“SASOM” สตาร์ตอัพไทยรายแรกๆ ปิดดีลระดมทุนจากเกาหลี

Published on

“SASOM” ขึ้นแท่นสตาร์ตอัพไทยรายแรกๆ ปิดดีลระดมทุนจากเกาหลี ร่วมเป็น Strategic Partnership ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมแบรนด์ดังรายแรกในเอเชีย มุ่งสู่ The Collectors Paradise of Asia เทียบชั้นระดับโลก ตั้งเป้าระดมทุนระดับ Series A ปีหน้า

SASOM ปิดดีลระดมทุนระดับ Pre-Series A จาก Kream Corporation ประเทศเกาหลีใต้ ในเครือของ Naver ที่เป็นบริษัทแม่ของ LINE Corporation ดันมูลค่ากิจการเพิ่มขึ้นเป็น 140 ล้านบาท ขึ้นแท่นเป็นสตาร์ตอัพไทยในธุรกิจแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมรายแรกที่มีบริษัทชั้นนำจากเกาหลีใต้เข้าร่วมทุน เดินหน้าผนึกความร่วมมือเป็น Strategic Partner แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยี นำเงินจากการระดมทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม SASOM (สะสม) มุ่งสู่การเป็น The Collectors Paradise of Asia เทียบชั้นระดับโลก ชูจุดเด่นเป็นแหล่งรวบรวมของสะสมแบรนด์เนมและของหายากกว่าหมื่นรายการ เช่น Sneakers, Streetwears, Be@rbrick, Art Toys การันตีของแท้ทุกชิ้น เตรียมระดมทุนระดับ Series A ต่อเนื่องในปีหน้า

กษิต งานทวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สะสม จำกัด ผู้พัฒนา Sasom แพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมแบรนด์เนมและของหายากรายแรกในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมแบรนด์เนมและของหายากเป็นครั้งแรกในปี 2019 และมีการระดมทุนครั้งแรกในระดับ Pre-Seed จากกลุ่มทุนในประเทศไทยไปแล้ว ล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการระดมทุนระดับ Pre-Series A จาก Kream Corporation ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Naver ที่เป็นบริษัทแม่ของ LINE Corporation ส่งผลให้มีมูลค่ากิจการในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 140 ล้านบาท โดยการระดมทุนดังกล่าวจะช่วยต่อยอดและพัฒนาแพลตฟอร์มให้เพิ่มศักยภาพในการให้บริการรองรับจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายที่เพิ่มขึ้น และยกระดับ SASOM เป็น The Collectors Paradise of Asia (สวรรค์ของนักสะสมแห่งเอเชีย) เทียบชั้นกับแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมและของหายากในระดับโลก

“ในฐานะนักธุรกิจรุ่นใหม่ เรามีความภาคภูมิใจอย่างมากที่เป็นบริษัทสตาร์ตอัพไทยรายแรกๆ ในธุรกิจด้านแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมและของหายาก ที่ได้ความรับเชื่อมั่นจากบริษัทระดับแนวหน้าในเกาหลีใต้เข้าร่วมลงทุนในบริษัทฯ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพแพลตฟอร์ม SASOM ที่สามารถตอบสนองความต้องการและเป็นคอมมูนิตี้ที่เป็นจุดนัดพบระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมาซื้อขายแลกเปลี่ยนของสะสมและของหายากจากทั่วโลก โดยมีบริษัทฯ ทำหน้าที่คนกลางในการพัฒนาแพลตฟอร์มและตรวจสอบสินค้าทุกชิ้น เพื่อให้ความมั่นใจว่าเป็นของแท้อย่างแน่นอน” นาย กษิต กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะร่วมมือกับ Kream Corporation ที่กำลังขยายธุรกิจด้านแพลตฟอร์มซื้อขายของสะสมและของหายากในภูมิภาคเอเชีย ในฐานะหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ องค์ความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมนำเงินจากการระดมทุนมาใช้พัฒนาแพลตฟอร์ม SASOM (สะสม) ให้สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขายได้ดียิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Machine Learning และการนำระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) มาใช้ตรวจสอบสินค้าว่าเป็นของแท้หรือไม่ เพื่อเพิ่มความมั่นใจการเลือกซื้อสินค้าและยกระดับ SASOM ให้เป็นแพลตฟอร์มของสะสมชั้นนำระดับโลก และจากความร่วมมือกันดังกล่าวยังเป็นการเพิ่มโอกาสแก่คนไทยที่มีของสะสม สามารถเสนอขายสินค้าแก่ผู้ซื้อที่เป็นชาวต่างชาติผ่านแพลตฟอร์ม SASOM และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าจากต่างประเทศ โดยปัจจุบันเริ่มมีรองเท้าสำหรับนักกอล์ฟ ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและหายากจากประเทศเกาหลีใต้มาจำหน่ายในแพลตฟอร์ม SASOM บ้างแล้ว

“เรามีแผนระดมทุนในระดับ Series A อย่างต่อเนื่องในปีหน้า โดยปัจจุบันทาง Kream Corporation พร้อมจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในปีหน้ากับเรา เพื่อร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์ม SASOM และร่วมเติบโตไปด้วยกัน ส่วนในอนาคตบริษัทฯ วางเป้าหมายจะก้าวสู่การระดมทุนในระดับ Series B ต่อไปเพื่อยกระดับจากสตาร์ตอัพเป็นบริษัทชั้นนำในอนาคต” กษิต กล่าว

กษิต กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ถือเป็นสตาร์ตอัพไทยที่เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลส SASOM ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อเป็นตัวกลางในการซื้อขายของสะสมแบรนด์เนมและสินค้าหายากรายแรกในภูมิภาคเอเชีย ภายใต้คอนเซปต์ “Next Generation Platform for Authentic Luxurious Transactions” โดยได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาแพลตฟอร์มหลังกลับจากการศึกษาต่อต่างประเทศ และพบว่าในประเทศไทยยังไม่มีแพลตฟอร์มด้านการซื้อขายของสะสมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค จึงต้องใช้บริการสั่งสินค้าจากเว็บไซต์ต่างประเทศซึ่งต้องรอสินค้าเป็นเวลานาน หรือสั่งซื้อจากผู้ขายในสื่อโซเชียลมีเดียซึ่งไม่รับประกันว่าเป็นของแท้ 100% และถือเป็น Pain Point ของผู้ซื้อ โดยปัจจุบันแพลตฟอร์ม SASOM มีของสะสมหลากหลายประเภททั้งสินค้ามือ 1 และมือ 2 ให้เลือกกว่า หมื่นรายการ อาทิ รองเท้าผ้าใบ (Sneaker), โมเดลของเล่นสะสมแบร์บริค (Be@rbrick), เสื้อผ้า, กระเป๋า, เครื่องประดับ, นาฬิกา, สเก็ตบอร์ด ฯลฯ ซึ่งสินค้าเหล่านี้ถือเป็นช่องทางการลงทุนที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้

จุดเด่นแพลตฟอร์ม SASOM คือเป็นแหล่งรวบรวมของสะสมรุ่นยอดนิยม รุ่นลิมิเต็ดอีดิชั่นที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียงไม่กี่ชิ้นในโลก หรือเป็นสินค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและกำลังเป็นที่ความนิยม โดยเฉพาะ Sneaker ที่มีให้เลือกมากมายกว่า 10,000 คู่ ราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนบาท เช่น Nike, Jordan, Adidas, Yeezy เป็นต้น โมเดลของเล่นสะสม Be@rbrick ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่ม มิลเลเนียล เเละ เจ็น Z ที่มีให้เลือกกว่า 1,000 รายการ, เสื้อผ้าแบรนด์ Supreme รุ่นหายาก โดยสินค้าทุกชิ้นที่ลงประกาศขายจะได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด พร้อมติดป้ายสัญลักษณ์เพื่อรับประกันและให้ความมั่นใจแก่ผู้ซื้อว่าเป็นของแท้ 100%

“เราพัฒนาแพลตฟอร์ม SASOM เปิดบริการเมื่อปี 2019 เพื่อเป็นคอมมูนิตี้สำหรับผู้ซื้อและผู้ขายของสะสมแบรนด์เนมและสินค้าหายากจากทั่วโลก รวมถึงแก้ไข Pain Points ของผู้ซื้อและผู้ขายของสะสมที่ไม่มีแพลตฟอร์มในประเทศไทยจึงต้องสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่งต้องรอการจัดส่งเป็นระยะเวลานานและต้องเสียภาษีนำเข้า รวมถึงผู้บริโภคยังมีความเสี่ยงจากการถูกหลอกซื้อสินค้าลอกเลียนแบบอีกด้วย” นาย กษิต กล่าว

SASOM มีบริการก่อนและหลังการขายที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อและผู้ขาย โดยอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ซื้อ และผู้ขาย อาทิ การโปรโมตสินค้า ให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ การตรวจสินค้าเพื่อรับประกันของแท้ 100% บริการทำความสะอาดสินค้า ติดแผ่น sole protector เพื่อรักษาสภาพรองเท้า ให้ข้อมูลราคากลางเพื่อประกอบการตัดสินใจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และล่าสุดได้พัฒนา Price Chart เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้ซื้อและผู้ขายของสะสมที่ต้องการทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวด้านราคาของสะสมแบรนด์ต่างๆ

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาแพลตฟอร์ม SASOM ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อและผู้ขายเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมียอดขายสินค้าเฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านบาท และวางเป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 30 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ โดยจะมุ่งขยายฐานผู้ซื้อและผู้ขายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มนักลงทุนของสะสมในไทยและต่างประเทศ

“เราวางแผนขยายฐานผู้ซื้อและผู้ขายบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังมีแผนจะนำระบบ AR (Augmented Reality) เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาการให้คำแนะนำแก่ลูกค้า และพัฒนา SASOM ให้เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมต่อการซื้อขายสินค้าทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ” กษิต กล่าว

Latest articles

MALEE เปิด 5 กลยุทธ์ ปั้นวิสัยทัศน์ Beyond Fruit to Global Wellbeing แตะหมื่นล้าน ภายใน 3 ปี

MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ สร้างสรรค์นวัตกรรมมอบคุณค่าที่เหนือกว่าน้ำผลไม้เพื่อชีวิตที่ Healthier & Happier เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ก้าวสู่ ‘Global Wellbeing Company’

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

More like this