การประชันแฟชั่นสุดอลังการบนพรมแดง “Met Gala 2025” งานที่ถูกขนานนามว่าเป็น “โอลิมปิกแห่งวงการแฟชั่น” ปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม ณ นครนิวยอร์กท่ามกลางสายฝน ภายใต้ธีม “Superfine: Tailoring Black Style” หรือ “เสื้อผ้าตัดเย็บสไตล์แบล็คคัลเจอร์”
งานนี้วางแผนอย่างพิถีพิถันโดย แอนนา วินทัวร์ บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Vogue และมีเหล่าศิลปินชื่อดังอย่าง เอแซป ร็อคกี้, ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์, โคลแมน โดมิงโก และ ลูอิส แฮมิลตัน เป็นประธานร่วม ซึ่งทุกคนมาในลุคที่ตีความธีมได้อย่างสร้างสรรค์
คืนนี้เต็มไปด้วยแฟชั่นชั้นสูง เน้นการตัดเย็บที่ประณีตทั้งชายและหญิง พร้อมเคป หมวก เครื่องประดับศีรษะ และไม้เท้าสุดหรูที่เพิ่มความโดดเด่น
ไดอาน่า รอสส์ (Diana Ross) สำหรับการปรากฏตัวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปีที่เธอเข้าร่วมงานนี้ ดาราวัย 81 ปีต้องการความช่วยเหลือจากทีมงานหลายคน—อย่างน้อย 6 คน บวกกับลูกชายของเธอ อีแวน รอสส์—เพื่อกางชายกระโปรงขาวยาว 18 ฟุต ซึ่งปักด้วยชื่อลูกๆ และหลานๆ ของเธอ นอกจากนี้ เธอยังสวมชุดสีเงินวิบวับและหมวกขนนกขนาดใหญ่

เซนดายา (Teyana)มืออาชีพแห่ง Met Gala นักแสดงจาก “Euphoria” สะกดทุกสายตาในชุดสูท Louis Vuitton สามชิ้นสีขาวสะอาดตากับเนคไทที่เข้ากันอย่างลงตัว ส่วนไฮไลท์คือหมวกปีกกว้างที่เธอแอบมองออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ สไตลิสต์ของเธอ Law Roach เผยว่าลุคนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดแต่งงานของเบียนกา แจ็กเกอร์ ตอนแต่งงานกับมิค แจ็กเกอร์ นักร้องนำวง Rolling Stones ในปี 1971

ริฮานน่า (Rihanna) นักร้อง/นักออกแบบ ที่เพิ่งประกาศว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 กับ เอแซป ร็อคกี้ ทำให้เป็นข่าวใหญ่ของงาน เมื่อเธอมาถึง (สายตามธรรมเนียม) ริฮานน่าไม่เพียงแต่อวดครรภ์ แต่ยังคงอยู่ในธีมด้วยลุคแรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าผู้ชายจาก Marc Jacobs ประกอบด้วยคอร์เซ็ตสีเทา, แจ็คเก็ตโบเลโร่สีดำ, หมวกขนาดใหญ่ และผ้าพันคอลายจุดสีม่วงแดง ส่วนล่างดูเหมือนแจ็คเก็ตสูทลายทางที่พับแขนไว้ด้านหลัง ทำให้ดูเหมือนมีบัสเซิล พิสูจน์ว่าเธอสามารถใส่อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะท้องหรือไม่

โคลแมน โดมิงโก (Colman Domingo ) ประธานร่วมมาในเสื้อคลุมแบบพระสันตะปาปาสีน้ำเงินพร้อมโบเลโร่สุดหรูเมื่อเขามาถึง และระหว่างเดินพรมแดง เขาเปิดเผยเสื้อนอกลายตารางขาวดำและกางเกงจีบด้านหน้าพร้อมดอกไม้ลายจุดขนาดใหญ่ที่รังดุม ทั้งสองลุคเป็นของ Valentino และเราชอบโมเมนต์แฟชั่นที่ไม่หยุดนิ่งนี้

อังเดร 3000 (André 3000)เดินบนพรมแดงในชุดจั๊มสูท Burberry และหมวกสีแดงพร้อมเปียโนเบบี้แกรนด์ติดหลังในขณะที่ถือถุงขยะ เปียโนซึ่งหนัก 30 ปอนด์ เป็นสัญลักษณ์ของอีพีเซอร์ไพรส์ 7 Piano Sketches ซึ่งเขาประกาศว่าปล่อยออกมาในวันเดียวกัน เรื่องราวเบื้องหลังถุงขยะและสิ่งที่อยู่ข้างในยังคงเป็นปริศนา

อลิเซีย คีย์ส และ สวิซซ์ บีตซ์ (Alicia Keys and Swizz Beatz)คู่รักที่แต่งงานกันมา 15 ปี ได้แรงบันดาลใจในการประสานลุคบนพรมแดง จากความร่วมมือระหว่าง Moncler x EE72 โดย Edward Enninful ทั้งคู่สวมสูท แต่ของคีย์สเป็นสไตล์ที่มีความเป็นผู้หญิงมากกว่า มีคอร์เซ็ต และเธอถือเคปเป็นฟองนวม พวกเขาประสานกันตั้งแต่ศีรษะ โดยคีย์สสวมเครื่องประดับศีรษะประดับลูกปัด และบีตซ์สวมดูแร็กที่เข้ากัน
งาน Met Gala ปี 2025 ถือเป็นอีกหนึ่งบทในตำนานแฟชั่นที่จะอยู่ในความทรงจำของแฟชั่นนิสต้าไปอีกนาน แม้พรมแดงจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ภาพของชุดสุดเจ๋งและไอเดียสร้างสรรค์จะยังคงอยู่ตลอดไป
โดย Met Gala หรือชื่อเต็มคือ The Costume Institute Benefit เริ่มต้นขึ้นในปี 1948 โดย Eleanor Lambert นักประชาสัมพันธ์แฟชั่นผู้ทรงอิทธิพลซึ่งอยู่เบื้องหลังการก่อตั้ง New York Fashion Week และการผลักดันภาพลักษณ์ของดีไซเนอร์อเมริกันสู่เวทีโลก
ในช่วงแรก งาน Met Gala เป็นเพียงงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพื่อระดมทุนให้กับ Costume Institute ซึ่งเป็นแผนกเฉพาะของ The Met ที่ดูแลรักษาและศึกษาวัตถุสิ่งทอและเสื้อผ้าประวัติศาสตร์จากหลากหลายยุคสมัย งานนี้จัดขึ้นที่โรงแรม Waldorf Astoria พร้อมบัตรราคา 50 ดอลลาร์ ซึ่งในยุคนั้นถือว่าสูงไม่น้อย
จนในปี 1972 จุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Met Gala เกิดขึ้นเมื่อ Diana Vreeland อดีตบรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Vogue เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาด้านพิเศษให้กับ Costume Institute Vreeland นำเอาวิสัยทัศน์เชิงศิลปะและวัฒนธรรมมาผสานกับแฟชั่น โดยริเริ่มให้มีการจัดนิทรรศการแฟชั่นในรูปแบบธีม พร้อมดึงดูดแขกในวงการศิลปะ สังคม และฮอลลีวูดเข้าร่วมงาน
ภายใต้การดูแลของเธอ นิทรรศการกลายเป็นพื้นที่เล่าเรื่องแฟชั่นในฐานะเครื่องมือทางวัฒนธรรม เช่น “The World of Balenciaga” (1973), “Hollywood Design” (1974) และ “Vanity Fair” (1977) ทั้งหมดนี้เปลี่ยน Met Gala จากงานเลี้ยงเล็ก ๆ สู่เวทีศิลปะแฟชั่นระดับโลก
ตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา Met Gala ได้รับการฟื้นฟูใหม่ภายใต้การนำของ Anna Wintour บรรณาธิการบริหารของ Vogue ซึ่งเข้ารับหน้าที่ประธานร่วมของงาน โดยเธอปรับโฉมงานให้ทันสมัย มีความเนี้ยบ และดึงดูดสายตาทั้งวงการแฟชั่น ดาราฮอลลีวูด และสื่อมวลชนระดับโลก