มีเดียโดนัทส์เผยกลยุทธ์สื่อสารกับกลุ่มมิลเลนเนียลส์ ผ่านแพลตฟอร์มใหม่ๆ

Published on

แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำในไทยต้องออกแบบแคมเปญโฆษณาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้สื่อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การส่งสารไม่ควรเป็นการสื่อสารแบบ Mass แต่เป็นการสื่อสารกับปัจเจกชนนับล้านคน ผ่านแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นชุมชนของคนที่มีความสนใจและกิจกรรมเฉพาะทาง

มีเดียโดนัทส์เผยกลยุทธ์สื่อสารกับกลุ่มมิลเลนเนียลส์ ผ่านแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความสนใจเฉพาะทาง บริษัทด้านเทคโนโลยีโฆษณาออนไลน์ แนะแบรนด์ปรับตัว รับพฤติกรรมการรับสื่อของผู้บริโภคเปลี่ยนจาก ‘Mass’ สู่ ‘Me’ ด้วยการมองหาแพลตฟอร์มใหม่ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่และชุมชนออนไลน์สำหรับความสนใจและงานอดิเรกเฉพาะด้าน พร้อมใช้มาตรวัดผลขั้นสูงเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน

นายปีเตอร์-ฌอง เดอ ครอน ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ มีเดียโดนัทส์ เอเชียแปซิฟิก บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีโฆษณา กล่าวว่า เนื่องจากเรากำลังเข้าสู่ยุค ‘Mobile-First’ ที่ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก ผู้บริโภคปัจจุบันคือผู้เลือกช่องทางและรูปแบบการรับสื่อ พร้อมออกแบบประสบการณ์ออนไลน์ของตนเอง ตามความสนใจและความชื่นชอบของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังรับสื่อในบริบทและจังหวะชีวิตของตนเอง แนวโน้มการบริโภคสื่อจึงเปลี่ยนจากการแบ่งปันประสบการณ์เดียวกันกับคนหมู่มาก ผ่านสื่อหลักเพียงไม่กี่ช่องทาง มาเป็นการรับสื่อที่มีความเฉพาะเจาะจงกับแต่ละบุคคลมากขึ้น ดังนั้นแบรนด์และเอเจนซี่ต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับยุคใหม่ของการบริโภคคอนเทนต์นี้”
นายปีเตอร์ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในวงการสื่อโฆษณาในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และสร้างบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว บนพื้นฐานของเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้ง

“พฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีแพลตฟอร์มใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ทุกสัปดาห์เช่นนี้ ดังนั้นมีเดียเอเจนซี่และแบรนด์จึงไม่สามารถพึ่งพาแพลตฟอร์มเดิมที่คุ้นเคยและกลยุทธ์เดิมๆ ได้อีกต่อไป” นายปีเตอร์กล่าว

ทั้งนี้ นายปีเตอร์ได้ชี้ให้เห็นว่าความเปลี่ยนแปลงในการบริโภคสื่อจาก ‘Mass’ สู่ ‘Me’ มีแนวโน้มสูงขึ้น และเห็นได้ชัดเจนว่ากำลังเกิดขึ้น โดยรายงานวิจัยพบว่า ในแต่ละวันผู้บริโภคทั่วโลกมีการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งเพื่อความบันเทิงและรับข้อมูลข่าวสาร หลากหลายแพลตฟอร์มมากขึ้น และจะยิ่งมีจำนวนมากขึ้นไปอีกเมื่อยุค 5G มาถึง ซึ่งก็คือในอนาคตอันใกล้นี้ แน่นอนว่าการรับรู้ข่าวสารที่เปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลต่อการรับรู้แบรนด์ และตัดสินใจซื้อสินค้าต่างๆ ในท้ายที่สุด

อย่างไรก็ตามคำว่า ‘Me’ นั้น ไม่ได้หมายถึงความโดดเดี่ยวหรือแตกแยก แม้ว่าเราจะเห็นผู้บริโภคที่ใส่หูฟังเพื่อฟังเพลงหรือดูหนังคนเดียวผ่านสมาร์ทโฟน คล้ายกับอยู่ในโลกส่วนตัว แต่การวิจัยของบริษัทแอคทิเวต คอนซัลติ้ง (Activate Consulting) พบว่าผู้คนยังใช้ประสบการณ์การรับสื่อเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และมีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เข้าหาแพลตฟอร์มใหม่ๆ ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อรองรับชุมชนของคนที่มีความสนใจหรืองานอดิเรกในเรื่องเดียวกันกับตนเอง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการที่วัยรุ่นแบ่งปันเพลย์ลิสต์กันบน Spotify การร่วมเล่นเกมกันกับผู้คนอื่นๆ ผ่านเกมออนไลน์อย่าง Call of Duty และการแลกเปลี่ยนบทสนทนากันระหว่างแฟนมังงะบน Webtoon เป็นต้น

งานวิจัยเดียวกันนี้ยังชี้อีกว่า ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกมีการใช้งานแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ สลับไปมาถึง 6 แพลตฟอร์มด้วยกัน และมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนแพลตฟอร์มมากขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งนั่นหมายความว่าสื่อสังคมออนไลน์เพียงแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง อาจไม่เพียงพอต่อการเข้าถึงผู้บริโภคยุคนี้ ซึ่งมีความสนใจเฉพาะด้านและมีความต้องการที่จะสื่อสารกับคนอื่นๆ ที่มีความชอบและงานอดิเรกในเรื่องเดียวกันได้

ผลที่ตามมาก็คือ เส้นทางการเดินทางออนไลน์ของผู้บริโภค (Consumer Journey) จะมีความหลากหลายมากขึ้น จึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับแบรนด์ที่จะสื่อสารกับผู้บริโภคได้ครอบคลุมและเป็นเนื้อเดียวกัน เนื่องจากทัชพอยต์ (Touchpoint) ต่างๆ อยู่อย่างกระจัดกระจาย

มีเดียโดนัทส์เล็งเห็นว่าแบรนด์จำเป็นต้องออกจากพื้นที่เดิมๆ ที่เคยชินแล้วทดลองใช้แพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายใช้เวลามากขึ้นบนแพลตฟอร์มเหล่านั้น พร้อมกับการสร้างกลยุทธ์และคอนเทนต์ของแคมเปญให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มเหล่านี้ด้วย

“ภูมิทัศน์ของสื่อออนไลน์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้บริโภคต่างมองหาแพลตฟอร์ม ที่ตรงกับความสนใจเฉพาะของตนมากยิ่งขึ้น” นายปีเตอร์กล่าว “คนยุคโมบายเฟิสต์ ทั้งกลุ่มมิลเลนเนียลส์ (Millennials) และเจน ซี (Gen Z) กำลังก้าวขึ้นมาเป็นกำลังซื้อหลักในตลาด แบรนด์และเอเจนซี่ที่ก้าวออกจากความคุ้นเคยได้ก่อน จะได้เปรียบในการสร้างความสัมพันธ์กับคนกลุ่มนี้ก่อน โดยการวิจัยชี้ว่ากลุ่มมิลเลนเนียลส์มีแนวโน้มเปิดรับแพตฟอร์มใหม่ๆ และตื่นเต้นกับการเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ๆ เสมอ”

นอกจากนี้ มีเดียโดนัทส์ยังเสริมอีกว่า ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์คือแรงขับเคลื่อนสำคัญของการโฆษณาที่มีประสิทธิผล และสามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจได้จริง ทั้งนี้การวัดผลด้วยจำนวนการเข้าถึง (Reach) และข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ (Demographics) ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันและพบเห็นในรายงานทั่วไปนั้น แม้จะมีประโยชน์ แต่ไม่สามารถทำให้นักการตลาดมองเห็นภาพรวมและผลลัพธ์ของแคมเปญได้รอบด้าน นักการตลาดกำลังเผชิญกับความท้าทายจากจำนวนทัชพอยต์ บนโลกออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นและจำเป็นต้องใช้ดัชนีชี้วัดผลขั้นสูงขึ้น เพื่อประเมินคุณภาพและวัดผลจากหลากหลายแพลตฟอร์มได้ในมาตรฐานเดียวกัน

“เกณฑ์การวัดผลขั้นพื้นฐาน ที่ใช้กันมาตลอดไม่เพียงพอ ที่จะใช้สร้างแผนที่ไปสู่ความสำเร็จของแคมเปญอีกต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ แบรนด์ไม่เพียงแต่ต้องขยายการใช้แพลตฟอร์มให้กว้างขึ้นเพื่อให้เข้าถึงเป้าหมายในพื้นที่ใหม่ๆ แต่ยังต้องให้เลือกมาตรวัดที่ถูกต้องในการตัดสินใจ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี จากผู้ให้บริการภายนอก ซึ่งสามารถช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกว่ามาตรวัดมาตรฐานที่แพลตฟอร์มมี” นายปีเตอร์ กล่าว

ยกตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีในการตรวจจับผู้ใช้งานระหว่างอุปกรณ์สื่อสาร สามารถช่วยป้องกันการยิงโฆษณาเดิมซ้ำๆ ไปยังผู้ใช้งานคนเดิมเมื่อมีการใช้งานผ่านมือถือและคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง หรือการผสานเทคโนโลยีติดตามข้อมูลตำแหน่งเพื่อวัดว่าผู้ใช้งานได้เดินทางมาสู่พิกัดที่ระบุ (Geofencing) ร่วมกับ การติดตามฝีเท้าของลูกค้าจริงภายในร้านค้า (Footfall Measurement) เพื่อใช้ยืนยันประสิทธิผลของโฆษณาออนไลน์ ว่าเชิญชวนให้ผู้ใช้งานแวะเยี่ยมชมร้านค้าในพื้นที่ได้

มีเดียโดนัทส์ เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆ มากมาย ได้แก่ ทวิตเตอร์ (Twitter) ทินเดอร์ (Tinder) เว็บตูน (Webtoon) สปอติฟาย (Spotify) แอคทิเวชัน บลิซซาร์ด (Activision Blizzard) และติ๊กต็อก (TikTok) เป็นต้น ร่วมถึงมีบริการ Private Marketplace (PMP) และแพ็กเกจต่างๆ ช่วยให้เอเจนซี่และแบรนด์สามารถเลือกทำโฆษณาเฉพาะบนแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของตน

พร้อมบริหารจัดการงบโฆษณาได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย อีกทั้งยังมีบริการติดตามผลการดำเนินงานผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ใช้โฆษณาได้แบบเรียลไทม์ผ่านหน้า Dashboard ที่สามารถปรับแต่งเครื่องมือได้ตรงตามความต้องการของแต่ละแบรนด์ ช่วยให้นักการตลาดมองเห็นภาพรวมของธุรกิจในโลกออนไลน์ชัดเจนยิ่งขึ้น การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีด้านโฆษณาที่ครบครันและบริการพื้นที่โฆษณาบนแพลตฟอร์มชั้นนำของมีเดียโดนัทส์ ช่วยให้เอเจนซี่และแบรนด์ต่างๆ บรรลุเป้าหมายทางการตลาดต่างๆ ได้

การเติบโตของมีเดียโดนัทส์ในฐานะพันธมิตรของแบรนด์และเอเจนซี่เกิดจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านการระบุสื่อเป้าหมาย การวิเคราะห์ข้อมูล และความร่วมมือกับแพลตฟอร์มระดับโลก ปัจจุบันมีเดียโดนัทส์ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์และเอเจนซี่ต่างๆ มากกว่า 150+ บริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว สามารถขยายการให้บริการถึง 5 ประเทศภายในระยะเวลา 3 ปี

“ความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนการใช้สื่อ ประกอบกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แบรนด์สามารถเห็นผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริงและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ” นายปีเตอร์ กล่าวทิ้งท้าย

บริษัทมีเดียโดนัทส์ดำเนินธุรกิจใน 13 ประเทศทั้งในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) และเอเชียแปซิฟิก (APAC) โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากการขยายของกลุ่มผู้บริโภควัยมิลเลเนียลส์ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีและมีกำลังซื้อสูงขึ้น อีกทั้งยังให้การตอบรับแพลตฟอร์มใหม่ๆ เป็นอย่างดี ถือเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ในการสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มนี้

ในปี 2563 มีเดียโดนัทส์สามารถสร้างรายได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า พร้อมมีเป้าหมายกวาดรายได้กว่า 900 ล้านบาทภายในปีนี้

ปีเตอร์-ฌอง เดอ ครอน

เกี่ยวกับมีเดียโดนัทส์
มีเดียโดนัทส์ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2553 และเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีการโฆษณาชั้นนำ ที่ดำเนินธุรกิจใน 13 ประเทศครอบคลุมภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย แปซิฟิก และสหรัฐอเมริกา โดยเป็นผู้บริหารเทคโนโลยีต่างๆ และเป็นพันธมิตรในระดับโลกและระดับประเทศของแพลตฟอร์มและผู้ให้บริการพื้นที่โฆษณาออนไลน์ชั้นนำต่างๆ เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การใช้สื่อดิจิทัลที่ครอบคลุมที่สุด เพื่อช่วยให้ผู้โฆษณาบรรลุเป้าหมายต่างๆ ทางธุรกิจที่วางไว้

Latest articles

กรังด์ปรีซ์™ ซีซั่น สิงคโปร์ เปิดฉากความสนุกการแข่งขัน

กรังด์ปรีซ์™ ซีซั่น สิงคโปร์ (GPSS) กลับมาอีกครั้งในวันที่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม 2568 จัดเต็มด้วยกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่คัดมาแล้วในธีมแข่งรถทั่วเมือง ตลอด 10 วันแห่งความสนุกนี้จัดขึ้นเพื่อเติมเต็มบรรยากาศการแข่งรถฟอร์มูล่าวัน หรือสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์™ ที่สนับสนุนโดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส พร้อมทั้งเชิญชวนนักท่องเที่ยวและชาวสิงคโปร์มาร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษในหลายย่านทั่วสิงคโปร์ ตอบโจทย์ความสนใจของของผู้ชมที่หลากหลาย

อาลีบาบา คลาวด์ เผยแผนกลยุทธ์นวัตกรรม AI ยุคหน้า

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ครบวงจรชุดล่าสุด ในงาน Apsara Conference 2025 งานประชุมประจำปี เพื่อโชว์เคสเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุด...

ORIGIN VERTICAL โกยยอดขายคอนโดฯต่างชาติครึ่งแรกปี’68 กว่า 2,800 ล้านบาท

ORIGIN VERTICAL ตอกย้ำผู้นำเจ้าตลาดขายคอนโดฯต่างชาติ โชว์ยอดขายต่างชาติ ชื้อคอนโดครึ่งแรกปี 2568 ทะลุกว่า 2,800 ล้านบาท ชี้ “รัสเซีย-จีน-ไต้หวัน” ครองสัดส่วนซื้อคอนโดฯมากสุด

W9 Wellness Center ชี้ “อาหารคลีนก็ทำให้อ้วนได้” กับดักสุขภาพที่รบกวนฮอร์โมนโดยไม่รู้ตัว

กินคลีนแล้วทำไมยังอ้วน? คำถามยอดฮิตที่ยังไม่มีคำตอบสำหรับใครหลายคน ในยุคที่ผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น การหันมากินอาหารคลีนกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนกลับตั้งคำถามว่า "ทั้งที่กินคลีน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ทำไมน้ำหนักถึงไม่ลดลง

More like this