สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ยกระดับอาหารอีสานสู่เวทีสากลอย่างภาคภูมิ กับการเปิดตัวร้าน “ตำกระเทย สาเกต” สาขาใหม่ล่าสุดที่ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์ ที่มาพร้อมกับ“อิเจ้ แจ่วฮ้อน แอนด์ ชาบู” รวมความแซ่บแบบถึงขีดสุดกับสองโซนทั้ง ตำ ยำ และ แจ่วฮ้อน ในทำเลไพร์มขนาดใหญ่ใจกลางสยาม
“ตำกระเทย สาเกต” ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจของ เก่ง จิรเดช เนตรวงค์ ขึ้นครั้งแรก ณ ดินแดน “สาเกตนคร” ซึ่งภายหลังกลายเป็นที่รู้จักในนาม “จังหวัดร้อยเอ็ด” ดินแดนอันเป็นหัวใจของวัฒนธรรมอีสาน ไม่ว่าจะเป็นประเพณี ขนบธรรมเนียม วิถีชีวิต ไปจนถึงเรื่องอาหารการกิน ที่มีความความแซ่บ ความนัว และความสนุกสนาน อันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารอีสาน เสน่ห์ต่างๆ เหล่านี้ทำให้อาหารอีสานได้เข้าไปครองพื้นที่ในใจของคนไทยทั่วทุกภาคของประเทศได้อย่างภาคภูมิ
ด้วยความเชื่อมั่นที่ว่า “เมื่อตั้งใจไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้” และความหลงใหลใน “ปลาร้า” อันเป็นหัวใจสำคัญในอาหารอีสานโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “ส้มตำ” ให้มีรสชาติที่ “เฉพาะตัว” และมีความนัวแบบ “เฉพาะทาง” ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยตั้งใจทำร้านอาหารอีสานให้มีมาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ และเป็นที่ยอมรับในสังคมไทย อีกทั้งเพื่อยกระดับให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากลอีกด้วย
จากแบรนด์ ตำกระเทย สาเกต ที่มีความชำนาญใน “น้ำปลาร้า” และ “อาหารอีสาน” แล้ว อีกหนึ่งเมนูซึ่งเปรียบเสมือนเป็น “สุกี้ในสไตล์อีสาน” นั่นคือ “แจ่วฮ้อน” จนวันนี้ “ตำกระเทย สาเกต” และ “อิเจ้ แจ่วฮ้อน แอนด์ ชาบู” จึงขอนำเอารสชาติแห่งความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมอาหารพื้นบ้านและความ เฉพาะตัวมาพร้อมกับความนัวแบบ “เฉพาะทาง” ตามฉบับของ “ตำกระเทย สาเกตนคร” ที่การันตีด้วยรางวัล Michelin Guide 3 ปีซ้อน จากจังหวัดขอนแก่น มาบุกปักธงใจกลางสยามประเทศ ให้คนกรุงเทพฯ ได้แซ่บสะท้านสยามแล้ว ณ สาขา Flagship Store แห่งแรกที่สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2
ตัวร้านได้รับการออกแบบที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง และเข้าถึงได้ง่าย ด้วยการตกแต่งจากวัสดุประเภทไม้เป็นหลัก เสมือนได้กลับไปทานอาหารที่บ้านซึ่งแวดล้อมไปด้วยความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเอง อีกทั้งยังมีการตกแต่งในส่วนต่างๆ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะของไทย เช่น ยันต์ เรือนไทย และการนำเอาเครื่องใช้พื้นบ้านทางอีสาน เช่น “กระจ่อ” มาตกแต่งอย่างลงตัว ทำให้ภายในร้านมี Mood and Tone ที่มีความแปลกใหม่ สนุกสนานและร่วมสมัยมากขึ้น ช่วยส่งเสริมให้อาหารอีสานพื้นบ้านถูกยกระดับให้มี “มูลค่า” และ “ตัวตน” ที่ชัดเจนขึ้นจนสามารถเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
เมนูพิเศษที่ทาง “ตำกระเทย สาเกต” ได้รังสรรค์ขึ้นเฉพาะที่สาขา Siam Center ที่เป็น “Flagship Store” ของเรานั้น เกิดมาจากการร่วมแรง ร่วมใจ ของทีม R&D และเหล่าแม่ครัวที่มีประสบการณ์ยาวนานในอาหารอีสานพื้นบ้าน ที่ตั้งใจจะมอบความอร่อยและประทับใจให้ทุกคนที่เข้ามาสัมผัสและลิ้มลองรสชาติสุดแซ่บ ณ “ตำกระเทย สาเกต” และ “อิเจ้แจ่วฮ้อน & ชาบู” สาขา Siam Center โดยเมนูที่ทางร้านขอนำเสนอให้เป็นดาวเด่นของสาขานี้ ได้แก่ ปลาดุกย่าง ข้าวจี่ ปลาร้าบอง, กุ้งกระเทย แด๊นซ์ซิ่ง(กุ้งเต้น), เหลากระเทย, ผัดไทยปู, ตำกระเทย, ลิ้นจี่ (ลิ้นวัว), ต้มอึ่งไข่ ชัยโย (เมนูตามฤดูกาล)และ ตำหอยโข่ง
และนอกจากเมนูดาวเด่นของทางร้านแล้ว ยังมีเมนูอร่อยๆ อีกมากมายที่อยากแนะนำ อาทิเช่น
“แกงไก่วุ้นเส้น” ที่เป็นเมนูบ้านๆ ของคนอีสาน ที่ต้มไก่ใส่ปลาร้าสูตรลับของ “ตำกระเทย สาเกต” พร้อมวุ้นเส้นเหนียวๆ จนได้รับการแนะนำไว้ในหนังสือ Michelin Guide ว่าต้องลอง
“โคตรเหลา” ซึ่งเป็นการนำน้ำปลาร้าสูตรลับของ “ตำกระเทย สาเกต” มารวมตัวกันกับน้ำยำซีฟู้ดของทางร้านที่เข้ากันลงตัวแบบอัศจรรย์ แล้วนำมาคลุกกับวัตถุดิบทะเล เรียกได้ว่าอร่อยจนลืมเศร้ากันไปเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้ว “น้ำเหลา” ของตำกระเทยยังสามารถนำไปใส่กับเมนูอื่นๆ ก็อร่อย ไม่ว่าจะเป็น หมูยอ กุ้ง ปลาแซลมอน หรือปูม้า ดังนั้นเมนูโคตรเหลาจึงเป็นเมนูที่ควรค่าต่อการลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง
“ปลาส้มทอด” เป็นเมนูที่เป็นภูมิปัญญาโบราณที่เป็นเก็บรักษาอาหารไว้ทานได้นานขึ้น ปลาส้มนี้ เป็นสูตรเฉพาะของ ตำกระเทย สาเกต ที่จะมีความเปรี้ยว เค็ม ที่ลงตัว ทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ รับลองว่าติดใจแน่นอน
“ลาบ” จังหวัดร้อยเอ็ด ดินแดนแห่งการทานเนื้อวัวที่นำมาแปรรูปเป็นเมนูสุดแสนอร่อย อาทิเช่น ต้มแซบเนื้อ ซอยจุ ลาบเลือด ก้อยเสือคั่ว หรือขาลายลวกจิ้ม เป็นต้น
“ผัดไทยกุ้งสด” เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สร้างชื่อให้ “ตำกระเทย สาเกต” และเป็นเมนูที่มียอดขายสูงสุด ของร้าน เมนูผัดไทยกุ้งสดเป็นเมนูเส้นที่มีความเปรี้ยวหวานที่ลงตัว เวลาทานกับส้มตำก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งเมนูอย่าง “ยำปลาดุกฟู” “ยำผัวเผลอ” และเมนูอื่นๆ แสนอร่อย ของ “ตำกระเทย สาเกต” อีกมากมายที่ต้องลองแวะมาชิมกันให้ได้
ในส่วนของ “อิเจ้ แจ่วฮ้อน แอนด์ ชาบู” นั้น เป็นการนำ “สุกี้ในสไตล์อีสาน” มาผสมผสานกับวัตถุดิบคุณภาพที่ทางร้านคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เช่น เนื้อวากิวจากออสเตรเลีย และ US หรือจะเป็นหมูและเนื้อไทยคุณภาพดี อีกทั้งบรรดาซีฟู้ด พรีเมี่ยม ที่มีให้เลือกอย่างจุใจ เช่น หอยเป๋าฮื้อ ปลาหิมะ หรือกุ้งแม่น้ำ เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์ความแซ่บแบบฉบับพื้นบ้านของแจ่วฮ้อนอีสานที่เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์สากล
โดยทางร้านได้เพิ่มความพิเศษมาให้ผู้ที่ชื่นชอบทานเนื้อวากิว ทั้ง A4 และ เนื้อส่วนใบพาย ขาลาย และเสือร้องไห้ ที่พร้อมเสิร์ฟให้ทุกท่านอย่างจุใจ หากได้ลองคีบเนื้อที่มีความนุ่ม กวัดแกว่งลงไปในน้ำซุปแจ่วฮ้อนที่เป็นสูตรพิเศษของทางร้าน รับรองว่าจะต้องติดใจจนลืมไม่ลงแน่นอน นอกจากนี้ทางร้านยังได้เปิดตัว “น้ำซุปแจ่วแซ่บปลาร้า” ที่สามารถนำเนื้อวากิวมาทำเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิวได้ หรือจะลองทานแบบก๋วยเตี๋ยวหมกก็ได้เช่นกัน รับรองจะต้องติดใจอย่างแน่นอน
ร่วมสัมผัสร้านอาหารอีสานรูปแบบใหม่ ซึ่งยังคงไว้ซึ่งรากเหง้าแต่กล้าท้าทายกรอบเดิม เพื่อยกระดับอาหารอีสานสู่เวทีสากลอย่างภาคภูมิ ณ “ตำกระเทย สาเกต” และ “อิเจ้แจ่วฮ้อน & ชาบู” แฟล็กชิปสโตร์แห่งแรก ที่ ชั้น 2 สยามเซ็นเตอร์
