ท้องไม่พร้อมคือผู้ป่วย หนุนยุติครรภ์ที่ปลอดภัย

Published on

หมอสูติฯ-หมอเด็ก ประสานเสียงขอสังคมเปลี่ยนมุมคิด หญิงท้องไม่พร้อมคือผู้ป่วย ขอแพทย์-รพ.เปิดทางเลือก เข้าถึงการยุติครรภ์ที่ปลอดภัย กฎหมายเอื้อทำตามข้อบ่งชี้ไม่ผิด สถิติชี้หญิงทำแท้งเถื่อนสุดอันตราย อัตราตาย 300 คน ต่อแสนประชากร ด้าน สสส. หนุนการเข้าถึงบริการทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตร โดยเครือข่ายอาสาส่งต่อยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย

นพ.วิวัฒน์ โรจนพิทยากร ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายและการจัดการสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล กล่าวในการประชุมระดับชาติ สุขภาวะทางเพศ ครั้งที่ 3 “การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น: จากยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน” จัดโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ว่า ในปี  2560 มีหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี คลอดบุตร  84,578 คน ส่วนจำนวนยุติการตั้งครรภ์นั้นไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แต่คาดการณ์ว่าจะใกล้เคียงกับจำนวนที่คลอดบุตร คือมีการตั้งครรภ์ราว 2 แสนคน ในจำนวนนี้น่าจะยุติการตั้งครรภ์ราว 1 แสนคน

 ศ.คลินิกเกียรติคุณ พญ.วิบูลพรรณ ฐิตะดิลก อดีตประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย  กล่าวว่า การแก้ปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์ไม่พร้อม สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แต่หากมีการตั้งครรภ์ไม่พร้อมเกิดขึ้น จะต้องมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับทางเลือกอย่างครอบคลุมและรอบด้าน เนื่องจาก พ.ร.บ. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. 2559 มาตรา 5 ระบุให้วัยรุ่นมีสิทธิตัดสินใจด้วยตนเอง และมีสิทธิได้รับข้อมูลข่าวสารและความรู้ ได้รับการบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ อีกทั้งประมวลกฎหมายอาญา และข้อบังคับแพทยสภา อนุญาตให้แพทย์ยุติการตั้งครรภ์ได้โดยไม่ผิดกฎหมายหากเข้าเกณฑ์ตามข้อบ่งชี้ข้อใดข้อหนึ่ง ได้แก่  1) การตั้งครรภ์นั้นส่งผลต่อสุขภาพกายของมารดา 2) ส่งผลต่อสุขภาพจิตของมารดา  3) ทารกในครรภ์มีความเสี่ยงสูงที่จะมีความพิการอย่างรุนแรงหรือเป็นโรคทางพันธุกรรมอย่างรุนแรง  4) การตั้งครรภ์นั้นเกิดจากการข่มขืน เกิดจากการล่อลวงบังคับ ข่มขู่  และการตั้งครรภ์ของเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี แม้ว่าเด็กจะสมยอมก็ตาม และอนุญาตให้ทำโดยแพทย์ในคลินิกได้กรณีที่อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ หากอายุครรภ์มากกว่านี้ต้องทำโดยแพทย์และภายในโรงพยาบาล

 ศ.คลินิกเกียรติคุณ พญ.วิบูลพรรณ กล่าวอีกว่า วิธีการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย ทำได้โดยการใช้เครื่องดูดมดลูกสุญญากาศ หรือการกินยา  ซึ่งเป็นการใช้เพื่อยุติการตั้งครรภ์ในระยะแรกที่อายุครรภ์น้อย  ทั้งนี้ประเทศไทยมีการขึ้นทะเบียนยานี้ตั้งแต่ปี 2557 และมีระบบควบคุมเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยสถานพยาบาลที่จะมีและใช้ยาได้ จะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมอนามัย  และต้องผ่านการอบรมการใช้ยายุติการตั้งครรภ์  มีการทำบัญชีการเบิกจ่ายยาอย่างรัดกุม ส่วนปัญหาจากการที่แพทย์ปฏิเสธการรักษานั้น ทำให้กลุ่มหญิงท้องไม่พร้อมต้องหันไปพึ่งการทำแท้งเถื่อนที่เป็นอันตรายอย่างมาก ทั้งการติดเชื้อในกระแสเลือด ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ตกเลือด มดลูกทะลุ ไตวาย เป็นต้น ข้อมูลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ระบุว่า ปี 2551 และ 2552  มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาภาวะแทรกซ้อนจากการแท้งถึง ปีละกว่า 3 หมื่นราย และคาดว่าจะมีอัตราตายสูงถึง 300 คน ต่อแสนประชากร ซึ่งแพทย์มีส่วนสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาแท้งไม่ปลอดภัยนี้ได้

“การผลักดันดังกล่าว ไม่มีเจตนาส่งเสริมให้มีการทำแท้งอย่างกว้างขวาง แต่บางคนมีความจำเป็นบางอย่างในชีวิตที่ต้องยุติการตั้งครรภ์ ก็ต้องให้เขาได้รักษาอย่างปลอดภัย จึงอยากให้สูตินรีแพทย์รวมทั้งแพทย์ทั่วไป เข้าใจในเรื่องนี้และเปลี่ยนมุมมองว่า หญิงตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมที่ต้องการยุติการตั้งครรภ์และเข้าเกณฑ์ตามที่กฎหมายอนุญาตนั้นเป็นผู้ป่วย  จำเป็นที่แพทย์ต้องให้การช่วยเหลือและรักษาให้ได้รับบริการที่ปลอดภัย” ศ.คลินิกเกียรติคุณ พญ.วิบูลพรรณ กล่าว

ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา อดีตนายกแพทยสภาและกรรมการราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมี 54 ประเทศที่อนุญาตให้มีการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยได้ ครอบคลุมประชากร 61 % ของประชากรโลก โดยแต่ละปีทั่วโลกมีการยุติการตั้งครรภ์ราว 56 ล้านคน  45 % เป็นการยุติที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงมาก แต่หากเป็นการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยทำตามมาตรฐานทางการแพทย์ มีโอกาสเสียชีวิตน้อยมาก ข้อมูลในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้หญิงคลอดธรรมดามีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยถึง 13 เท่า

ด้าน ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า สสส. ร่วมมือกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านองค์ความรู้และการเสริมความเชื่อมโยงกันของภาคส่วนต่างๆ ทั้งในและนอกเครือข่าย ให้กับทีมงานอาสา (Referral system for Safe Abortion: RSA) ซึ่งเป็นเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ในหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีจิตอาสาดูแลวัยรุ่นและผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมให้ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสม เพื่อให้วัยรุ่นและผู้หญิงที่ประสบปัญหาได้มีทางเลือกที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น สสส. ยังร่วมมือกับภาคีเครือข่าย รณรงค์ให้คนทุกเพศทุกวัยพกและใช้ถุงยางอนามัยอีกด้วย

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาท้องไม่พร้อม สามารถติดต่อสายด่วน 1663 เพื่อขอรับคำปรึกษา และช่องทางการติดต่อเครือข่าย RSA ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. หรือติดต่อผ่าน facebook: 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม ได้ตลอด 24 ชม.

 

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this