ถอดบทเรียนดูแลผู้สูงอายุช่วงโควิด-19

Published on

ถอดบทเรียนดูแลผู้สูงอายุช่วงโควิด-19 ต่างชาติเน้น “บิ๊กดาต้า – เทคโนโลยี -ดูแลตัวเองให้แข็งแรง” ไทยเสนอเพิ่มสิทธิประโยชน์ในพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ด้านพม.ถอดบทเรียนพบความช่วยเหลือตกหล่นไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย สสส.พลิกวิกฤตพัฒนา “เกษียณคลาส” ห้องเรียนออนไลน์สร้างสุขภาวะที่ดี

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย จัดเวทีอภิปราย “การดูแลผู้สูงอายุสูงอายุในช่วงวิกฤต…บทเรียนจากไทยและต่างประเทศเพื่ออนาคต” เนื่องในวันผู้สูงอายุสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ต.ค.ของทุกปี พร้อมกับนำเสนอบทเรียนจากไทยและต่างประเทศในการดูแลผู้สูงอายุในช่วงวิกฤต โดย ศ.ศศิพัฒน์ ยอดเพชร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมศาสตร์ ในคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการวิจัยเรื่อง “การจัดบริการสังคมทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุในสถานการณ์วิกฤต : กรณีศึกษาช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการสนับสนุนของสำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า จากการสืบค้นข้อมูลการดำเนินงานในศูนย์บริการกลางวันสำหรับผู้สูงอายุและบริการสังคมทางเลือก ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา อิตาลี แคนาดา ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ พบว่าในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ปิดศูนย์ผู้สูงอายุ แต่ยังให้บริการด้านอาหาร ยารักษาโรค และการให้คำปรึกษา โดยออกข้อแนะนำในการปฏิบัติงานแก่ผู้สูงอายุ ออกแนวปฏิบัติการเปิดบริการ เปิดกิจกรรมออนไลน์ มีรายการใน Youtube และเตรียมให้ผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิกให้เข้าถึงระบบดิจิทัล รวมถึงการเปิดคลินิกดิจิทัล และพบว่าในสหรัฐฯเตรียมการเชิงรุกเพื่อช่วยให้บริการมีประสิทธิภาพ โดยศูนย์บริการกลางวันสำหรับผู้สูงอายุ จัดทำทะเบียนผู้สูงอายุทุกคนที่เป็นสมาชิก, ก่อนระบาดใหญ่ มีการสำรวจปรับปรุงข้อมูลสำคัญ

“สำหรับจีนและอิตาลี ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น มีมาตรการเน้นไปที่การบริการสุขภาพจิตให้กับผู้สูงอายุ แต่ยังพบว่ามีบทเรียนที่เป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรม เช่น ข้อจำกัดของเตียงในโรงพยาบาลทำให้ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มสุดท้ายที่จะได้รับการรักษา ,การจัดบริการโดยผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างความยากลำบากในการเข้าถึงบริการ และ ผู้สูงอายุที่พึ่งพิงตนเองไม่ได้ไม่สามารถเข้าถึงบริการ”ศ.ศศิพัฒน์กล่าว

ศ.ศศิพัฒน์ ได้เสนอแนวทางการจัดบริการสังคมสำหรับผู้สูงอายุในภาวะวิกฤต ดังนี้ 1.ปรับแนวคิดการจัดสวัสดิการใหม่ เช่น เพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุในพ.ร.บ.ผู้สูงอายุ ,คงแนวคิด Social Safety Net ,คงแนวสวัสดิการเชิงคุ้มครอง ,เพิ่มแนวคิดสวัสดิการเชิงผลิตภาพ ,สร้างความเข้าใจต่อวิถีชีวิตผู้สูงอายุในสังคมปกติใหม่ 2.พัฒนาระบบการจัดการในศูนย์บริการกลางวันสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ปรับฐานคิดของชุมชน ผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ สู่แนวคิดศูนย์บริการครบวงจร 3.เสริมสร้างความรู้ทักษะทางคอมพิวเตอร์แก่ผู้สูงอายุ และ4.พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้สูงอายุในชุมชน เช่น มีฐานข้อมูลผู้สูงอายุที่มีตัวชี้วัดสุขภาพ เศรษฐานะที่เป็นจริง โดยปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา และ สร้างระบบการแบ่งปันข้อมูล

จินตนา จันทร์บำรุง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประธานคณะทำงานถอดบทเรียนสถานการณ์การแร่ระบาดของโควิด-19 กล่าวถึงผลกระทบของโควิด-19 ต่อผู้สูงอายุไทยว่า ผู้สูงอายุได้รับผลกระทบในหลายด้าน เช่น การดูแลตัวเอง การซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค การเดินทางไปสถานที่ต่างๆ รวมถึงการเข้ารับบริการทางการแพทย์กรณีเจ็บป่วย มีผู้สูงอายุที่ว่างงานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.9 เป็นร้อยละ 6.6 ซึ่งกลุ่มที่ตกงานมากที่สุด คือ กลุ่มรับจ้างทั่วไป สำหรับความช่วยเหลือและสวัสดิการรัฐบาลได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อมาช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือนร้อนให้ผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบหลายมาตรการ ซึ่งบางมาตรการก็ได้ผลดี ตรงเป้าหมาย บางมาตรการก็ยังตกหล่นไม่ถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่ควรได้รับความช่วยเหลือ โดยมาตรการที่เฉพาะเจาะจงในการช่วยผู้สูงอายุประกอบด้วยเงินให้เปล่าเพิ่มขึ้นจากกรมกิจการผู้สูงอายุคนละ 50 หรือ 100 บาท ซึ่งแม้เป้าหมายถูกตัวเพราะเป็นผู้สูงอายุแต่งบประมาณที่ใช้ก็น้อยมากคือเพียง 689 ล้านบาท ,การพักชำระหนี้ระยะเวลา 1 ปีสำหรับลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุที่กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุทุกคน ครอบคลุมผู้สูงอายุเพียง 4.1 หมื่นราย, การจ่ายเงิน 3,000 บาทครั้งเดียวให้กับผู้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน ซึ่งเป็นโครงการที่ดีเพราะเป็นการอุดช่องโหว่ของการตกหล่นในโครงการเราไม่ทิ้งกัน

ด้านภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ช่วงแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยเฉพาะการให้ข้อมูลความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตนสำหรับประชากรกลุ่มเฉพาะทั้งพัฒนาสื่อความรู้เฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ แรงงานข้ามชาติ ประชากรกลุ่มชาติพันธุ์ มีการทำสื่อภาษาถิ่น และภาษาแรงงานข้ามชาติกว่า 10 ภาษา รวมถึงสนับสนุนการศึกษาข้อมูลทางวิชาการและพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบาย รองรับวิกฤตสำหรับประชากรกลุ่มเฉพาะ และผู้สูงอายุ เช่น การเรียนผ่านระบบออนไลน์ในรูปแบบห้องเรียนผู้สูงอายุออนไลน์ การทำกิจกรรมกลุ่มออนไลน์ การพัฒนาระบบ E-learning สำหรับผู้สูงอายุ โดยร่วมกับ Young Happy พัฒนา “เกษียณคลาส” ให้เป็นห้องเรียนออนไลน์สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการมีสุขภาวะที่ดี และร่วมกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พัฒนาหลักสูตรเตรียมพร้อมและสื่อการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสุขภาวะ“ผู้สูงวัยดิจิทัล” ในระบบออนไลน์ โดยเริ่มให้ทดลองใช้งานได้ในช่วงปลายปี 2563 ซึ่งการดำเนินงานเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่ง ที่พัฒนาช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถปรับตัวให้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาด หรือสถานการณ์วิกฤตในอนาคต เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ลดภาวะซึมเศร้าได้

Latest articles

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z ชอบรวมกลุ่มเข้าป่า ส่งสินค้ากลางแจ้งยอดพุ่ง

เผยเทรนด์ฮิตปลายปี 68 กลุ่ม Gen Y – Gen Z  กิจกรรมกลางแจ้ง รวมกลุ่มเข้าป่า ตั้งแคมป์ ให้ธรรมชาติฮีลใจ”ดีแคทลอน ตอบรับกระแสปลายปี เปิดสาขาใหม่ บางกะปิ ด้วยกลยุทธ์ “Bring Sport Closer to People”

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ 

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

 เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

More like this