เฮงเค็ล ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการปกป้องสภาพอากาศและเข้าร่วม The Climate Pledge พันธสัญญาข้ามอุตสาหกรรมระหว่างประเทศที่ก่อตั้งโดย Amazon และ Global Optimism โดยในฐานะผู้ลงนาม เฮงเค็ล มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ต่อปี ภายใน 10 ปี ก่อนเป้าหมายที่กำหนดในข้อตกลง UN ปารีส ที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2593 ซึ่งเป็นความทะเยอทะยานที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว ที่ต้องการเป็นบริษัทที่ส่งเสริมสภาพอากาศในเชิงบวก ภายในปี 2583
“สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เป็นความท้าทายระดับโลกซึ่งต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน ที่เฮงเค็ล เราต้องการที่จะสนับสนุนเชิงบวกในการปกป้องสภาพภูมิอากาศ จากความสำเร็จของเราจนถึงปัจจุบันและสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในปีต่อๆ ไป เรายินดีที่จะเข้าร่วมและสนับสนุนพันธสัญญา The Climate Pledge” คาร์สเทน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฮงเค็ล กล่าว “ในการร่วมมือกับ Amazon และ Global Optimism และผู้ลงนามอื่นๆ เรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะขับเคลื่อนเพื่อความก้าวหน้าที่เป็นรูปธรรมและร่วมกันดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน”
เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าในด้านความยั่งยืน เฮงเค็ล มุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดห่วงโซ่คุณค่า เฮงเค็ล ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Amazon เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมที่ยั่งยืน ตัวอย่างเช่น เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าผ่านบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่ยั่งยืน
ความมุ่งมั่นและการทำงานร่วมกัน
The Climate Pledge ก่อตั้งขึ้นในปี 2562 และมีเป้าหมายที่จะรวมตัวกันของธุรกิจชั้นนำระดับโลก ด้วยความคิดก้าวล้ำและมุ่งมั่นในด้านสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง เฮงเค็ลเป็นบริษัทในลำดับที่ 12 ที่เข้าร่วมให้คำมั่นสัญญา ในฐานะผู้ลงนามใน The Climate Pledge เฮงเค็ลตกลงที่จะ:
– ตรวจวัดและรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นประจำ
– ใช้กลยุทธ์การลดคาร์บอนตามข้อตกลงปารีสผ่านการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและนวัตกรรมที่แท้จริง รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพ พลังงานหมุนเวียน การลดวัสดุ และกลยุทธ์การกำจัดคาร์บอนอื่นๆ
– ปรับการปล่อยก๊าซที่เหลือให้เป็นกลางด้วยการชดเชย เพิ่มเติมเชิงปริมาณ ที่เป็นจริง ถาวร และเป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อให้ได้การปล่อยคาร์บอนสุทธิประจำปีเป็นศูนย์ ภายในปี 2583
“นักวิทยาศาสตร์บอกเราว่าเรามีหน้าต่างที่จำกัดในการสร้างความก้าวหน้าอย่างไม่เคยมีมาก่อน ในการจัดการกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา นั่นคือวิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศ The Climate Pledge เปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆ ได้ดำเนินการร่วมกันเพื่อปกป้องโลกของเราจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง” คารา เฮิร์ส รองประธานฝ่ายความยั่งยืนทั่วโลกของ Amazon กล่าว “เรายินดีต้อนรับเฮงเค็ลเข้าร่วมต่อสู้เพื่อชีวิตของเรา ในขณะที่เรารับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาสและสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน นอกจากนี้ เรายังรู้สึกตื่นเต้นที่การร่วมลงนามใน The Climate Pledge ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้ เป็นการร่วมมือเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกับผู้ร่วมลงนามอื่นๆ และแบ่งปันแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด”
“ข้อตกลงปารีสได้กำหนดแผนงานที่เป็นเอกภาพสำหรับทุกประเทศ ทุกบริษัท และทุกคน เพื่อจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ โดยดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะไม่เกิน 1.5c ในภาวะโลกร้อน” คริสตินา ฟิเกอร์ อดีตหัวหน้าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ UN ซึ่งในปัจจุบันเป็นพาร์ทเนอร์กับ Global Optimism กล่าว “การเข้าร่วม The Climate Pledge บริษัทเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทั้งในอนาคตและเพื่อการฟื้นตัวในขณะนี้ การดำเนินการและการลงทุนของพวกเขากำลังสร้างงานที่จำเป็นอย่างยิ่ง กระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และช่วยให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้น การเติบโตของการรวมตัวกันของบริษัทที่เข้าร่วม The Climate Pledge ซึ่งดำเนินการตามหลักวิทยาศาสตร์เป็นสาเหตุของการมองโลกในแง่ดี”
ความก้าวหน้าของเฮงเค็ลในการก้าวสู่การส่งเสริมสภาพอากาศในเชิงบวกในปี 2583
The Climate Pledge เป็นไปตามเป้าหมายระยะยาวของเฮงเค็ลที่จะก้าวสู่การส่งเสริมสภาพอากาศในเชิงบวกในปี 2583 เฮงเค็ลวางแผนที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 65% ภายในปี 2568 และ 75% ภายในปี 2573 นับตั้งแต่ปี 2553 บริษัทฯ ตั้งใจที่จะบรรลุเป้าหมายนี้โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่องและการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ภายในปี 2573 ไฟฟ้า 100% จะมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ภายในปี 2583 เฮงเค็ลตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากถ่านหินที่เหลือทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตให้เป็นทางเลือกที่เป็นกลางต่อสภาพอากาศและจัดหาพลังงานคาร์บอนที่เป็นกลางส่วนเกินให้กับบุคคลที่สาม นอกจากนี้เฮงเค็ลยังต้องการใช้ประโยชน์จากแบรนด์และเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้ลูกค้า ผู้บริโภค และซัพพลายเออร์สามารถประหยัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 100 ล้านตันในระยะเวลา 10 ปีตั้งแต่ปี 2559 จนถึง 2568
การเข้าร่วมใน The Climate Pledge ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของความมุ่งมั่นของเฮงเค็ลในการดำเนินการและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทฯ ได้ลงนามใน สัญญาซื้อขายไฟฟ้าเสมือนขนาดใหญ่ (VPPA) ซึ่งเกี่ยวข้องกับฟาร์มกังหันลมแห่งใหม่ในเท็กซัส กำลังการผลิตที่ได้ตกลงไว้เท่ากับ 100% ของความต้องการไฟฟ้าในการดำเนินงานของเฮงเค็ลในสหรัฐอเมริกา
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซตามหลักวิทยาศาสตร์ของเฮงเค็ลได้รับการอนุมัติโดยโครงการ Science Based Targets initiative (SBTi) ว่ามีความสอดคล้องกับระดับที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของข้อตกลงปารีส การริเริ่ม The Science Based Targets โดย CDP, UN Global Compact, World Resources Institute และ the World Wide Fund for Nature (WWF) กำหนดและส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการกำหนดเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์และประเมินเป้าหมายของบริษัทอย่างอิสระ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ผลการดำเนินงาน และความก้าวหน้า สามารถรับชมได้ที่ www.henkel.com/sustainability.
