หน้าแรกSustainabilityทางลัดสู่การเพิ่มมูลค่าอาคารขนาดเล็กและขนาดกลางทั่วโลก

ทางลัดสู่การเพิ่มมูลค่าอาคารขนาดเล็กและขนาดกลางทั่วโลก

Published on

อาคารเก่ามักสูญเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ การปรับปรุงอาคารเก่าอาจดูเป็นเรื่องยาก แต่หากนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ ก็จะช่วยให้ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรม และบริษัทอื่นๆ เปลี่ยนประสิทธิภาพด้านพลังงานให้กลายเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันได้

โรงแรมกรองด์โมนาร์ค (Grand Monarque Hotel) ตั้งอยู่ในบริเวณอาสนวิหารโรมันคาทอลิกในเมืองชาทร์ ห่างจากกรุงปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 90 กิโลเมตร โรงแรมแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของปัญหาด้านพลังงานของโลก สร้างขึ้นเมื่อ 400 ปีที่แล้วเพื่อให้บริการแก่ผู้เดินทางในฝรั่งเศส ปัจจุบันโรงแรมต้องปรับปรุงให้ทันสมัยเพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบของสหภาพยุโรปว่าด้วยการอนุรักษ์พลังงาน (EU’s Energy Efficiency Directive)

เนื่องจากอาคารขนาดเล็กและขนาดกลางเช่นนี้ คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของอาคารพาณิชย์ทั่วโลก การที่อาคารเหล่านี้ไม่สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้ อาคารจำนวนครึ่งหนึ่งยังคงมีการใช้งานอยู่จนถึงปี 2050 ซึ่งเป็นวันที่องค์กรต่างๆ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero ตามข้อตกลงปารีสปี 2015 ที่ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก การปรับปรุงระบบพลังงานจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวแล้ว ยังช่วยรักษาคุณค่าเดิมของอาคารไว้เช่นกัน

หากบริษัทได้ลงทุนในเทคโนโลยีประหยัดพลังงานเมื่อสองปีที่แล้ว ปัจจุบันจะสามารถคืนทุนเริ่มแรกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มานิช กูมาร์ รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจพลังงานดิจิทัลของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวว่า โดยเฉลี่ยแล้ว บริษัทที่ลงทุนในเทคโนโลยีประหยัดพลังงานจะสามารถคืนทุนเริ่มแรกได้ภายในเวลา 2 ปี เห็นได้จากกรณีโรงแรมกรองด์โมนาร์คที่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล EcoStruxureTM Building Activate มาช่วยวิเคราะห์และปรับปรุงการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากพอที่จะทำให้คืนทุนแรกเริ่มได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน

ข้อมูลเชิงลึกจากระบบดิจิทัลช่วยให้เกิดผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างมีประสิทธิภาพ
“หนึ่งในอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดด้านประสิทธิภาพพลังงาน คือการไม่รู้ว่าอาคารของคุณทำงานอย่างไร แต่ปัจจุบันเมื่อค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสูงขึ้น สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการเข้าใจว่าระบบต่างๆ ทำงานอย่างไร ไม่ใช่แค่ระบบทำความร้อนเท่านั้น แต่รวมถึงระบบทำความเย็น และต้องทำอย่างไรเพื่อให้ระบบดังกล่าวทำงานได้เหมาะสมเต็มประสิทธิภาพ” เบ็กกี เทเลอร์ กรรมการบริหารของ Arup หนึ่งในบริษัทออกแบบและวิศวกรรมชั้นนำของโลก กล่าว

สำหรับอาคาร อย่าง โรงแรมกรองด์ โมนาร์ค ที่มีการรวมระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และเครื่องปรับอากาศเข้าไว้ด้วยกันตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา จึงทำให้การใช้พลังงานมีความซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก

“ความท้าทายของเราคือ การที่ไม่สามารถรู้ได้ว่าพลังงานถูกใช้ไปในส่วนใดของอาคารและใช้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นสำคัญในเวลาที่ค่าไฟฟ้าของเราเพิ่มขึ้นจาก 80 ยูโรเป็น 650 ยูโร จนเป็น 700 ยูโร กระทั่งอาจถึง 750 ยูโร” แบร์ทร็อง ฌาเลอรา เจ้าของโรงแรม กล่าว

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ช่วยให้โรงแรมสามารถมองเห็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้พลังงานได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการติดตั้งเซ็นเซอร์ระบบดิจิทัลในโครงสร้างพื้นฐานของโรงแรม พร้อมทั้งจัดอบรมให้พนักงานใช้ซอฟต์แวร์ EcoStruxureTM Building Activate อย่างมีประสิทธิภาพ

“เห็นได้ชัดว่าเรามีการใช้พลังงานส่วนใหญ่ไปกับงาน 2 ส่วนหลักด้วยกัน ได้แก่ ห้องพักแขก และการให้บริการด้านอาหาร” แบร์ทร็อง ยังย้ำถึงการตรวจสอบการใช้พลังงานได้โดยง่ายว่า “การมีข้อมูลเชิงลึก ทำให้เรามีแนวทางที่ชัดเจนในการปรับปรุงการใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสามารถควบคุมบริเวณที่มีการใช้พลังงานรวมถึงช่วงเวลาที่ใช้ได้ดียิ่งขึ้น” อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบพลังงานถือเป็นก้าวแรกของการเป็นอาคารที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและปล่อยคาร์บอนน้อยลง

การขยายผลสู่การประหยัดค่าใช้จ่าย
สำหรับองค์กรที่มีเครือข่ายอาคารขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนหลายสิบหรือหลายร้อยแห่งทั่วโลก การขยายการใช้โซลูชั่นเหล่านี้ช่วยให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้น การประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการตรวจสอบอาคารเพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากการรวมศูนย์การควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ ทั้งระบบแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ (HVAC) ตลอดจนระบบทำความเย็นของห้องเย็นและตู้แช่แข็งในอาคารทั้งหมดอีกด้วย

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การติดตั้งระบบตรวจสอบและควบคุมพลังงานอัตโนมัติสามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 48 เปอร์เซ็นต์

ผลการศึกษาของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แสดงให้เห็นว่าการติดตั้งระบบตรวจสอบพลังงานและระบบอัตโนมัติ ช่วยให้เจ้าของและผู้ควบคุมอาคารสามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 48 เปอร์เซ็นต์ และลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ในอุตสาหกรรมที่มีกำไรจากการดำเนินงานที่จำกัด การประหยัดพลังงานกลายเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการติดตั้งเซ็นเซอร์เข้ากับสินทรัพย์ที่สำคัญ ระบบสามารถแจ้งเตือนความผิดปกติได้ล่วงหน้า ช่วยหลีกเลี่ยงการซ่อมบำรุงที่มีค่าใช้จ่ายสูง พร้อมช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในอาคารให้ดีขึ้น

สองปีหลังจากใช้ EcoStruxureTM Building Activate ผู้บริหารระดับสูงของเครือข่ายร้านค้าปลีกแห่งหนึ่งกล่าวว่า ระบบนี้ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้มาก และยังช่วยรักษาลูกค้าไว้ได้อีกด้วย

การสิ้นเปลืองพลังงานไม่ใช่ปัญหาสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น ข้อมูลของ Carbon Trust ระบุว่าองค์กรเอสเอ็มอี โดยเฉลี่ยจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 15 ตันคาร์บอนหรือเทียบเท่าต่อปี ซึ่งในสหรัฐอเมริกาคิดเป็นครึ่งหนึ่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของประเทศ เพื่อไม่ให้ภาระด้านการเงินในการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานต้องตกอยู่ในความรับผิดชอบของธุรกิจขนาดเล็กแต่เพียงฝ่ายเดียว รัฐบาลทั่วโลกจึงได้เปิดตัวโครงการจัดหาเงินทุนเพื่อช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ซึ่งสหภาพยุโรปเองก็ได้เปิดตัวโครงการค้ำประกันสำหรับนักลงทุนในระบบพลังงานอัจฉริยะ ขณะที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กำลังพัฒนาโมเดลการจัดหาเงินทุนที่ยืดหยุ่นเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานได้มากขึ้น

ความร่วมมือในลักษณะนี้มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทที่ไม่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงระบบอาจเผชิญกับความเสี่ยงในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนที่สูงขึ้น และแรงกดดันด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น ขณะที่หลายๆ แบรนด์ เช่น โรงแรมกรองด์โมนาร์ค กำลังใช้โอกาสนี้ในการสร้างชื่อเสียงในฐานะธุรกิจที่มีความยั่งยืน

Latest articles

สกมช. และพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ มือสร้าง Cloud First Policy Framework

พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ บริษัทผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วย AI ระดับโลก และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนคลาวด์และเสริมสร้างขีดความสามารถด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้กับหน่วยงานภาครัฐ

ttb analytics คาด บาทมีแนวโน้มแข็งค่า คาดสิ้นปี 2568 เงินบาทมีโอกาสต่ำกว่า 33 บาท/USD

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics มองว่าความสัมพันธ์ระหว่างค่าเงินบาทและทองคำที่สูงเป็นปัจจัยหลักในการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงต้นปี 2568 ที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา และความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง

แมคโดนัลด์ เปิดตัวเมนูมื้อเช้าใหม่ แคมเปญ “Bacon Festival”

แมคโดนัลด์ ให้ความสำคัญกับอาหารเช้า และไม่หยุดที่จะพัฒนาเมนูใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์อาหารเช้าที่ดีและอร่อยสำหรับคนไทย ยกระดับความอร่อยอาหารเช้าที่ทุกคนชื่นชอบ ให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ ด้วยเมนูอาหารเช้าใหม่ ที่ทุกคนต้องลอง! “Bacon Festival”

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ฉลองครบ 1,000 สาขา มอบเงินสมทบทุนและอุปกรณ์การเรียนให้แก่ 6 องค์กร

มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณอานุภาพ คงมาลัย รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด พร้อมตัวแทนพนักงาน ปันความดี ฉลองครบ 1,000 สาขา มอบเงินสมทบทุนและอุปกรณ์การเรียน ให้แก่ 6 องค์กร ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย สานต่อเจตนารมณ์แห่งการแบ่งปัน ภายใต้โครงการ MR. D.I.Y. Cares และร่วมเฉลิมฉลองการเปิดสาขาครบ 1,000 สาขาทั่ว 77 จังหวัดในประเทศไทย

More like this