แพทย์ มข.เสนอผลงานวิจัย ลดค่าใช้จ่ายผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมองโป่งพอง

Published on

แพทย์ มข.เสนอผลงานวิจัยผ่าน รัฐไฟเขียวผู้ป่วยบัตรทอง ช่วยลดค่าใช้จ่ายผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมองโป่งพอง เข้าถึงการรักษา พ้นภาวะพิการ หรือ เสียชีวิต

รศ.นพ. พิชเยนทร์ ดวงทองพล แพทย์ผู้เชียวชาญด้านประสาทศัลยแพทย์ ประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า โรคเส้นเลือดสมองโป่งพอง เป็นโรคที่คนไข้จะมาพบแพทย์เมื่อมีภาวะเลือดออกในสมอง ซึ่งอยู่ในภาวะเร่งด่วนในการรักษา และมีโอกาสเส้นเลือดจะแตกซ้ำได้สูง อันจะนำมาสู่การเสียชีวิตหรือพิการ สำหรับวิธีการรักษาจะมีการผ่าตัดเพื่อหนีบกระเปาะหลอดเลือดโป่งพองนั้น (Clipping) หรือใส่ขดลวดสปริง (Coiling) ขึ้นอยู่กับรอยโรคของผู้ป่วย ปัจจุบันมีวิธีการรักษาโดยการใส่ขดลวดสปริง ที่ได้ผลดี มีบาดแผลน้อย สามารถทำได้ในบริเวณที่ผ่าตัดได้ยาก แต่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ที่ผ่านมาผู้ใช้สิทธิ์บัตรทองในประเทศไทย ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถเข้าถึงการรักษาโดยการใส่ขดลวดสปริง ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณจึงต้องผ่าตัดแบบเปิดกะโหลกศีรษะ ส่งผลต่อการรักษาออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังเสี่ยงต่อภาวะพิการและชีวิตสูง ซึ่งจะส่งผลต่องบประมาณการดูแลประชากรผู้ป่วยของรัฐ

โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย ศูนย์ความเป็นเลิศโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง จึงได้ผลิต งานวิจัย เรื่อง ความคุ้มของการรักษาพยาบาลโดยวิธีใส่ขดลวดขึ้น โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส) โดยทีมนักวิจัย ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลย้อนหลังจากผู้ป่วยในประเทศไทย กว่า 10 ปี และเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยโรงพยาบาลศรีนครินทร์ กว่า 5 ปี เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการศึกษาวิจัยพบว่า การรักษาพยาบาลโดยวิธีใส่ขดลวดมีความคุ้มค่า และลดอัตราการพิการหรือเสียชีวิตได้

“งานวิจัยที่ว่าด้วยความคุ้มของการรักษาพยาบาลโดยวิธีใส่ขดลวด ทีมนักวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยเมื่อได้ผลการศึกษาวิจัยแล้ว จึงได้นำเสนอต่อที่ประชุมของ สปสช.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดย รศ.นพ.อำนาจ กิจควรดี เป็นผู้นำเสนอให้เห็นถึงความคุ้มของการรักษาพยาบาลประชาชนผู้ป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองโดยวิธีใส่ขดลวด จนกระทั่งได้รับความเห็นชอบ ผ่านการอนุมัติให้ผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง สามารถเบิกจ่ายเงินค่าผ่าตัดโดยวิธีการใส่ขดลวด (Coiling) ได้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป โดยมีประกาศว่า ให้ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองโป่งพองแล้วแตกต้องทำการผ่าตัดโดยใช้วิธีใส่ขดลวด สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ เส้นละ กว่า10,000 บาท หรือ 1 คนจะใช้ ประมาณ 4 เส้น สามารถเบิกจ่ายได้กว่า 50,000 บาท จากปกติผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์บัตรทองไม่สามารถเบิกจ่ายการรักษาด้วยวิธีใส่ขดลวดได้เลยซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงกว่า 100,000 บาท ”

ด้าน

ศ.นพ. พิชเยนทร์ ดวงทองพล และรศ.นพ.อำนาจ กิจควรดี

รศ.นพ.อำนาจ กิจควรดี แพทย์ผู้เชียวชาญด้านประสาทศัลยแพทย์ ประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า “โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ได้ก่อตั้ง ศูนย์ความเป็นเลิศโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองขึ้น โดยมุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ในแต่ละปีมีผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมองโป่งพองของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มีจำนวนมากกว่า 100 ราย ที่ต้องรับการผ่าตัด แต่สามารถรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการใส่ขดลวดได้แค่ 10 % เท่านั้น เนื่องจาก ค่าผ่าตัดแบบใส่ขดลวดจะมีค่าใช้จ่ายเกือบหนึ่งแสนบาท ที่เป็นปัญหาสำหรับประชาชนผู้มีความยากจน ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ ดังนั้น ข้อจำกัดที่ความยากจนจึงได้ถูกหยิบขึ้นมาเพื่อเป็นโจทย์ของงานวิจัยที่ว่าด้วยความคุ้มของการรักษาพยาบาลโดยวิธีใส่ขดลวด พบว่า ผลการศึกษาของการรักษาเมื่อรักษาโดยการใช้ขดลวด มีความคุ้มในด้านค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด เมื่อเทียบกับผลการรักษาหรือค่าใช้จ่ายหากเกิดความพิการขึ้น” ส่วนหนึ่งของงานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ใน Journal of NeuroInterventional Surgery ในระดับ Q1 Impact factor 5.836

ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง สามารถเบิกจ่ายเงินค่าผ่าตัดโดยวิธีการใส่ขดลวด (Coiling) ได้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป นับว่างานวิจัย ความคุ้มของการรักษาพยาบาลโดยวิธีใส่ขดลวดชิ้นนี้ เป็นงานวิจัยที่ก่อให้เกิดผลดีต่อประชาชนผู้มีข้อจำกัดในค่ารักษาพยาบาล โดยมี ราชวิทยาลัยประสาทศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานสำคัญในการร่วมผลักดันโครงการ จนเกิดผลสำเร็จเป็นอย่างดีต่อประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้เข้าถึงบริการเพื่อสุขภาพโดยไม่มีข้อจำกัด

 

Latest articles

MALEE เปิด 5 กลยุทธ์ ปั้นวิสัยทัศน์ Beyond Fruit to Global Wellbeing แตะหมื่นล้าน ภายใน 3 ปี

MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ สร้างสรรค์นวัตกรรมมอบคุณค่าที่เหนือกว่าน้ำผลไม้เพื่อชีวิตที่ Healthier & Happier เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ก้าวสู่ ‘Global Wellbeing Company’   

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง  หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

More like this