หน้าแรกBusinessยุทธศาสตร์ใหม่บีโอไอ เผยโอกาสของ SMEs ไทยใน 5 อุตสาหกรรม

ยุทธศาสตร์ใหม่บีโอไอ เผยโอกาสของ SMEs ไทยใน 5 อุตสาหกรรม

Published on

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ได้ดำเนินยุทธศาสตร์ส่งเสริมลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ภายใต้เป้าหมายเพื่อพลิกโฉมประเทศไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของ “นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์” เลขาธิการบีโอไอ ได้อนุมัติคำขอรับส่งเสริมลงทุนไปแล้วกว่า 1.7 ล้านล้านบาท ที่สำคัญสามารถยกระดับอุตสาหกรรมดั้งเดิม พร้อมสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศไทย และผลักดันให้ SMEs ไทยเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ระดับโลก

ยุทธศาสตร์ใหม่ของบีโอไอให้ความสำคัญกับการยกระดับอุตสาหกรรมดั้งเดิม และสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ใน 5 อุตสาหกรรมหลักที่ไทยมีศักยภาพในการเติบโต และสามารถนำพาผู้ประกอบการ SMEs ไทย ก้าวไปสู่เศรษฐกิจใหม่อย่างยั่งยืน ได้แก่

1. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม EV ระดับโลก ซึ่งไม่ใช่แค่การลงทุนโรงงานประกอบรถอย่างเดียว แต่ยังมีการลงทุนผลิตชิ้นส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ และชิ้นส่วนอื่น ๆ รวมไปถึงการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา ส่งผลดีต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ระดับ Tier 2 และ Tier 3 ของไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็น SMEs ให้สามารถยกระดับการผลิตสินค้าเพื่อเข้าสู่ Supply Chain อุตสาหกรรม EV ระดับโลก

2. อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง โดยเฉพาะแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ที่ถือเป็นคลื่นลงทุนใหม่ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมไปถึงโครงการผลิตชิป (Wafer) การออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ (IC Design) การประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์และวงจรรวม ที่ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญในยุคการเติบโตของดิจิทัลและเอไอ ซึ่งไทยได้จัดตั้งคณะกรรมการเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติขึ้นมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อเร่งผลักดันนโยบายเพื่อส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น และจะส่งผลดีต่อ SMEs จำนวนมากที่อยู่ใน Supply Chain ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ในประเทศไทย

3. อุตสาหกรรมดิจิทัล ถือเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตสูงมากในช่วงที่ผ่านมา จากการขับเคลื่อนโดยเอไอ ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายสำคัญในการลงทุนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ทั้งจากสหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย และไทย โดยเฉพาะ Data Center และ Cloud Service ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ SMEs และ Startup ของไทย เชื่อมโยงเครือข่ายกับธุรกิจระดับโลก

4. อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญและศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในด้านอุตสาหกรรมเกษตร และแปรรูปอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกิจการผลิตอาหาร เครื่องดื่มและสิ่งปรุงแต่งอาหาร กิจการผลิตอาหารสัตว์ กิจการผลิตน้ำมันหรือไขมันจากพืชหรือสัตว์ กิจการผลิตบรรจุภัณฑ์จากผลผลิตหรือเศษวัสดุทางการเกษตร ถือป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรของไทย และยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

5. อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ซึ่งเป็นอีกอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญ เนื่องจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในไทย ต้องการไฟฟ้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เป็น “พลังงานสะอาด” ขณะเดียวกันนโยบายของบีโอไอได้สนับสนุนให้เกิดผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตโดยหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน เพื่อเติบโตไปกับเมกะเทรนด์ของโลกที่ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิตสินค้าและบริการ

ทั้งนี้ บีโอไอมุ่งยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs ไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ ผลักดันให้ SMEs ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งใน Supply Chain ของบริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งทั้ง 5 อุตสาหกรรมที่เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจใหม่ดังกล่าวข้างต้น ส่วนใหญ่จะมีผู้ประกอบการ SMEs ของไทยอยู่ใน Supply Chain และมีฐานการผลิตที่แข็งแรงมากว่า 30 ปี โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ โดยตั้งแต่เริ่มใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ (ปี 2566 – 2567 ที่ผ่านมา บีโอไอได้ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) รวมกว่า 2,000 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 76,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บีโอไอยังมีมาตรการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการยกระดับหรือปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ (Smart and Sustainable Industry) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน การปรับปรุงเครื่องจักร นำระบบอัตโนมัติ และดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีคำขอส่งเสริมลงทุนกว่า 800 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 64,000 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งบีโอไอยังได้กิจกรรมเชื่อมโยงระหว่างบริษัทชั้นนำกับ SMEs ไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจับคู่ธุรกิจ และกิจกรรม Sourcing day เพื่อให้ SMEs ไทยได้พบกับผู้ซื้อโดยตรง ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับ SMEs ไทยได้เข้าไปอยู่ใน Supply Chain ของอุตสาหกรรมระดับโลก

การเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ครั้งนี้ บีโอไอมุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่อยู่ใน Supply Chain ได้ปรับตัวผ่านมาตรการส่งเสริมต่าง ๆ ทั้งมาตรการส่งเสริม SMEs มาตรการ Smart and Sustainable Industry โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่มีเงินลงทุนเริ่มต้น 500,000 บาทขึ้นไป สามารถขอรับส่งเสริมลงทุนได้ โดยได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลถึง 200% ของวงเงินลงทุน การที่บีโอไอมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการ SMEs มีเป้าหมายสำคัญคือ เพื่อสร้างแต้มต่อในการลงทุนให้กับผู้ประกอบ SMEs ไทย

Latest articles

PRINC Group เดินหน้าแคมเปญ “พาคนกลับบ้าน” ส่งบุคลากรสายสุขภาพกลับสู่บ้านเกิด

แคมเปญ “พาคนกลับบ้าน” ภายใต้ “โครงการพริ้นซ์ผสาน” จาก PRINC Group ถือเป็นความสำเร็จที่สามารถส่งพนักงานหวนกลับมาทำงานที่ภูมิลำเนามากกว่า 150 ครอบครัว

PSP เปิดบ้านต้อนรับกรมธุรกิจพลังงาน โชว์ศักยภาพผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นครบวงจร

บมจ.พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ (PSP) ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านผลิตภัณฑ์หล่อลื่นครบวงจร มาตรฐานระดับสากลมากว่า 35 ปี ด้วยศักยภาพกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่น 212 ล้านลิตรต่อปี และความสามารถในการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและยางมะตอยมากกว่า 3,600 ล้านลิตรต่อปี

มาสเตอร์การ์ด เดินหน้าปลูกต้นไม้ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มุ่งเป้า 100 ล้านต้นทั่วโลก

มาสเตอร์การ์ดย้ำเจตนารมณ์ในการสนับสนุนโครงการ Priceless Planet Coalition อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

MSpa International ส่งต่อแรงบันดาลใจเพื่อสุขภาพ ฉลอง Global Wellness Day

เอ็มสปา อินเตอร์เนชั่นแนล (MSpa International) สปาแอนด์เวลเนสชั้นนำในเครือไมเนอร์ โฮเทลส์ (Minor Hotels) จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง Global Wellness Day หรือ วันแห่งสุขภาพโลก...

More like this