สสส. อิง WHO แนะนำ 5 ข้อ ลดติดโควิด-19

Published on

สสส. ย้ำ 5 คำแนะนำส่งเสริมสุขภาพของ พร้อมไฟเขียวภาคีเครือข่าย ปรับโครงการเน้นป้องกันโควิด-19 เสริมทัพภาครัฐ สธ. เติมเต็มช่องว่าง เน้นงานชุมชน-แรงงานนอกระบบ

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เพื่อการชะลอการระบาด เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (WHO) ได้ออกมาแถลงข่าวให้คำแนะนำ 5 ด้านสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันการติดโควิด-19 ได้แก่

1.รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีสารอาหารครบถ้วน เพราะจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเหมาะสมมีประสิทธิภาพ

2.ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มรสหวาน

3.ไม่สูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงของการติดโควิด-19 ในระดับที่อันตรายรุนแรง

4.ออกกำลังกายโดยแนะนำให้มีกิจกรรมทางกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีสำหรับผู้ใหญ่ และวันละ 1 ชั่วโมงสำหรับเด็ก เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เล่นโยคะ โดยรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากบุคคลอื่น ๆ หรือทำกิจกรรมภายในบ้าน

5.ดูแลสุขภาพจิต อ่านหนังสือ ฟังเพลง ลดการดูข่าว เพื่อลดความเครียด สับสน หรือหวาดกลัว

ดร.สุปรีดา กล่าวว่า ข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก ชี้ถึงพื้นฐานที่สุดสำหรับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอยู่ที่การสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ซึ่งเป็นแนวทางการทำงานที่ สสส. ดำเนินการอย่างเข้มข้นมาโดยตลอดเพื่อสร้างเสริมสุขภาพของคนไทยให้แข็งแรง ปลอดจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ โดยเฉพาะการลดคนสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ การส่งเสริมกิจกรรมทางกาย และการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งนอกจากจะลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวานแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดเชื้ออีกด้วย และแนวโน้มสถานการณ์ปัญหาสุขภาพเหล่านี้ของคนไทยถือดีว่าขึ้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนไทยสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ขณะที่การมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ในปีที่ผ่านมาถือเป็นปีแรกในรอบ 8 ปีที่คนไทยมีกิจกรรมทางกายมากที่สุดคือ ร้อยละ 74.6

“ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 สสส. ได้ปรับแผนการทำงานของ สสส. และภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ โดยให้ความสำคัญกับพัฒนาโครงการหรือปรับแนวการทำงานให้มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 เป็นลำดับแรก โดยต้องเป็นแผนการทำงานที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ และเติมเต็มช่องว่างการทำงานที่มีอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดในชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ที่ต่อยอดตำบลสุขภาวะกว่า 2,600 ตำบลให้เป็นต้นแบบจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังโรคระบาดระดับตำบล เพื่อรับรับปัญหาการแพร่ระบาดที่เริ่มกระจายตัวจากกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่สู่ตำบลชนบท รวมถึงกลุ่มแรงงานนอกระบบให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารทั้งองค์ความรู้ การป้องกันตนเอง และการเฝ้าระวังโรค โดยเชื่อมประสานการทำงานกับหน่วยงานสุขภาพในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทั้งคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และอสม. ทั่วประเทศ เพื่อร่วมพลังคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ได้อย่างเร็วที่สุด” ผจก. กองทุน สสส. กล่าว

 

Latest articles

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ

ซีเล็ค x เด็กสมบูรณ์ เปิดตัว “ปลาทูน่านึ่งซีอิ๊ว” ชู SMART PROTEIN สะดวกดีต่อสุขภาพ คู่ความอร่อยคูณสองแบบต้นตำรับ

SABINA จัดแคมเปญโปรโมชั่น 11.11 ดีลแรง กระตุ้นยอดขายไตรมาสสุดท้าย

“ซาบีน่า” จัดแคมเปญโปรโมชั่นเอาใจเหล่านักช้อป “11.11 สิ้นสุดการรอคอยน์ ซาบีน่าลดให้เลย 1,111 บาท” เมื่อช้อปสินค้าครบ 2,500 บาท

เปิดตัว Canon EOS R6 Mark III ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล รองรับวิดีโอแบบ Open Gate

EOS R6 Mark III เปิดมาตรฐานใหม่แห่งการสร้างสรรค์ ด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอไฟล์ RAW 7K 60p และรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Open Gate

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/ปี เผยเทรนด์กาแฟพร้อมดื่ม Café Hopping กำลังมา

คนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 340 แก้ว/คนปี เผยเทรนด์ก Café Hopping กำลังมา นี่คือโจทย์ใหม่ของกาแฟพร้อมดื่ม จากเครื่องดื่มสู่บทใหม่ของวัฒนธรรมการใช้ชีวิต

More like this