วว./สทนช. จัดเวิร์คช้อปบริหารจัดการทรัพยากร กลุ่ม 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง

Published on

อว.โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนควานเห็นระพื้นที่ในการบริหารจัดการลุ่มแม่น้ำโขง” ภายใต้การดำเนิน โครงการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชนพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม

นายวินัย วังพิมูล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวเปิดการประชุมว่า ปัจจุบันแม่น้ำโขงสายประธานมีการเปลี่ยนแปลงและมีแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำโขงสายประธานทั้งโครงการที่แล้วเสร็จ โครงการที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง และโครงการที่มีแผนดำเนินการในอนาคตของประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้สภาพลำน้ำ ระบบนิเวศ และชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงซึ่งต้องพึ่งพาอาศัยแม่น้ำโขงในการดำรงชีพ ได้รับผลกระทบข้ามพรมแดนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะประชาชน 8 จังหวัดริมน้ำโขง ได้แก่ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ที่ประกอบอาชีพการเกษตรริมฝั่งการประมง การค้าขาย และการท่องเที่ยว

นายวินัย วังพิมูล

ในการนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการดำเนินการตามข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 อย่างยั่งยืนและดูแลผลประโยชน์ของประเทศไทย จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญและมีความมุ่งมั่นที่จะดูแล ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของประชาชนริมฝั่งโขงที่ได้รับผลกระทบข้ามพรมแดน เพื่อเป็นการเตรียมตั้งรับปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง จึงได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ขึ้นโดยร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ใหม่ผ่านนวัตกรรมและการเรียนรู้เทคโนโลยี ให้สามารถตั้งรับปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงจากการพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขงสายประธาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านในการนำผลจากการเข้าร่วมโครงการฯ ไปประยุกต์ใช้และเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับรองรับการประกอบอาชีพที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากอาชีพที่เคยประกอบอยู่เดิม โดยจะเป็นเพิ่มมูลค่าของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ยกระดับการประกอบอาชีพของภาคประชาชนได้ สร้างความมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจและชุมชนฐานรากและเกิดการพัฒนาศักยภาพของผู้นำและภาคีเครือข่ายลุ่มน้ำโขง ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน อีกทั้งสามารถนำไปขยายผลในชุมชนได้ในอนาคต

ดร.โสภาพรรณ สัญญาณเสนาะ ผู้อำนวยการ สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม วว. กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุมว่า การจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้มีมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็ง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากร วัตถุดิบ ตลอดจนผลผลิตในพื้นที่ให้มีความสอดคล้องกับบริบทของแต่ละชุมชนพื้นที่ 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขง ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัดกรรม รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของภาคประชนเรื่องการนำผลผลิตมาพัฒนาแปรรูป อาทิ กลุ่มอาหาร กลุ่มสมุนไพรและเครื่องสำอาง รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ เพื่อยกระดับให้ได้รับรองมาตรฐานสินค้าผลผลิตทางการเกษตร

ดร.โสภาพรรณ สัญญาณเสนาะ

“วว. เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มีพันธกิจหลัก ในการวิจัยพัฒนา และบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสร้างคุณค่า มูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจประเทศ ตอบสนองการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน วว. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้ความรู้ความสามารถที่เป็นพันธกิจหลัก โดยร่วมมือกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในการนำองค์ความรู้ด้าน วทน.ไปใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร อาหาร สมุนไพร ภายใต้ Model BCG เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรไทย กิจกรรมในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มดันที่ดีในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคประชาชน 8 จังหวัดริมน้ำโขง เกิดการเรียนรู้ในการยกระดับผลผลิต พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่พร้อมรับรองมาตรฐานตามที่ตลาดกำหนด ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินโตต่อไปอย่างยื่น” ผู้อำนวยการ สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม วว. กล่าว

ทั้งนี้ การประชุมฯ ดังกล่าวจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 4 – 6 สิงหาคม 2567 โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในหัวข้อต่างๆ อาทิ บทบาทการทำงานของ วว. การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมการใช้ฟางข้าวเป็นวัสดุเพาะเห็ดเศรษฐกิจ แนวทางการพัฒนาสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่า บริการวิเคราะห์ทดสอบ/สกัดสารสำคัญจากสมุนไพร/ผลิตเครื่องสำอางระดับอุตสาหกรรม รวมทั้งการแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นอกจากนี้ยังจัดให้มีการศึกษาดูงานโครงสร้างพื้นฐานของ วว. ได้แก่ โรงงานบริการนวัตกรรมอาหาร (FISP) และโรงงานต้นแบบการผลิตผักทอดกรอบ เป็นต้น

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this