งานวิจัย เชื่อว่าอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) มีความสำคัญต่ออนาคตของธุรกิจ

Published on

งานวิจัยชิ้นใหม่ระบุว่า 87% ของบริษัทในเอเชียแปซิฟิก
เชื่อว่าอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) มีความสำคัญต่ออนาคตของธุรกิจ

โดยบริษัททั่วทั้งภูมิภาคกำลังจะปรับใช้ IoT ในฐานะเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่มีความสำคัญอย่างมาก อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (Internet of Things: IoT) ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานสำหรับนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และสิ่งก้าวหน้าล้ำสมัยอื่นๆ เป็นจำนวนมาก แต่สำหรับผู้มีอำนาจตัดสินใจแล้ว (ผู้บริหารที่ประกาศใช้ IoT ในบริษัทของตน)ในบางครั้งอาจรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกข้อเท็จจริงออกจากโฆษณาเกินจริง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยากมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องพิจารณาขั้นตอนปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นใช้งาน IoT ในธุรกิจของตน
และเพื่อให้เข้าใจถึงสถานะปัจจุบันของ IoT ได้ดียิ่งขึ้น Forbes Insightsจึงได้ร่วมมือกับบริษัท ฮิตาชิ แวนทารา จัดทำการสำรวจผู้บริหารระดับสูงกว่า 500 คนทั่วโลก โดยแบ่งเป็น 220 คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผู้เป็นผู้นำในการปรับใช้โครงการ IoT ภายในบริษัท โดยงานวิจัยชิ้นใหม่นี้ มีชื่อว่า “The Internet of Things: From Theory to Reality – How Companies Are Leveraging IoT to Move Their Businesses Forward”ภายใต้การสนับสนุนหลักของบริษัท ฮิตาชิ แวนทาราโดยเน้นย้ำการค้นพบสำคัญที่ได้จากการวิจัยในครั้งนี้และเล็งเห็นถึงประเด็นคำถามดังต่อไปนี้คือ

• IoT ยังคงเป็นแค่ความต้องการหรือถูกนำมาใช้งานจริงในองค์กรแล้ว
• บริษัทต่างๆ กำลังใช้ IoT ในลักษณะใด
• การใช้งาน IoT ในช่วงแรกนี้มีลักษณะอย่างไร
• บริษัทต่างๆ ที่ใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้ มีความก้าวหน้ามากขึ้นหรือไม่
• จากการนำไปใช้งานจริง ผู้ใช้ได้รับประโยชน์อย่างไรบ้าง
• ขั้นตอนปฏิบัติการเริ่มนำ IoT เข้ามาใช้งานในบริษัทมีอะไรบ้าง

บรูซ โรเจอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารข้อมูลเชิงลึกของ Forbes Media กล่าวว่า”เห็นได้ชัดว่าบรรดาผู้บริหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมองเห็นคุณค่าของการใช้งานIoT อย่างมากและกว่า 70% ระบุว่าพวกเขาเห็น IoT เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจของตน โดย IoT จะสร้างความแตกต่างด้านการแข่งขัน และจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมต่างๆ อย่างมาก”
โดยผลการวิจัยที่สำคัญสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีดังนี้ :

• IoT ส่งผลต่อธุรกิจ:70% ของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เชื่อว่า IoT มีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจปัจจุบัน และกว่า87% เชื่อว่า IoT จะมีความสำคัญต่ออนาคตของธุรกิจด้วย
• IoT เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่มีความสำคัญมากที่สุด:จากเทคโนโลยีเกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด ผู้บริหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเชื่อว่า IoT, ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และหุ่นยนต์ (Robotics) จะเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด
• บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังจะปรับใช้ IoT: 72% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า บริษัทของพวกเขาได้ดำเนินโครงการนำร่อง IoT แล้ว และกว่า11% ระบุว่าโครงการ IoT ได้กลายเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญต่อธุรกิจของพวกเขาแล้ว
• การใช้โซลูชัน IoT อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย: บริษัทต่างๆ ระบุว่าเมื่อปรับใช้งานIoT แล้ว พบว่ามีความท้าทายดังนี้
o การรักษา IoT ให้ปลอดภัย (31%)
o ความร่วมมือระหว่างแผนก (31%)
o ความพร้อมของพนักงานที่มีความรู้ ความเข้าใจ (31%)
o ความสามารถที่ไม่เพียงพอในการนำเสนอผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าสนใจ (30%)
o การผสานรวมข้อมูลที่แตกต่างกัน (28%)
• แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการใช้โซลูชัน IoT:เมื่อตรวจสอบบริษัทที่ดำเนินโครงการ IoT แล้วพบว่ามีแนวทางปฏิบัติบางอย่างที่สามารถยึดเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จนั่นคือ
o แนวทาง IoT มักได้รับการสนับสนุนจาก CTO (40%) และ CIO (32%)
o 42% รวมถึงผู้จำหน่ายภายนอกในทีมวางแผนของ IoT
o 82% ใช้แพลตฟอร์มของบุคคลที่สามเป็นพื้นฐานสำหรับการใช้งาน IoT ของตน
• บริษัทต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้มองเห็นประโยชน์ที่ได้รับจาก IoT กันแล้ว: 76% กำลังใช้โครงการ IoT เพื่อสร้างรายได้ ขณะที่ 60% เห็นด้วยว่าโครงการ IoT กำลังสร้างข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจของตน ด้วยเหตุนี้ 88% จึงคาดว่าจะมองเห็นการเพิ่มขึ้นของงบประมาณ IoT ในปีงบประมาณที่กำลังจะมาถึงนี้
“จากผลการสำรวจของ Forbes Insightsแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงผลกระทบที่ IoT มีต่อธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยธุรกิจส่วนใหญ่มองว่า IoT เป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของพวกเขาและ สิ่งที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกมีเหมือนกันก็คือความปลอดภัยสำหรับโครงการ IOT ของตนในระยะเริ่มแรก และพันธมิตรด้านนวัตกรรมที่น่าเชื่อถือเพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ตามต้องการ” แดเนียล ชอง รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ฮิตาชิ แวนทารา กล่าว

เกี่ยวกับงานวิจัยนี้
ข้อมูลของงานวิจัยนี้ได้มาจากการสำรวจของ Forbes Insights ในปี 2560 ที่ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารจำนวน 502 คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบหรือคุ้นเคยกับกิจกรรม IoT ภายในบริษัทของตน โดยผู้ตอบแบบสำรวจอาศัยอยู่ในยุโรป อเมริกา และเอเชียแปซิฟิก และเป็นตัวแทนของกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายในสัดส่วนที่ไม่เกิน 25% ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามทุกคนเป็นผู้บริหารตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการขึ้นไปและมาจากบริษัทที่มีจำนวนพนักงานมากกว่า500 คน นอกจากนี้ Forbes Insights ยังได้ทำการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับอาวุโสหลายรายเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับงานวิจัยในครั้งนี้ด้วย

เกี่ยวกับ Forbes Insights
Forbes Insights คือการวิจัยเชิงกลยุทธ์และแนวปฏิบัติด้านความเป็นผู้นำทางความคิดของ Forbes Media ซึ่งเป็นบริษัทด้านการสร้างแบรนด์และเทคโนโลยีระดับโลกที่มีแพลตฟอร์มมากมายและสามารถเข้าถึงผู้มีอำนาจในการตัดสินใจทางธุรกิจได้เกือบ 94 ล้านคนทั่วโลกในแต่ละเดือน โดยเมื่อใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้บริหารระดับอาวุโสในชุมชน Forbes แล้วจะทำให้ Forbes Insights สามารถดำเนินการวิจัยในหัวข้อที่หลากหลายเพื่อกำหนดตำแหน่งของผู้นำทางความคิดและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ สำหรับการนำเสนอผลการวิจัยมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบดิจิทัล สิ่งพิมพ์ และการไลฟ์ รวมถึงการเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มสื่อและโซเชียลของ‘Forbes’ด้วย

เกี่ยวกับบริษัท ฮิตาชิ แวนทารา
บริษัท ฮิตาชิ แวนทารา เป็นบริษัทในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด ได้รับการจัดตั้งเพื่อช่วยผู้นำองค์กรในการดึงคุณค่าที่มีอยู่ในข้อมูลของตนมาใช้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างชาญฉลาดและบรรลุผลที่มีความสำคัญต่อธุรกิจและสังคมได้อย่างเห็นผล เราผสานรวมเทคโนโลยี ทรัพย์สินทางปัญญา และความรู้ทางอุตสาหกรรมเพื่อนำเสนอโซลูชันการจัดการข้อมูลที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น สร้างรายได้ใหม่ ๆ และลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจให้น้อยลง ทั้งนี้ บริษัท ฮิตาชิ แวนทารา จะช่วยยกระดับความได้เปรียบด้านนวัตกรรมของคุณด้วยการรวมเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) เทคโนโลยีการดำเนินงานปฏิบัติงาน (OT) และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีเข้าไว้ด้วยกัน เราจะทำงานร่วมกับทุกองค์กรเพื่อผลักดันข้อมูลให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่มีความหมายอันยิ่งใหญ่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่เว็บไซต์ www.HitachiVantara.com

Latest articles

วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2568

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ กำหนดจัดงาน “วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติและวันอาสาสมัครไทย ประจำปี 2568” วันที่ 21 ตุลาคมนี้

รู้จักร่างกายให้ลึกกว่าเดิม กับ “All You Can Check” จากเครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล

การดูแลสุขภาพไม่จำเป็นต้องรอให้ป่วยก่อนถึงจะเริ่ม เพราะตอนนี้มีทางเลือกใหม่ที่เข้าใจชีวิตยุคนี้มากกว่าเดิม — กับ โปรแกรมตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน “All You Can Check” จากเครือโรงพยาบาลพญาไท–เปาโล

ร่วมสัมผัสจินตนาการแห่งความฝัน เชิดชูศิลปะไทย รางวัล “จิตรกรรมเอเซีย พลัส ครั้งที่ 13”

บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จัดพิธีมอบรางวัลและเปิดนิทรรศการ "จิตรกรรมเอเซีย พลัส ครั้งที่ 13" ภายใต้หัวข้อ "ความฝัน" โดยมีเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 975,000 บาท โดยได้รับความสนใจจากศิลปินทั่วประเทศส่งผลงานเข้าร่วมกว่า 377 ชิ้น

NEW MG S5 EV PLUS ชูจุดขาย ‘ใหญ่ – เย็น – ยาว – เยอะ’ พร้อม LIFETIME WARRANTY

เอ็มจี ปรับกลยุทธ์ ชู 4 จุดเด่นสำคัญ “ใหญ่ – เย็น – ยาว – เยอะ” ให้ NEW MG S5 EV PLUS รถ B-SUV ที่เสริมทัพด้วยรุ่นย่อยใหม่ ได้แก่ รุ่น D+ รุ่น X+ และ V+ พร้อม LIFETIME WARRANTY ตอกย้ำการเป็น “อีวีมหาชน” ที่เข้าถึงง่าย

More like this