพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ที่มีแนวคิดเรื่องนโยบายการเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษียาเส้น และท่านยุทธนา หยิมการุณ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับดูแลบริหารการป้องกันและปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย (กปบ.) ที่เดินทางลงภาคใต้เพื่อตรวจจับแหล่งขายบุหรี่หนีภาษี ซึ่งวิธีการแก้ปัญหา รัฐบาลต้องยกเครื่องระบบการป้องกันบุหรี่หนีภาษี โดยการร่วมลงนามสัตยาบันในพิธีสารเพื่อขจัดบุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวทางแก้ปัญหาบุหรี่หนีภาษีและบุหรี่ปลอมในระดับนานาชาติ

Latest articles

16 ปีแห่งความภาคภูมิใจ GSK สานต่อพันธกิจ “Ahead Together”

บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GSK ผู้ค้นคว้าวิจัยและพัฒนายาและวัคซีนนวัตกรรมระดับโลก รับรางวัล AMCHAM Corporate Social Impact Awards 2025 ระดับแพลตินัม จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) ติดต่อกันเป็นปีที่ 16

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ส่งต่ออาหารส่วนเกินให้สัตว์ป่า มุ่งลดปริมาณขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่อเนื่องอีกครั้ง เพื่อสานต่อโครงการสนับสนุนอาหารส่วนเกินที่ยังบริโภคได้จากแม็คโครและโลตัส มอบให้แก่สัตว์ป่าภายใต้การดูแลของกรมอุทยานฯ ทั่วประเทศ

เครือ รพ.พญาไท-เปาโล ผนึก PROUD REAL ESTATE ให้บริการ Telecare

เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เดินหน้าสร้างมาตรฐานการดูแลสุขภาพยุคใหม่ ร่วมกับ PROUD REAL ESTATE สานต่อพันธกิจด้านสุขภาพด้วยการนำบริการ Telecare เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพในโครงการที่อยู่อาศัย

KBank เสริมแกร่ง SC Asset หนุน 2,500 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาคลังสินค้า

กสิกรไทย หนุน SC Asset วงเงินกว่า 2,500 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาคลังสินค้า  เพื่อรองรับการเติบโตของทั้งภาคโลจิสติกส์ ภาคการผลิต ตลอดจนอุตสาหกรรมใหม่ๆ ด้วยพื้นที่รวมกว่า 180,000 ตร.ม.

More like this