มะเร็งตับ ดับชีวิตคนไทย 73 รายต่อวัน พุ่งสูงกว่าโควิด 26 เท่า/ปี

Published on

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วิกฤตสุขภาพของคนไทยก็ร้ายแรงไม่น้อยกว่ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคมะเร็งตับ ซึ่งถือเป็นปัญหาสุขภาพระดับชาติที่คร่าชีวิตชายไทยเป็นอันดับ 1 และหญิงไทยเป็นอันดับ 2 อีกทั้ง ประเทศไทยยังติดอันดับ 5 ของโลกที่พบผู้ป่วยมะเร็งตับสูงสุด โดยมีอัตราของการพบผู้ป่วยมะเร็งตับอยู่ที่ 21 รายต่อประชากร 100,000 คน

จากความร้ายแรงของวิกฤตสุขภาพทั้งสองโรค เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันจะพบว่า ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา (1 มิถุนายน 2563 – 1 มิถุนายน 2564) ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จากไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 156,370 ราย และมีตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ 1,012 ราย ในขณะที่ปี 2563 เพียงปีเดียว พบว่าตัวเลขผู้ป่วยมะเร็งตับรายใหม่อยู่ที่ 27,394 ราย แต่ทว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากมะเร็งตับกลับอยู่ที่ 26,704 คน หรือคิดเป็น 73 คนต่อวัน โดยเฉลี่ย ซึ่งนับได้ว่าสูงกว่าโควิด-19 ถึง 26 เท่าตัว

ทั้งนี้ กลุ่มเสี่ยงของโรคมะเร็งตับได้แก่ ผู้ที่ดื่มสุรา (30%) ผู้ที่มีภาวะไขมันเกาะตับจากการบริโภคอาหารไขมันสูงและผู้ที่เป็นโรคอ้วน (30%) ผู้ที่สูบบุหรี่หรือได้รับสารแอลฟาท็อกซินที่ปนเปื้อนเชื้อรา (30%) ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี และผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (10%) เป็นต้น สถิติพบว่าผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากมะเร็งตับส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 40 ปีขึ้นไป ซึ่งช่วงวัยนี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า โรคมะเร็งตับคร่าชีวิตผู้คนมากกว่าและสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าไวรัสโควิด-19 แม้แต่น้อย

ในด้านการตรวจคัดกรอง การวินิจฉัย และการรักษา แม้มะเร็งตับส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนอย่างน่าตกใจ แต่     กลับยังมีข้อจำกัดหลายด้านเมื่อเทียบกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อ มีการส่งตัวผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ารับการรักษาอย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตสูง ส่วนประชาชนทั่วไปก็รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิต้านทานและลดความรุนแรงของโรคหากติดเชื้อ ในทางกลับกัน มะเร็งตับเป็นภัยซ่อนเร้น ไม่แสดงอาการในระยะแรกของโรค ทำให้ผู้ป่วยรู้ตัวช้า กว่าจะมาพบแพทย์ก็ลุกลามกลายเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้ายในที่สุด นอกจากนี้ ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาสำรวจและคัดกรองผู้มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งตับอย่างจริงจัง ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งตับไม่มีโอกาสได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ยังไม่มีการระบุยาที่ใช้ในรักษามะเร็งตับชนิดที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ไว้ในสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จึงทำให้ผู้ป่วยมะเร็งตับมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตภายในเวลาเพียง 3-6 เดือนเท่านั้น

ศ.พญ.วัฒนา สุขีไพศาลเจริญ

ศ.พญ.วัฒนา สุขีไพศาลเจริญ แพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ กล่าวถึงข้อจำกัดสำคัญในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับว่า “โรคมะเร็งตับบางเคสอาจรักษาได้ด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งแปลว่าไม่ใช่ผู้ป่วยทุกคนจะสามารถผ่าตัดได้ ทำให้แพทย์ต้องรักษาแบบประคับประคอง เนื่องจากยารักษามะเร็งแบบพุ่งเป้า และยาภูมิคุ้มกันบำบัดแบบผสมผสานที่มีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งในเนื้อตับยังไม่ได้ถูกระบุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ผู้ป่วยสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาทรักษาทุกโรค) ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศก็จะไม่สามารถเข้าถึงยาเหล่านี้ได้ ดังนั้น ความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการพิจารณาการเบิกจ่ายยาจึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกมาตรฐานการรักษาในปัจจุบัน และช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งตับได้ในที่สุด”

พงศ์พสิน นวลละออ อดีตผู้ป่วยโรคมะเร็งตับ ได้มาบอกเล่าประสบการณ์ ในเดือนมิถุนายน เดือนแห่งการเฉลิมฉลองให้กับผู้รอดชีวิตจากมะเร็งทั่วโลก (Cancer Survivors Month)  เกี่ยวกับโรคนี้ว่า “ความรู้สึกแรกเมื่อตรวจเจอมะเร็งตับ คือสภาพจิตใจห่อเหี่ยว ท้อแท้ หมดหวัง จากที่เคยใช้ชีวิตได้อย่างคนปกติก็กลับเบื่ออาหาร ถ่ายเป็นสียางมะตอยสัปดาห์ละครั้ง ตอนนั้นเป็นช่วงปลายปี 2553 แต่แค่เพียงปีกว่าๆ มะเร็งกลับลุกลามไปถึงระยะสุดท้าย”

ถึงแม้ว่ามะเร็งตับจะเป็นโรคที่คุกคามร่างกายของคนเราอย่างเงียบๆ โดยไม่แสดงอาการ แต่การหมั่นสังเกตสุขภาพร่างกายของตนเองและสำรวจประวัติความเจ็บป่วยของคนในครอบครัว ว่าเคยมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับหรือ มีอาการอื่นๆ ที่อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งตับ อาทิ โรคดีซ่าน ตรวจพบก้อนบริเวณท้อง ปวดท้องแบบโรคกระเพาะอย่างต่อเนื่อง และภาวะไขมันพอกตับหรือตับเริ่มแข็ง เป็นต้น หากสำรวจตัวเองแล้วพบความเสี่ยงก็ควรรีบพบแพทย์

โรคมะเร็งตับสามารถป้องกันได้เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

“การปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดก็เป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ผมไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม พักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อถนอมตับที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนใหม่ให้ทำงานได้อย่างดีที่สุด ผมอยากฝากถึงผู้ป่วยคนอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้กับโรคอยู่ว่าการเป็นมะเร็งไม่ได้แปลว่าต้องเสียชีวิตเสมอไป เราต้องมีความหวังและเชื่อมั่นในความก้าวหน้าทางการแพทย์” พงศ์พสิน กล่าว

สำหรับวันนี้ที่ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน จึงอยากให้พิจารณาสิทธิบัตรทอง 30 บาท สำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับ ซึ่งเป็นวิกฤติสุขภาพที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตประชาชนและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศไทย      แต่กลับเป็นโรคที่ไม่ได้รับความใส่ใจด้านการตรวจคัดกรองและการรักษาเท่าที่ควร ทำให้กว่าผู้ป่วยจะมาถึงมือแพทย์ก็มักอยู่ในระยะท้ายๆ ของโรค และเสียชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ฉะนั้น สิทธิในการเข้าถึงยาจะช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนมากมีโอกาสได้รับการรักษาที่เหมาะสมและยืดระยะเวลาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

Latest articles

วิธีกินยาอย่างถูกต้อง ต้านวิกฤติเชื้อดื้อยา เมื่อยาที่เคยช่วยชีวิต กำลังหมดฤทธิ์สู้เชื้อโรค  

เสียงเตือนที่คนไทยต้องฟัง!! เมื่อยาที่เคยช่วยชีวิต กำลังหมดฤทธิ์สู้เชื้อโรค สยส. ปลุกสังคมใช้ยาอย่างมีสติ ก่อนโลกไร้ทางรักษาในวิกฤต “เชื้อดื้อยา” Thumnail บทความ สยส. ปลุกสังคมใช้ยาอย่างมีสติ.jpg

Booking.com ส่งแคมเปญ Black Friday ชูส่วนลด 5 หมวด เดินทางท่องเที่ยวได้ถึงสิ้นปีหน้า

เตรียมแพลนเที่ยวให้พร้อม! Booking.com มอบส่วนลดการเดินทางที่ครอบคลุมที่สุดในช่วง Black Friday นี้ ให้ผู้เดินทางทุกคนออกสำรวจโลกได้อย่างง่ายดาย

ตัดสด ไม่เผา ด้วยโมเดล Cane Hero หนุนศรีเทพ Sandbox จังหวัดไร่อ้อยปลอดมลพิษ

บริษัท ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จำกัด ประกาศเดินหน้าหนุนยุทธศาสตร์ Zero Burn Nation มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวคิด ESG เดินหน้าสร้างระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เปิดตัวโครงการ “Cane Hero ฮีโร่อ้อยสดศรีเทพ” เพื่อส่งเสริมเกษตรกรไร่อ้อย

ธอส. อัดแคมเปญปลายปี ดอกเบี้ยบ้านเริ่มต้น 0.72% ต่อปี นาน 6 เดือน

ธอส. อัดแคมเปญปลายปี ดอกเบี้ยบ้านเริ่มต้น 0.72% ต่อปี นาน 6 เดือนแรก ในงาน “มหกรรมการเงินกรุงเทพส่งท้ายปี ครั้งที่ 8”

More like this