ในช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากปลายทางยอดนิยมในยุโรปตะวันตก ดินแดนเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า “จอร์เจีย” ได้กลายเป็นอัญมณีที่เปล่งประกายขึ้นท่ามกลางเทือกเขาคอเคซัส ประเทศที่มีทั้งกลิ่นอายของโลกเก่า ศิลปะโบราณ และทิวทัศน์ธรรมชาติสุดตระการตา ชวนให้เราเดินทางออกไปค้นหาเรื่องราวในอดีตที่ยังมีชีวิต และผู้คนที่พร้อมต้อนรับเราด้วยหัวใจอบอุ่นที่สุดในโลก
จอร์เจียมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่รุ่งเรืองมาแต่ยุคอาณาจักรอีเบเรีย ก่อนจะหลอมรวมเข้าสู่อาณาจักรคริสเตียนในศตวรรษที่ 4 ด้วยภูมิประเทศที่คั่นกลางระหว่างยุโรปและเอเชีย ชาวจอร์เจียจึงซึมซับอิทธิพลหลากหลาย ตั้งแต่เปอร์เซีย ไบแซนไทน์ ไปจนถึงรัสเซีย โดยไม่เคยสูญเสียเอกลักษณ์ของตนเองเลยแม้แต่น้อย
กรุงทบิลิซี เมืองหลวงที่แวดล้อมด้วยภูเขา แม่น้ำ และหลังคาบ้านสีแดงอิฐตัดกับโบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วเมือง ย่านเมืองเก่าเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่ถูกปรุงแต่ง ถนนหินโบราณคดเคี้ยวพาเราผ่านโบสถ์เมเตคีอันสง่างามซึ่งตั้งตระหง่านริมผาสูง และป้อมนาริกาลาอันเก่าแก่ที่มอบวิวแบบพาโนรามาของแม่น้ำคูราและทั้งเมืองให้เราดื่มด่ำ นอกจากความงามของอดีตที่ฝังแน่นอยู่ในสถาปัตยกรรม ทบิลิซียังมีสีสันทันสมัยจากคาเฟ่บรรยากาศดี แกลเลอรีงานศิลป์แนวร่วมสมัย และโรงอาบน้ำซัลเฟอร์สไตล์เปอร์เซีย ที่กลายเป็นกิจกรรมต้องลองของผู้มาเยือน
จากเมืองหลวง เรามุ่งหน้าไปทางเหนือสู่เทือกเขาคอเคซัส เพื่อสัมผัสเมืองเล็กกลางขุนเขาอย่างคาซเบกิ โดยเดินทางบนถนนสาย Georgian Military Highway พาเราผ่านหุบเขาลึก น้ำตกสูง และอารามริมผา จนกระทั่งโบสถ์ Gergeti Trinity Church ปรากฏตัวอยู่กลางขุยเขา แม้การเดินทางค่อนข้างยากลำบากด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยว แต่เมื่อไปถึง เราจะเข้าใจทันทีว่าทำไมที่นี่จึงเป็นไฮไลต์ที่นักเดินทางทั่วโลกเฝ้าฝัน
ออกจากเมืองในหุบเขา มุ่งหน้าลงใต้ไปสู่อดีตอีกมิติหนึ่ง ที่เมืองหินลึกลงไปในผืนดินอย่าง “อุปลิสต์ซิเค” (Uplistsikhe) เมืองถ้ำโบราณที่สลักไว้บนเนินหินริมแม่น้ำมต์กวารี ที่นี่เป็นเมืองยุคก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 1 ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางศาสนาและการค้าสำคัญ โครงสร้างหินถูกสกัดเป็นบ้าน โบสถ์ ห้องพิธีกรรม และอุโมงค์ใต้ดินอย่างประณีต แม้เพียงเศษเสี้ยวของอดีตจะหลงเหลืออยู่ แต่จินตนาการของเราก็พาให้ภาพของผู้คนในยุคนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ไม่ไกลจากถ้ำหิน เราแวะเมืองกอรี เมืองเล็กที่อาจไม่มีชื่อเสียงในเชิงท่องเที่ยว แต่เป็นที่รู้จักในฐานะบ้านเกิดของหนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์โลก — โจเซฟ สตาลิน พิพิธภัณฑ์สตาลินในเมืองนี้นำเสนอทั้งด้านสว่างและด้านมืดของชีวิตผู้นำโซเวียต ผ่านภาพถ่าย ข้าวของส่วนตัว ไปจนถึงบ้านไม้หลังเล็กที่เขาเกิด และโบกี้รถไฟส่วนตัวที่ยังคงจัดแสดงอยู่ในสนามหญ้าด้านหน้า แม้จะขัดแย้งในแง่มุมทางประวัติศาสตร์ แต่พิพิธภัณฑ์นี้ก็ชวนให้ตั้งคำถาม และมองเห็นภาพกว้างของยุคสงครามเย็นได้ชัดเจนขึ้น
อีกเมืองที่ตั้งอยู่ชายสู่ฝั่งตะวันตกของประเทศ “บาทูมี” เมืองชายฝั่งทะเลดำที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา เมืองนี้มีความขัดแย้งอย่างลงตัวระหว่างธรรมชาติกับสถาปัตยกรรมโมเดิร์น ท้องทะเลสีเทาอมฟ้าตัดกับหอคอยรูปทรงแปลกตา สวนสาธารณะริมชายฝั่งที่มีทั้งนักปั่นจักรยาน นักวิ่ง และนักดนตรีเปิดหมวกทำให้ค่ำคืนริมทะเลมีจังหวะของตัวเอง ทุกเช้าในบาทูมีสามารถเริ่มต้นด้วยกาแฟในคาเฟ่ชั้นดี และจบลงด้วยปลาย่างร้อน ๆ ริมท่าเรือ เป็นเมืองที่ไม่เคยรีบ แต่ก็ไม่เคยน่าเบื่อ
จอร์เจียไม่ใช่แค่การเที่ยวชมสถานที่ แต่คือการเดินผ่านเรื่องราวที่ยังหายใจอยู่ในซอกหิน ในดินแดนที่ทุกเทือกเขาเป็นพยานของสงครามและศรัทธา ทุกหมู่บ้านมีตำนาน จอร์เจียคือจุดหมายที่ไม่ได้แค่ “ดูดีในภาพถ่าย” แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ต้องไป “สัมผัสด้วยใจ” เท่านั้นจึงจะเข้าใจ






