55 ปี การก่อสร้าง “ถนนพระราม 2” เส้นทางที่แสงไฟกระพริบสีส้มที่ไม่มีวันดับ

Published on

ถนน “พระราม 2” เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อกว่า 55 ปีก่อน โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองและระบบโลจิสติกส์จากกรุงเทพฯ ไปสู่ภาคใต้ โดยเริ่มต้นที่บริเวณแยกบางปะแก้ว เขตบางคอแหลม และทอดยาวไปสิ้นสุดที่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม มีความยาวกว่า 84 กิโลเมตร แต่เต็มไปด้วย ปัญหาน้ำท่วม, ถนนชำรุด, รถติดมหากาฬ, และ อุบัติเหตุบ่อยครั้ง

โดยถนนพระราม 2 (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35) ได้เริ่มต้นการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2513 และเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2516 ดังนั้น ณ ปี พ.ศ. 2568 ถนนพระราม 2 ได้ดำเนินการก่อสร้างและพัฒนามาเป็นระยะเวลากว่า 55 ปีแล้ว​ ตลอดระยะเวลาดังกล่าว ถนนพระราม 2 ได้ผ่านการขยายและปรับปรุงหลายครั้ง เช่น การเพิ่มจำนวนช่องจราจรจาก 2 เลนเป็น 4 เลนในช่วงปี พ.ศ. 2532–2537 และการขยายเป็น 14 เลนในบางช่วงในปี พ.ศ. 2561–2563 เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ​

ปัจจุบันยังมีโครงการก่อสร้างที่กำลังดำเนินการอยู่ เช่น การก่อสร้างทางยกระดับบางขุนเทียน–เอกชัย และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3–ดาวคะนอง–วงแหวนรอบนอกตะวันตก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2568

ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ถนนเส้นนี้ได้รับการขยายซ่อมแซมและปรับปรุงอยู่เรื่อย ๆ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือเมื่อมีโครงการ “ขยายถนนและยกระดับพระราม 2” ที่ขยายถนนจาก 6 เลนเป็น 10 เลน พร้อมสร้างทางยกระดับและสะพานลอยกลับรถหลายจุด ความหวังของประชาชนเริ่มสว่างไสว แต่ไม่นานก็กลับกลายเป็นความมืดมิดเมื่อการก่อสร้างเริ่มล่าช้า ขาดความต่อเนื่อง และเต็มไปด้วยอุปสรรค

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การก่อสร้างบนถนนพระราม 2 กลายเป็น “ของคู่กัน” กับคำว่า “รถติด” ฝุ่นควัน ป้ายเบี่ยงทาง และแสงไฟกระพริบสีส้มที่ไม่มีวันดับ

ปัญหาที่เกิดขึ้นมีทั้ง การเปลี่ยนผู้รับเหมา งบประมาณไม่เพียงพอ การวางแผนที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง อุบัติเหตุในเขตก่อสร้างที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า การตรวจสอบคุณภาพงานที่ล่าช้า แม้ว่าการก่อสร้างจะล่าช้ามาหลายปี แต่ภาครัฐยังคงยืนยันว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จตามกำหนดในอนาคต (ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้งแล้ว) โดยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการติดตามงาน ตรวจสอบความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และพยายามปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การก่อสร้างถนนพระราม 2 ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาของโครงการหนึ่งเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงระบบการจัดการโครงการสาธารณะของประเทศ ตั้งแต่ขั้นตอนวางแผน การอนุมัติงบประมาณ ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพและการสื่อสารกับประชาชน

Latest articles

BLC นำทัพสมุนไพรนวัตกรรม “ไพลวาน่า” โชว์ศักยภาพในงาน World Expo 2025

‘บมจ. บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค หรือ BLC’ โชว์ศักยภาพสมุนไพรไทยสู่สากลในงาน World Expo 2025 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ชูผลิตภัณฑ์เรือธง Thai Inno-Herbal แบรนด์ “ไพลวาน่า” ครีมสมุนไพรที่พัฒนาจากเหง้าไพล ด้วยการบูรณาการภูมิปัญญาไทยสู่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์

LULULEMON CREATING A NEW HUB FOR MOVEMENT AND MINDFULNESS IN BANGKOK

lululemon has officially opened the doors to its new store at Megabangna, marking an...

“Lamborghini Fenomeno” เปิดตัว ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ลิมิเต็ดอิดิชั่น 29 คันทั่วโลก

ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี (Automobili Lamborghini) ภูมิใจเสนอ “Fenomeno” สุดยอดซูเปอร์สปอร์ตคาร์ ลิมิเต็ดอิดิชั่นรุ่นล่าสุด ที่ผลิตจำกัดเพียง 29 คันทั่วโลก และมาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่มหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่ Monterey Car Week 2025

INET ก้าวสู่ครึ่งปีหลัง 2568 อย่างมั่นคง รุกเจาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่และขนาดกลาง

บมจ.อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET พร้อมรับมือกับความท้าทายครึ่งปีหลัง 2568 สร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ชูกลยุทธ์บริหารความเสี่ยงเชิงรุกครอบคลุมทุกมิติ มุ่งขยายฐานลูกค้าที่มีศักยภาพเติบโตสูงและให้ความสำคัญกับการทรานส์ฟอร์ม รุกเจาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่และขนาดกลาง ขยายการให้บริการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ขับเคลื่อนพลวัตเศรษฐกิจดิจิทัลให้สมบูรณ์แบบต่อเนื่อง คาดการณ์ปี 2568 มีฐานลูกค้า 7,000 ราย และการใช้งาน VMI สะสมถึง 110,000 VMI

More like this