สสส. ร่วมกับมูลนิธิฟอร์เวิร์ด เปิดตัวแอปพลิเคชัน FORWARD

Published on

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิฟอร์เวิร์ด (forward foundation) เปิดตัว “แอปพลิเคชัน FORWARD” และ 5 โครงการ เพื่อส่งต่อโอกาสในการให้อย่างสร้างสรรค์ ได้แก่ 1.โครงการ Let’s be heroes 2. โครงการศูนย์สร้างโอกาสเด็ก 3. โครงการ forOldy 4. โครงการ The Prison Project และ 5. โครงการ Wonder view โดยมี พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผอ.ศูนย์วิปัสสนาสากล ไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย ผู้จุดประกายบทบาทแห่งการให้ในมิติที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนแอปพลิเคชัน FORWARD ที่จะเติมเต็มการให้ในสังคมได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งในระยะเริ่มต้น มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมในการสร้างโอกาสที่ดีถึง 5 โครงการ และเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเช่น หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์คุณบอม สุทธิศักดิ์ สินเจริญ เป็นต้น

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส.สนับสนุนโครงการ “ฟอร์เวิร์ด : ขับเคลื่อนศูนย์กลางสนับสนุนการให้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง” โดยร่วมสร้างสังคมแห่ง “การให้” เอื้ออาทรซึ่งกันและกันนำไปสู่การสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาพ โดย สสส.ให้ความสำคัญกับสุขภาวะในทุกมิติ ครอบคลุมมิติกาย จิต ปัญญาและสังคม ในมิติ “ปัญญา” คือ การสนับสนุนการพัฒนาจิตสู่ “จิตใหญ่” เชื่อมโยงตนและเห็นแก่ส่วนร่วม เช่น กิจกรรมด้านจิตอาสา หรือ การให้โดยใช้นวัตกรรมช่องทางการสื่อสารอย่างแอปพลิเคชัน เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ในการช่วยเหลือผู้ขาดโอกาสในสังคมให้มีโอกาสทางสุขภาวะที่ดีขึ้น สำหรับแอปพลิเคชัน FORWARD จะเป็นศูนย์กลางแห่งการส่งต่อการให้ที่เป็นรูปธรรม สามารถตรวจสอบได้ชัดเจนว่าสิ่งที่ให้ได้ถึงผู้รับจริง และในอนาคตจะไม่มีเพียง 5 โครงการนี้เท่านั้น แต่ทุกคนสามารถเข้าไปสร้างโครงการดีๆ ได้ในแอปพลิเคชัน เพื่อเกิดจิตอาสาแห่งการให้อย่างไม่รู้จบ

“สสส.ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมที่ไม่ทอดทิ้งกัน ทำสิ่งเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ช่วยสร้างความเข้าใจปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างลึกซึ้งขึ้นก่อนการตัดสินใจให้ อย่างโครงการ Wonder view มากกว่าแว่นตา คืออนาคตที่สดใส ที่สสส.ได้มีส่วนร่วม ภายใต้แนวคิด “นับเราด้วยคน” สะท้อนปัญหาพัฒนาการเด็กในพื้นที่ชายแดนที่ช้ากว่าเด็กทั่วไป เนื่องมาจากความผิดปกติในการมองเห็น จึงจัดกิจกรรมมอบแว่นตาให้แก่นักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีปัญหาด้านสายตา ช่วยให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ชายแดนที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและโอกาสการเข้าถึงทรัพยากร” นางภรณีกล่าว

ด้านนายอิศรา เล็บนาค กรรมการมูลนิธิฟอร์เวิร์ด กล่าวว่า การทำความดีในยุคที่มีเทคโนโลยีอยู่ในมือ ช่วยให้การส่งต่อให้กันเกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้การส่งต่อนั้นไปถึงได้อย่างทันท่วงที โดยผ่านการตรวจสอบและคัดเพื่อทำให้ “การให้” ที่ถูกส่งต่อไปนั้น ผู้ให้และผู้ได้รับได้ประโยชน์อย่างแท้จริง และเมื่อจุดเริ่มต้นคือการมีเจตนาที่ต้องการช่วยเหลือและพร้อมที่จะลงมือทำในทันที สิ่งนี้จึงเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เราได้สร้างแอปพลิเคชัน FORWARD ภายใต้เจตนาของผู้ให้ที่ต้องการให้อย่างไม่ลังเล โดย FORWARD จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางระหว่างผู้ให้และผู้รับได้ร่วมสร้างสรรค์โอกาสที่ดีไปด้วยกัน ซึ่งทำได้โดยการสร้างโครงการที่เราเล็งเห็นแล้วว่าต้องการความเชื่อเหลือ ลงในแอปพลิเคชัน FORWARD พร้อมเขียนรายละเอียดในสิ่งที่ต้องการ อาทิเช่น การช่วยระดมเงิน หรือ การประกาศรับจิตอาสา และสามารถทำได้อีกหลายกรณีที่เป็นการส่งต่อการให้เป็นด้วยกัน ภายใต้ระบบการทำงานของแอปพลิเคชันที่มีความปลอดภัย สามารถตรวจสอบแต่ละโครงการได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังทราบได้ว่า สิ่งที่เราได้ส่งต่อออกไปนั้นได้ไปถึงปลายทางของผู้รับแล้วหรือไม่ ตรวจสอบได้อย่างโปร่งใสในทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Forward Foundation ลงในสมาร์ทโฟน ได้ทาง ios และ android

หรือติดตามรายละเอียดได้ใน www.facebook.com/forwardfoundationth

ข้อมูลโครงการนำร่องในระยะเริ่มต้น

1.โครงการ Let’s be heroes โดย หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์

จากจุดเริ่มต้นที่เป็นแรงบันดาลใจในการประกวดนางสาวไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการเปิดฟรีคลินิก เพื่อรักษาผู้ป่วยในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งจากความฝันในวันนั้นทำให้วันนี้หมอเจี๊ยบได้ออกเดินทำให้เป็นจริง โดยการจัดตั้งสองกิจกรรมที่เป็นการสร้างสิ่งที่ดีให้สังคม กิจกรรมที่หนึ่ง สอนการทำ CPR ด้วยสองมือ เพื่อรักษาชีวิตผู้ที่หัวใจหยุดเต้น และการสอนการใช้เครื่อง AED เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจโดยใช้ไฟฟ้า โดยนำทีมแพทย์ลงสอนในพื้นที่ต่างๆด้วยวิธีการที่ถูกต้อง และอีกหนึ่งกิจกรรมที่หมอเจี๊ยบและกลุ่มทีมแพทย์ ได้ตั้งใจทำร่วมกัน คือการออกรักษาผู้ป่วยในถิ่นทุรกันดาร โดยทำการตรวจสอบยังพื้นที่ต่างๆว่าต้องการความช่วยเหลือในสิ่งใด ทั้งบุคคลากร หรือเครื่องมือทางการแพทย์ ทางโครงการก็จะทำการประสานงานเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันเวลา

  1. โครงการศูนย์สร้างโอกาสเด็ก โดย ครูเชาว์ เชาวลิต สาดสมัย

ด้วยชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ ทั้งความพิการและถูกทิ้งจากครอบครัวตั้งแต่เด็ก เขากลับไม่นำสิ่งนี้มาเป็นตัวที่ขวางทางเดินของชีวิต แต่กลับนำเป็นแรงผลักดันเพื่อเติมเต็มสังคมให้สมบูรณ์ด้วยสิ่งที่เขาได้ทำ ซึ่งปัจจุบันครูเชาว์ ได้สร้างศูนย์สร้างโอกาสเด็กในชุมชนต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างพื้นที่ให้เด็กได้มีพื้นที่แห่งการเรียนรู้ อีกทั้งยังทำให้ครอบครัวได้มาร่วมสร้างกิจกรรมร่วมกันในพื้นที่แห่งนี้ ตัวอย่างกิจกรรมที่ครูเชาว์ได้สร้างขึ้นในแต่ละชุมชน คือ ร้านศูนย์บาท ร้านที่ให้เด็กๆในชุมชนนำขยะหรือของที่ไม่ใช้แล้วมาแลกเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ถ้าต้องการถุงเท้า ก็ต้องนำขวดน้ำสามสิบขวดมาแลกถุงเท้าไปใช้ ด้วยวิธีนี้ทำให้เด็กๆในชุมชนมองเห็นคุณค่าในของที่ไม่ใช้แล้ว และยังลดขยะในชุมชนได้อีกจำนวนมาก นอกจากนี้ครูเชาว์ยังมีการเรียนรู้ในด้านอื่นๆที่สอนเด็กๆในชุมชนอีกหลายด้าน ทั้งนี้เพื่อให้เด็กได้มีกิจกรรมที่ดี ห่างจากปัญหายาเสพติด หรือภาวะที่ครอบครัวไม่พร้อมเลี้ยงดู ด้วยเหตุที่ครูเชาว์ผ่านจุดนี้มาในชีวิต จึงทำให้เห็นความสำคัญในการเติมเต็มในสิ่งที่สังคมยังต้องการ

  1. โครงการ forOldy โดย คุณนุช อรนุช เลิศกุลดิลก

เมื่อวัยแห่งความร่วงโรยได้มาถึง คุณค่าในชีวิตที่เคยภูมิใจกลับถูกลดทอนลงไปด้วยการทำอะไรไม่ได้เหมือนแต่ก่อน จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณนุช ได้สร้างโครงการ forOldy ที่จะทำให้ผู้สูงอายุได้กลับมาภูมิใจในคุณค่าของตัวเองอีกครั้ง และยังเป็นโครงการพัฒนาผู้สูงอายุในด้านต่างๆให้มีการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ ทั้งร้านคุณตาคุณยาย ที่มีอุปกรณ์ที่ผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้ จำหน่ายและเช่าในราคาที่ย่อมเยาว์ , กองทุนอุ่นใจ ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้สูงอายุเริ่มสะสมเงินในวันที่ต้องจากโลกนี้ไปเพียงเดือนละยี่สิบบาท และ อาสาสมัครเพื่อผู้สูงอายุที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆที่ทางโครงการจัดทำขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน

  1. โครงการ The Prison Project โดย คุณบอม สุทธิศักดิ์ สินเจริญ

ในวันที่เคยกระทำความผิด นั่นอาจเป็นจุดผิดพลาดหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่หากวันหนึ่งเมื่อสำนึกถึงความผิดและกลับตัวเป็นคนที่ดีได้แล้ว อะไรจะเป็นจุดที่นำทางให้พวกเขาที่เคยถูกต้องขังในเรือนจำมีอนาคตที่ดีและไม่กระทำผิดซ้ำสองได้ คุณบอม สินเจริญฯ ได้เห็นเรื่องราวเหล่านี้จากน้องชายคนสนิทที่เคยถูกต้องขังในเรือนจำ แต่วันนี้เขากลับมีชีวิตที่ดีได้เพียงเพราะมีอาชีพติดตัวออกมา จึงทำให้มีเป้าหมายในชีวิตอย่างชัดเจน คุณบอมจึงได้สร้าง The Prison project โดยการรวบรวมเพื่อนศิลปินจัดคอนเสิร์ตในเรือนจำในที่ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการเป็นคนดีของสังคมในวันที่พ้นโทษออกมา

  1. โครงการ Wonder view ทำทีมโดยจิตอาสา คุณนนท์ ธนนท์ จำเริญ

จากจุดเริ่มต้นที่พบว่าเด็กไทยมีความผิดปกติในด้านการพัฒนาการที่มากขึ้นทุกวัน ส่งผลให้การเรียนของเด็กๆที่ทางหน่วยงานสำรวจพบว่า มีเกณฑ์ต่ำกว่ามาตรฐานเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เมื่อทำการดูอย่างละเอียดจึงพบว่า ในเด็กกลุ่มนั้นมีความผิดปกติในด้านการมองเห็น จึงทำให้การสังเกตสิ่งรอบตัว การเรียนรู้ที่ต้องใช้สายตาในการช่วยจดจำ เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ โครงการ Wonder view จึงเล็งเห็นในความสำคัญในข้อนี้เป็นอย่างมาก ในครั้งแรกโครงการจึงจัดหาแว่นตาและสมทบเงินจากผู้ที่ต้องการช่วยเหลือเพื่อส่งต่อไปยังน้องๆในอำเภอพบพระ ซึ่งในครั้งแรกนี้ได้แว่นตาจำนวน 62 อัน และเงินสมทบจำนวน 97,140 บาท และต่อมายังได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลพบพระที่มอบแว่นให้น้องจำนวน 120 อัน ซึ่งในครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้นนี้ทางโครงการต้องการจัดหาแว่น รวมถึงบุคคลากรเพื่อลงพื้นที่ตรวจสายตา เพื่อรักษาและมอบแว่นตาให้ครอบคลุมในหลายๆพื้นที่ที่เด็กๆมีปัญหาเดียวกัน

 

Latest articles

ทช.-SCG 3D Printing โชว์ผลงานฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ SCG 3D Printing โชว์ผลงาน “ฐานลงเกาะตัวอ่อนปะการัง Whirling Wave Pagoda หรือเจดีย์เกลียวคลื่น” ไอเดียต้นแบบรางวัลชนะเลิศจากโครงการ “ARTIFICIAL REEFS HACKATHON 2025”

บัตรเครดิต ttb จัดแคมเปญ “ยิ่งแลก ยิ่งลุ้น” ผ่านแอป ttb touch

บัตรเครดิต ttb จัดแคมเปญ “ยิ่งแลก ยิ่งลุ้น” ผ่านแอป ttb touch รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลทองคำรวม 4 บาท และรางวัลอื่น ๆ รวมกว่า 250,000 บาท

InterContinental Doors Unlocked 2025 ชวนท่องไปกับประสบการณ์ระดับโลก

Doors Unlocked by InterContinental เปิดประตูสู่โลกของผู้นำเทรนด์และประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ พาแขกผู้เข้าพักสัมผัสเบื้องหลังงานใหญ่ระดับโลก ตั้งแต่แฟชั่นวีคไปจนถึงเทศกาลภาพยนตร์

“ภาวุธ” ดันตลาดสตาร์ทอัพ Data AI ลงทุน PAM เสริมแกร่ง SME ไทยแข่งขันได้

ธุรกิจไทยควรได้ใช้ข้อมูลที่เป็นของตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้แพลตฟอร์มต่างชาติเก็บและควบคุม โดย PAM จะเป็นเครื่องมือศูนย์รวมข้อมูลลูกค้าที่ทำให้ SME ไทยเข้าถึงลูกค้าได้ตรงจริง และใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดได้อย่างเต็มที่

More like this