WINMED พร้อมสู้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

Published on

WINMED พร้อมสู้โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ขยายบริการ-สินค้ากลุ่มตรวจคัดกรองโควิด-19 ครบวงจร พร้อมให้บริการห้องปฎิบัติการตรวจยืนยันเชื้อโควิด-19 ด้วยระบบ RT-PCR และ TMA เป็นห้องปฏิบัติการเดียวในประเทศไทย ร่วมกับให้บริการตรวจคัดกรองเชิงรุกนอกสถานที่ พร้อมจำหน่ายชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) สำหรับตรวจด้วยตนเองทางโพรงจมูกและน้ำลายที่สามารถตรวจคัดกรองเชื้อโควิดทุกสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน

นันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินเนอร์ยี่ เมดิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ WINMED เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันเริ่มกลับมามีความวิตกกังวล เนื่องจากไวรัสโควิด-19 มีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ทำให้แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น ได้แก่ สายพันธุ์โอไมครอน (Omicron Variant) ถือเป็นเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดที่ 5 ที่องค์การอนามัยโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่น่ากังวล หลังจากสายพันธุ์อัลฟา, เบตา, แกมมา และเดลตาพลัส ที่เริ่มแพร่ระบาดในประเทศแถบอัฟริกาและในยุโรปบางประเทศ หากมีการแพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเลวร้ายยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามบริษัทได้ปรับแผนงานรองรับความเสี่ยงของการแพร่ระบาดรอบใหม่ไว้แล้ว โดยการปรับกลยุทธ์การให้บริการ-ขยายช่องทางจำหน่ายสินค้ากลุ่มตรวจคัดกรองโควิด-19 ครบวงจร โดยปัจจุบันได้รับอนุญาตสถานประกอบการคลินิกเทคนิคการแพทย์ จากกระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้บริการห้องปฏิบัติการมาตรฐานการตรวจยืนยันระดับโมเลกุลหาสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์โดยระบบ RT-PCR และ TMA (Transcription Mediated Amplification) ซึ่งเป็นคลินิกเทคนิคการแพทย์แห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองการตรวจทั้งสองระบบ

โดยทางบริษัทได้รับรายงานยืนยันจากผู้ผลิตว่าสามารถตรวจผลการติดเชื้อของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B1.1.529 (Omicron Variant) ได้ ร่วมกับให้บริการตรวจคัดกรองโควิด 19 เชิงรุกนอกสถานที่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของประชาชน

ในส่วนของ ผลิตภัณฑ์ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) บริษัทได้จำหน่ายชุดตรวจ แบรนด์ JOYSBIO สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และสำหรับตรวจคัดกรองด้วยตนเอง ด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างจากทางโพรงจมูกส่วนปลายที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานง่าย เริ่มจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 และยังได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 แบบเร่งด่วน (ATK) แบรนด์ LITUO เพิ่ม

สำหรับตรวจคัดกรองด้วยวิธีการเก็บตัวอย่างจากทางโพรงจมูกส่วนปลายและเก็บตัวอย่างจากน้ำลาย โดยได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อออกจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป ผ่านช่องทางออนไลน์ ร้านขายยา สถานพยาบาลทั่วประเทศ รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายโดยทั้งสองแบรนด์ได้รับการยืนยันจากผู้ผลิตว่ามีประสิทธิภาพในการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนอีกด้วย

นันทิยะ ดารกานนท์

เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่า ภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีนที่ฉีดกันในปัจจุบันจะสามารถคงประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้ บริษัทในฐานะผู้นำในวงการเทคโนโลยีการแพทย์ในประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญในการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัส โควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง โดยได้จัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในปัจจุบัน รวมถึงสายพันธุ์โอไมครอน

” บริษัทใช้ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่บริษัทมีได้แก่ TMA ที่เป็นการตรวจยืนยันเชื้อในระดับโมเลกุล ซึ่งได้ใช้ตรวจเชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น HIV, HBV, HCV และ HPV มามากกว่า 10 ปีในประเทศไทย และได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงมั่นใจว่าจะสามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในกรณีที่เกิดการระบาดรอบใหม่ได้” นันทิยะ กล่าว

Latest articles

MALEE เปิด 5 กลยุทธ์ ปั้นวิสัยทัศน์ Beyond Fruit to Global Wellbeing แตะหมื่นล้าน ภายใน 3 ปี

MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ สร้างสรรค์นวัตกรรมมอบคุณค่าที่เหนือกว่าน้ำผลไม้เพื่อชีวิตที่ Healthier & Happier เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ก้าวสู่ ‘Global Wellbeing Company’   

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง  หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

More like this