AIM Group เดินหน้าขับเคลื่อนแผน ESG มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

Published on

เอไอเอ็ม กรุ๊ป หรือ ‘AIM Group’ ผู้บริหารกองทรัสต์ ‘AIMIRT’ และกองทรัสต์ ‘AIMCG’ ประกาศตอกย้ำจุดยืนในการดำเนินธุรกิจ มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด “การเติบโตอย่างรับผิดชอบ” พร้อมเผยความคืบหน้าการดำเนินงานด้าน ESG และแผนการเติบโตในปี 2568 ท่ามกลางความท้าทายของสภาวะเศรษฐกิจมหภาค

จรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ็ม กรุ๊ป เปิดเผยว่า AIM Group มีเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการกองทรัสต์ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์อิสระที่สามารถสร้างคุณค่าและผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

โดยปัจจุบันมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ 19 โครงการ มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท และในปี 2568 ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อน AIM Group ไปสู่การเติบโตที่ไม่เพียงมุ่งเน้นผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน แต่ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด “การเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Growth)”

ในปี 2567 AIM Group ได้ส่งเสริมการเรียนรู้ด้าน ESG ให้แก่บุคลากรผ่านโครงการ ESG DNA ที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์ ฯ เพื่อปลูกฝังแนวคิดด้านความยั่งยืนในทุกระดับองค์กร สะท้อนถึงความตั้งใจในการผสาน ESG เข้ากับการดำเนินงานอย่างแท้จริง โดยพนักงาน AIM Group ผ่านเกณฑ์การอบรมตามที่ตลาดหลักทรัพย์ ฯ กำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ในปี 2568 AIM Group ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง โดยกองทรัสต์ AIMIRT และกองทรัสต์ AIMCG ภายใต้การบริการจัดของ AIM Group ได้จัดทำรายงาน ESG ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ฯ เป็นครั้งแรก พร้อมกันนี้ยังได้จัดตั้งคณะทำงานด้าน ESG เพื่อผลักดันกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในระดับองค์กร ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์และพันธมิตรทางธุรกิจ

ธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการ เอไอเอ็ม กรุ๊ป กล่าวถึงแผนการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ว่า กองทรัสต์ AIMIRT มีแผนการลงทุนเพิ่มเติมมูลค่ารวมประมาณ 1,100 ล้านบาท ซึ่งจะผลักดันให้มูลค่าทรัพย์สินกองทรัสต์ AIMIRT เพิ่มขึ้นจาก 13,003 ล้านบาทเป็นประมาณ 14,100 ล้านบาท โดยโครงการที่อยู่ในแผนการลงทุน ได้แก่ โครงการ พรีซิชั่น วาล์ว ซึ่งเป็นทรัพย์สินประเภทโรงงานและคลังสินค้า ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง และโครงการ แปซิฟิค ห้องเย็น (ส่วนต่อขยาย) ซึ่งเป็นทรัพย์สินประเภทคลังห้องเย็น ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร และทรัพย์สินที่มีศักยภาพอื่นที่อยู่ระหว่างการศึกษา

ทั้งนี้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน AIM Group จึงพิจารณาการเข้าลงทุนอย่างรอบคอบ โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญคือ เป็นทรัพย์สินที่มีผู้เช่าที่แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จัก มีความมั่นคงทางการเงิน มีประวัติการดำเนินธุรกิจที่ดีมายาวนาน และสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่องภายใต้สัญญาเช่าระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและลดความเสี่ยงในระยะยาว

ญาณิชศา ชาติวุฒิกอบกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน เอไอเอ็ม กรุ๊ป ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกองทรัสต์ ‘AIMCG’ ว่าปัจจุบันมีความคืบหน้าในการดำเนินการจัดการภาระหนี้ค้างของบริษัท ดี-แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด หรือ ‘ดี-แลนด์’ ที่มีอยู่กับกองทรัสต์ AIMCG สำหรับโครงการ พอร์โต้ ชิโน่ ซึ่งแนวทางการจัดการเป็นการดำเนินการที่มีนัยสำคัญ จึงขอเชิญชวนผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ครั้งที่ 1/2568 ของกองทรัสต์ AIMCG เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาตัดสินแนวทาง

โดยการประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์จะจัดขึ้นในวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงเทพ ลุมพินีพาร์ค ห้องคราวน์ 4 และ 5 ชั้น 21 เวลา 10.00 – 12.00 น. โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญคือ การพิจารณาอนุมัติการจัดการภาระหนี้ค้างของ บริษัท ดี-แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยการรับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินโครงการ พอร์โต้ ชิโน่ ซึ่งปัจจุบันกองทรัสต์ AIMCG ได้เข้าลงทุนในสิทธิการเช่าทรัพย์สินโครงการ พอร์โต้ ชิโน่ โดยมี ‘ดี-แลนด์’ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์

Latest articles

Top Music Night 2025 KUN BKPP นำทัพศิลปิน 15 กลุ่มดังบุกกรุงฯ

JOOX Top Music Night 2025 ประกาศไลน์อัพอย่างเป็นทางการ KUN BKPP และ The Toys ปล่อยใจไปกับทุกจังหวะ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดมันส์! ที่มีศิลปินเอเชียชั้นนำกว่า 15 กลุ่ม

Viriyah Privileges เสิร์ฟทริปเมืองโบราณ เอาใจลูกค้าสายท่องเที่ยว

“Viriyah Privileges ทริปเที่ยวเมืองโบราณ สู่ประสบการณ์สุดประทับใจ” หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของโปรแกรม Viriyah Privileges ในหมวดเดินทาง-ท่องเที่ยว

พันธุ์ไทย คว้า Top Outstanding Brand จากเวที Thailand Brand Footprint 2025

กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด หนึ่งในธุรกิจ Non-Oil เครือบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) คว้ารางวัล "Thailand Brand Footprint 2025 : Top Outstanding Brand ในหมวด Made-To-Order Coffee” จากการเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อสูงสุด

อินโนเบล เทรดดิ้ง นำเข้า Collaju® เพียวคอลลาเจน เติมเต็มช่องว่างตลาดความงาม

อินโนเบล เทรดดิ้ง นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ "Collaju®" เพียวคอลลาเจนพร้อมใช้รายแรกในประเทศไทย ที่ผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว เจาะกลุ่มโรงพยาบาลและคลินิกเสริมความงาม ตอบข้อจำกัดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ฉีดหน้าเสริมความงามที่มีอยู่ในตลาด พร้อมชิงส่วนแบ่งตลาดมูลค่าคาดการณ์ตลาดในประเทศสูงถึง 8,800 ล้านบาท ภายในปี...

More like this