ในการประชุมสามัญประจำปีของเฮงเค็ลในวันนี้ซึ่งจัดขึ้นเป็นงานเสมือนจริงเป็นครั้งที่สองเนื่องจากกฎระเบียบข้อบังคับในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คาร์สเตน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฮงเค็ลได้สรุปพัฒนาการสำคัญของปีงบประมาณ 2563 เขาได้อธิบายถึงผลกระทบของวิกฤตไวรัสโควิด-19 และกล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตามวาระยุทธศาสตร์ นอกจากนี้เขายังให้ความสำคัญกับลำดับความสำคัญของปี 2564 และยืนยันอีกครั้งถึงการมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวของบริษัทฯ ในเรื่องการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมาย

ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งแม้จะได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

“ในปีที่ท้าทายท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลงอย่างรวดเร็ว เรายังมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งโดยรวมในทุกหน่วยธุรกิจ” คาร์สเตน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฮงเค็ล ได้สรุปปีงบประมาณ 2563

“เราทำยอดขายได้ 19,300 ล้านยูโร กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วของเราอยู่ที่ 2,600 ล้านยูโรและส่วนต่างอยู่ที่ ร้อยละ 13.4 แม้ว่าจะลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2562 แต่เราก็ยังคงทำกำไรได้มาก กระแสเงินสดอิสระสูงถึง 2,300 ล้านยูโร ซึ่งต่ำกว่าระดับสถิติของปีก่อนเพียงเล็กน้อย โดยรวมแล้วเราลงทุนในแบรนด์นวัตกรรมและการปรับเปลี่ยนระบบดิจิทัลมากกว่าปีที่แล้วถึง 200 ล้านยูโร และเราเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของเราผ่านการเข้าซื้อกิจการ เราสามารถลดภาระหนี้ของเราลงอย่างมากและเราก็มีค่าใช้จ่ายภายใต้การควบคุมอยู่เสมอ” คาร์สเตน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฮงเค็ล “นั่นหมายความว่าเฮงเค็ลยังคงแข็งแกร่งและมีสถานะทางการเงินที่ดี” ดร. ซิโมน เบเกิล-ทราห์ ประธานคณะกรรมการและคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ถือหุ้นเฮงเค็ล กล่าวขอบคุณคณะกรรมการบริหารพนักงานทุกคนและหน่วยงานขององค์กรสำหรับความมุ่งมั่นที่ดีในปีงบประมาณที่ผ่านมา “ในนามของคณะกรรมการกำกับดูแลและผู้ถือหุ้น คณะกรรมการขอขอบคุณพนักงานทุกคนคณะกรรมการบริหารและทีมผู้นำของเราสำหรับความทุ่มเทและความมุ่งมั่นที่ดีในปีงบประมาณที่ผ่านมา พวกเขาทั้งหมดมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จทางธุรกิจของเราในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย”

ในการประชุมสามัญประจำปี ศ.ดร. อุลริช เลห์เนอร์ กรรมการผู้ถือหุ้นที่เป็นสมาชิกอย่างยาวนานได้ลาออกจากองค์กร โดย เจมส์ โรวาน จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา ผู้ซึ่งทำงานเป็นเวลาหลายปีในหลากหลายบริษัทในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงในฐานะซีอีโอของ Dyson “ฉันขอขอบคุณ อุลริช เลห์เนอร์ สำหรับการแลกเปลี่ยนที่เข้มข้นและการอภิปรายที่สร้างแรงบันดาลใจในคณะกรรมการผู้ถือหุ้นของเราตลอด 13 ปีที่ผ่านมา เราจะรำลึกถึงคำแนะนำของเขาและขอให้เขาพบกับสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต” ดร. ซิโมน เบเกิล-ทราห์ อธิบายเพิ่มเติม

นอกจากนี้เธอยังกล่าวขอบคุณ เจนส์-มาร์ติน ชวาร์สเลอร์  ซึ่งจะออกจากเฮงเค็ลในฐานะสมาชิกของคณะกรรมการบริหารที่รับผิดชอบหน่วยธุรกิจบิวตี้แคร์ หลังจากทำงานร่วมกับบริษัทฯ มานานกว่า 28 ปีและแนะนำวูล์ฟกัง โคนิค ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มิถุนายน

นอกจากนี้ คาร์สเตน โนเบล ยังกล่าวขอบคุณพนักงานมากกว่า 53,000 คนทั่วโลกสำหรับความสำเร็จที่โดดเด่นของพวกเขา “โดยรวมแล้วเราสามารถนำพาเฮงเค็ลผ่านพ้นวิกฤตโลกนี้ได้สำเร็จ ต้องขอบคุณการจัดการวิกฤต พอร์ตการลงทุนที่สมดุล และความแข็งแกร่งทางการเงินของเรา แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องขอบคุณพนักงานที่โดดเด่นของเรา นี่เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของพนักงานของเราในช่วงเวลาพิเศษนี้” คาร์สเตน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฮงเค็ล กล่าวย้ำ

มีการเสนอเงินปันผลในระดับเดียวกันกับปีก่อนที่ 1.85 ยูโรต่อหุ้นบุริมสิทธิและ 1.83 ยูโรต่อหุ้นสามัญ ต่อที่ประชุมสามัญประจำปี “ ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เปิดตัวสู่สาธารณะ เราจ่ายเงินปันผลสูงกว่าหรือเท่ากับปีที่แล้วมาโดยตลอด เราต้องการยึดสิ่งนี้ไว้แม้ว่าจะมีการพัฒนาที่โดดเด่นในปีที่ผ่านมาก็ตาม สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งช่วยให้ข้อเสนอของเงินปันผลมั่นคง คาร์สเตน โนเบล กล่าว “สิ่งนี้ยังคำนึงถึงสถานการณ์พิเศษในปีงบประมาณ 2563 ด้วย” โนเบล กล่าวเสริม อัตราการจ่ายเงินเท่ากับร้อยละ 43.7 ซึ่งสูงกว่าช่วงเป้าหมายเล็กน้อยที่ร้อยละ 30 ถึงร้อยละ 40 เฮงเค็ลตั้งใจที่จะรักษานโยบายการจ่ายเงินปันผลในปัจจุบันต่อไป

จากรายงานผลการดำเนินธุรกิจในปี 2563 คาร์สเตน โนเบล ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตามวาระการเติบโตของบริษัทฯ เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2563 เฮงเค็ลได้นำเสนอวาระเชิงกลยุทธ์สำหรับปีต่อๆ ไปซึ่งมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลงานพอร์ตโฟลิโอที่ประสบความสำเร็จ เสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนวัตกรรม ความยั่งยืน และการปรับเปลี่ยนรูปแบบดิจิทัล การสร้างรูปแบบการดำเนินงานที่พร้อมสำหรับอนาคต ตลอดจนการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและร่วมมือกัน “วันนี้ ประมาณหนึ่งปีหลังจากการเปิดตัวผมมั่นใจว่าเราอยู่ในเส้นทางที่ดี เรามีแผนที่ชัดเจน เรากำลังดำเนินการตามลำดับความสำคัญที่เหมาะสมเพื่อความสำเร็จของเฮงเค็ลในทศวรรษนี้ นี่เป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ผ่านมา” โนเบล กล่าว “เราประสบความสำเร็จมากมายแม้จะเกิดวิกฤต การขายกิจการที่เลือกและผ่านการซื้อกิจการตามเป้าหมายเราได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและแบรนด์ของเรามากขึ้น เราได้พัฒนาความสามารถในการแข่งขันของเราให้ดียิ่งขึ้นผ่านการเร่งทางกระบวนการนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนและความก้าวหน้าในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เราได้ปรับกระบวนการทางธุรกิจและทำให้พวกเขาพร้อมในอนาคตและเราได้เริ่มเสริมสร้างวัฒนธรรมของเราและ ‘จิตวิญญาณของเฮงเค็ล’ นั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผม” คาร์สเตน โนเบล กล่าว

คาร์สเตน โนเบล ให้ความเห็นเกี่ยวกับความคาดหวังต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปีงบประมาณปัจจุบันว่า “เราคาดว่าความต้องการในภาคอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในบางพื้นที่ นอกจากนี้หมายรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของเรา โดยเฉพาะธุรกิจร้านทำผม ในขณะเดียวกันเราเชื่อว่าความต้องการของผู้บริโภคจะกลับสู่ระดับปกติในบางหมวดหมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีความต้องการสูงขึ้นเนื่องจากการระบาดในปี 2563 นอกจากนี้เรายังคาดการณ์ว่าจะไม่มีการล็อคดาวน์หรือการปิดการผลิตในภูมิภาคหลักของเรา”  อย่างไรก็ตามประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฮงเค็ลยังชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคต เช่น อัตราการติดเชื้อจะพัฒนาไปอย่างไรและสิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อข้อจำกัดในชีวิตประจำวันและความต้องการในแต่ละตลาด

ในขณะเดียวกัน โนเบล อธิบายว่า “แม้จะมีความไม่แน่นอนเหล่านี้ แต่เราตั้งเป้าที่จะกลับไปมียอดขายและการเติบโตของรายได้ในปี 2564 และเราได้เริ่มต้นปีที่ดีไปแล้ว จากตัวเลขเบื้องต้นเราคาดว่ายอดขายสุทธิที่ไม่รวมผลกระทบอื่นๆ ‏(organic sales) จะเติบโตประมาณร้อยละ 7 ในไตรมาสแรก” เฮงเค็ลจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมและความเป็นมาของการพัฒนาการขายในไตรมาสแรกในวันที่ 6 พฤษภาคม 2564.

คาร์สเตน โนเบล ได้สรุปแถลงการณ์ของเขาโดยสรุปลำดับความสำคัญทางธุรกิจสำหรับปี 2564: “การดำเนินการตามวาระการเติบโตเราต้องการมุ่งเน้นไปที่สองประเด็นหลัก อันดับแรกเราต้องการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันโดยการเสริมสร้างนวัตกรรมความยั่งยืนและการปรับเปลี่ยนให้เป็นดิจิทัล และประการที่สองพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรของเราต่อไป – ส่งเสริมการทำงานร่วมกันมากขึ้นและเพิ่มขีดความสามารถให้กับพนักงานของเรา”

“โดยรวมแล้วเรารู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและการทำงานร่วมกันที่เกิดขึ้นอีกครั้งทั่วทั้งบริษัทฯ ด้วยความโปร่งใสมากขึ้น ความไว้วางใจที่มีมากขึ้น มีความรับผิดชอบส่วนบุคคลมากขึ้น และจิตวิญญาณของผู้ประกอบการ นั่นคือสิ่งที่เราจะต้องสร้างต่อไป นอกเหนือจากการมีทีมที่ใช่และกลยุทธ์ที่เหมาะสมแล้ว วัฒนธรรมที่ถูกต้องยังมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในการจัดการวิกฤตต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดในปัจจุบันและประสบความสำเร็จในระยะยาว เราอยู่ในตำแหน่งที่ดี ด้วยวาระการเติบโตอย่างมีจุดมุ่งหมายเราต้องการคว้าแชมป์ 20’s ของเฮงเค็ล” โนเบล กล่าว