คาดทั้งปี 2564 ส่งออกไทยโตกว่า 3.4% แนะเร่งลดอุปสรรคการค้าเสริมศักยภาพ

Published on

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ประเมินทิศทางการส่งออกสินค้าของไทยในปี 2564 มีโอกาสโตได้กว่า 3.4% จากกิจกรรมเศรษฐกิจการบริโภคทั่วโลกที่ฟื้นตัว กำลังผลิตของไทยเริ่มกลับมา และราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากค่าเงินบาทที่แข็งตัว ค่าขนส่งเดินเรือที่ปรับตัวสูงขึ้นจากตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน และนโยบายการค้าต่างประเทศ แนะผู้ประกอบการปรับธุรกิจรองรับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนไป หนุนภาครัฐดำเนินการเจรจาการค้าระหว่างประเทศให้รวดเร็ว เพื่อให้ไม่เสียเปรียบกับคู่แข่ง
ในช่วงปี 2563 ทั่วโลกประสบปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักหลังจากมีการล็อกดาวน์ประเทศ เช่น งดการเดินทาง งดการจัดกิจกรรมธุรกิจ ปิดด่านศุลกากร ทำให้มูลค่าส่งออกไทยหดตัวจากปีก่อน ถึง 6.9% โดยสินค้าส่วนใหญ่จะถูกกระทบจากความต้องการใช้และกำลังซื้อที่ลดลง แต่ก็ยังมีสินค้าที่จำเป็นหลายรายการไม่ได้ถูกกระทบ และยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ สินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
ในปี 2564 แนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งการมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวกลับได้ บรรยากาศสงครามการค้าโลกมีแนวโน้มผ่อนคลายลงจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจจีนที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญฟื้นตัวได้เร็ว เป็นแรงหนุนต่อการฟื้นตัวของการส่งออกของไทย อย่างไรก็ดี การส่งออกมีปัจจัยฉุดจากการที่สหรัฐฯ และหลายประเทศในแถบยุโรป รวมทั้ง ญี่ปุ่น กลับมาคุมเข้มเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้งในช่วงต้นปี ทำให้คาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของคู่ค้าเหล่านี้อาจจะฟื้นกลับได้ช้าลง รวมถึงมีประเด็นนโยบายการค้า / มาตรการตอบโต้ทางภาษีที่ถูกนำมาใช้ปกป้องการค้าอยู่
จากปัจจัยหนุนและปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว TMB Analytics มองภาพรวมการส่งออกของไทยปี 2564 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.4% จากที่หดตัวราว 6.9% ในปีที่ผ่านมา และได้ประเมินแนวโน้มตามกลุ่มสินค้าจากปัจจัยลักษณะสินค้าและทิศทางการฟื้นตัวของอุปสงค์เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยใช้มูลค่าส่งออกที่ได้ปรับฤดูกาลแล้ว (seasonally adjusted) เทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดรอบแรกในปีก่อน สามารถแยกออกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 สินค้าฟื้นตัวแล้ว เป็นกลุ่มสินค้าที่คาดว่าในปี 2564 จะโตกว่าช่วงก่อนการระบาด หรือมีระดับดัชนีการฟื้นตัวมากกว่า 100 (เทียบค่าเฉลี่ยปี 2562=100 ) โดยมีสัดส่วน 42.6% ของมูลค่าส่งออกรวม เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยได้อานิสงส์จากการ Work from Home และเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต สินค้าสำคัญในกลุ่มนี้คือ คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหาร อย่างไรก็ดี มีสิ่งที่ควรเฝ้าระวังคือ เรื่องค่าเงินบาทแข็งตัว และการแข่งขันสูงจากประเทศคู่แข่ง
กลุ่มที่ 2 สินค้ากำลังฟื้นตัว เป็นกลุ่มสินค้าที่เริ่มฟื้นตัวในปี 2564 แต่ยังคงไม่เท่ากับปี 2562 หรือระดับดัชนีการฟื้นตัวอยู่ระหว่าง 90-100 มีสัดส่วน 48.8% ของมูลค่าส่งออกรวม สินค้าสำคัญในกลุ่มนี้คือ ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักร เนื่องจากกำลังการผลิตสินค้าของทั่วโลกเริ่มกลับมา อย่างไรก็ดี มีสิ่งที่ควรเฝ้าระวังคือ เรื่องค่าเงินบาทแข็งตัว และความผันผวนของตลาด
กลุ่มที่ 3 สินค้ายังไม่ฟื้น เป็นสินค้าที่ได้รับผลกระทบหนักจากช่วงการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 และเริ่มฟื้นตัวช้า ๆ หรือระดับดัชนีการฟื้นตัวน้อยกว่า 90 คิดเป็น 8.6% ของมูลค่าส่งออกรวม ประกอบไปด้วย สินค้าแฟชั่นต่างๆ และน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเป็นผลจากกำลังซื้อของผู้บริโภคทั่วโลกลดลง และการผันผวนของราคา โดยกลุ่มน้ำมันเชื้อเพลิง ถึงแม้ว่าจะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในปี 2564 แต่ปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นช้า คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19
โดยรวมในปี 2564 การส่งออกเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น เนื่องจากเริ่มมีปัจจัยบวกเข้ามาสนันสนุน ทั้งนี้ หากไทยเพิ่มศักยภาพและลดอุปสรรคทางการค้าได้ จะมีโอกาสที่ไทยจะสามารถขยายการส่งออกได้มากกว่าที่คาดไว้ หากผู้ประกอบการสามารถรักษามาตรฐาน พัฒนาคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาดโลก บริหารจัดการด้านการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนและสภาวะตลาดได้อย่างเหมาะสม ในขณะที่ภาครัฐควรเร่งดำเนินการเจรจาการค้าระหว่างประเทศโดยเร็ว กับ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร เพื่อให้ไทยไม่เสียเปรียบคู่แข่ง รวมทั้งการช่วยให้ผู้ประกอบการในการเปิดตลาดประเทศใหม่ ๆ ขยายช่องทางในการขายสินค้าในตลาดใหม่ ๆ มากขึ้น

Latest articles

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/ปี เผยเทรนด์กาแฟพร้อมดื่ม Café Hopping กำลังมา

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/คนปี เผยเทรนด์ก Café Hopping กำลังมา นี่คือโจทย์ใหม่ของกาแฟพร้อมดื่ม จากเครื่องดื่มสู่บทใหม่ของวัฒนธรรมการใช้ชีวิต

More like this