แพทย์เผยคนอายุน้อยเสี่ยงเป็น “หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น” มากขึ้น

Published on

แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังเตือน วัยทำงานมีความเสี่ยงเป็น “หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น” พบอายุน้อยที่สุด 24 ปี แนะรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้ตรงจุด หากรักษาช้าเสี่ยงพิการได้

นพ.ณฐพล ลิตติรานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ เปิดเผยว่า จากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น ตั้งแต่ปี 2560 ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป และจะมาด้วยอาการปวดหลังร้าวลงขา ชาและอ่อนแรงร่วมด้วย หากเปรียบเทียบกับในช่วงปัจจุบัน ผู้ป่วยกลุ่มผู้สูงวัยยังมีจำนวนเท่าเดิม แต่ในทางกลับกันพบว่า กลุ่มคนที่มีอายุน้อยลงกลับมีอาการเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น

ส่วนสาเหตุที่พบในกลุ่มคนวัยทำงานหรือกลุ่มคนที่มีอายุน้อย ที่เริ่มเป็นโรค หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น มากขึ้นเพราะ ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มักจะทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ยกของหนัก ,นั่งนาน ,ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ หรือก้มตัวยกของ

นพ.ณฐพล ยังเผยอีกว่าหมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาท หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท เกิดจากหมอนรองกระดูกที่อยู่ระหว่างกระดูกทั้ง 2 ข้อ ปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาทไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดคอหรือหลัง หากมีการกดทับมากอาจเสี่ยงต่อความพิการได้ ส่วนอาการที่พบได้บ่อยคือ ปวดคอ ปวดหลังส่วนล่าง ปวดบริเวณก้น หรือสะโพกร้าวลงขา (บริเวณเส้นประสาทไซแอ็ททิค Sciatic nerve ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่ยาวที่สุดในร่างกายของมนุษย์) ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการชา หรือเสียวเหมือนไฟช็อต ร้าวลงขา หรือแขน ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง ส่งผลให้ขณะก้มยกของหรือทรงตัวมีปัญหา หากเส้นประสาทถูกกดทับเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมถึงระบบขับถ่ายมีปัญหา

อย่างไรก็ตามการรักษาผู้ป่วยหมอนรองกระดูกปลิ้นในกลุ่มคนที่อายุน้อย นพ.ณฐพล ยังเผยอีกว่า เมื่อผู้ป่วยมีอาการปวดหลังและหากรับประทานยาแก้ปวดนานเกิน 1 เดือน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะพิจารณาส่งตรวจ X-ray และ MRI เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของหมอนรองกระดูกปลิ้น หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท ซึ่งการรักษาอาการปวดจากภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นหรือหมอนรองกระดูกเคลื่อน จะเริ่มจากการฉีดยาระงับการอักเสบที่บริเวณโพรงเส้นประสาทไขสันหลัง หากหมอนรองกระดูกเริ่มปูดนูน หรือปลิ้นออกมาไม่มาก แพทย์อาจจะพิจารณาทำการรักษาด้วยการจี้เลเซอร์ในบริเวณที่มีปัญหา

แต่เมื่อใดก็ตามที่หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น หรือเคลื่อนกดทับเส้นประสาทในปริมาณที่มาก แพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยกล้องเอ็นโดสโคป หรือการเจาะรูส่องกล้อง ด้วยเทคนิค PSLD (Percutaneous Stenoscopic Lumbar Decompression) ที่บริเวณส่วนหลัง หรือ เทคนิค PSCD (Percutaneous Stenoscopic Cervical Decompression) ที่บริเวณส่วนคอ

ทั้งนี้ นพ.ณฐพล ยกตัวอย่างผู้ป่วยที่มีอายุน้อยที่สุดที่เคยเข้ารับการรักษา คืออายุ 24 ปี โดยผู้ป่วยรายนี้ประกอบอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิศ มีพฤติกรรมนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน บางครั้ง 3 – 4 ชั่วโมงติดต่อกัน ผู้ป่วยเข้ามาพบแพทย์ด้วยอาการปวดสะโพกร้าวลงต้นขา มีประวัติการรักษามาจากที่อื่น เคยทานยาและทำกายภาพมาก่อนและอาการดีขึ้นบางส่วน แต่เมื่อหยุดยา หยุดทำกายภาพอาการปวดก็กลับมา และในวันที่ผู้ป่วยรายนี้เข้ามารับการรักษา คือไม่สามารถเดินและนอนได้ เบื้องต้นจึงส่งผู้ป่วยรายนี้ทำ X-ray ร่วมกับการทำ MRI เมื่อผลการตรวจยืนยันว่าพบหมอนรองกระดูกเคลื่อน จึงได้วางแนวทางการรักษาด้วยการเจาะรูส่องกล้องเพื่อนำสิ่งที่กดทับเส้นประสาทออก

นพ.ณฐพล ลิตติรานนท์

หลังการผ่าตัดผู้ป่วยอาการดีขึ้นมาก สามารถลุกขึ้นเดินได้ตั้งแต่วันแรกหลังการผ่าตัด เขายังบอกด้วยว่า “ดีใจที่เขาดีขึ้น ขาที่เคยชาก็ดีขึ้น และเดินทรงตัวได้ดีขึ้น” นั่นหมายถึงผู้ป่วยได้คุณภาพชีวิตที่ดีของเขากลับคืนมา
ขณะที่ผู้ป่วยรายนี้เปิดใจว่า อาการปวดเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือประมาณช่วงมหาวิทยาลัย ขณะนั้นมีอาการปวดหลังจึงกินยาแล้วนอนพัก ทำแบบนี้จนกระทั่งล่าสุดมีอาการปวดหลังร้าวลงขาไปถึงบริเวณหัวเข่าจนขยับไม่ได้ ใช้ชีวิตลำบากมาก ผู้ป่วยรายนี้ยังบอกอีกว่ารู้สึกหดหู่ใจ เพราะมองว่าตัวเองอายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้น ไปหาหมอมาหลายที่จนชินกับคำตอบของหมอว่าให้ออกกำลังกาย จนกระทั่งได้เข้ามารักษาที่ รพ.เอส สไปน์ รพ.เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ซึ่งคุณหมอณฐพลได้ทำการรักษาด้วยการส่องกล้องช่วยในการผ่าตัด ปัจจุบันกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม นพ.ณฐพล กล่าวทิ้งท้ายว่า เราเน้นการรักษาโรคที่ต้นเหตุ ทำให้คุณได้ทราบถึงสาเหตุของอาการก่อนการตัดสินใจรักษา เพื่อการหายที่ยั่งยืน ถ้าหาก “ปวดไม่หาย มาหาเรา” ซึ่งเรามีเทคนิคการรักษาแบบ “แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว” ทำให้ 95% ของผลการรักษาของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ นั้นนอนเพียง 1 คืน ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้เร็วขึ้น

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this