ทีเอ็มบี คาด พิษไวรัสโคโรนา ส่งผลธุรกิจโรงแรมสูญรายได้กว่าสองหมื่นล้าน

Published on

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี คาดพิษไวรัสโคโรนาทำธุรกิจโรงแรม 7,500 ราย สูญรายได้กว่าสองหมื่นล้าน กระทบ 7 จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ห่วงโรงแรมขนาดกลางเล็กในกรุงเทพ ชลบุรี ภูเก็ตรับผลกระทบหนักสุด

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics (ทีเอ็มบี อนาลิติกส์) เผยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ทำตลาดนักท่องเที่ยวจีนของไทยครึ่งปีแรกหายไปกว่า 2.4 ล้านคน ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวทั้งปี 63 สูญรายได้กว่า 1 แสนล้านบาทหรือ 0.7% ของจีดีพี โดยธุรกิจโรงแรม 7,500 ราย กระทบหนักชวดรายได้ 2.8 หมื่นล้านบาท เป็นผู้ประกอบการขนาดกลาง 459 รายและขนาดเล็ก 6,990 ราย ขณะที่คุณภาพสินเชื่อโรงแรมขนาดกลางเปราะบางยอด NPL รวมหนี้ที่ต้องระวัง (SM) สูงถึง 18% พร้อมแนะภาครัฐและเอกชนเร่งออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ

คาดระดับความรุนแรงต่อภาคการท่องเที่ยวไทยจากไวรัสโคโรนาอยู่ที่ 70% ของกรณีโรคระบาดซาร์ส โดยพิจารณาจากปัจจัยระยะเวลาการแพร่ระบาดจากจุดเริ่มต้นจนสิ้นสุด พบว่าการรับรู้การระบาดของไวรัสโคโรนาเกิดขึ้นเร็ว และมีแนวโน้มที่จะยุติการแพร่ระบาดได้เร็วกว่ากรณีของโรคซาร์สที่เกิดขึ้นในปี 2546 เนื่องจากการดำเนินการที่รวดเร็วและเข้มงวดของรัฐบาลจีนในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจาย ไม่ว่าจะเป็นการระงับการเดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่นและเมืองอื่นๆ ในมณฑลหูเป่ย การสั่งห้ามจัดกรุ๊ปทัวร์เข้าออกประเทศจีน การสั่งปิดสถานที่เแลนด์มาร์คในเมืองต่างๆ รวมถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของประเทศอื่นๆ ที่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลกระทบความรุนแรงจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในครั้งนี้อยู่ในวงจำกัด

โดยจะส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของไทยหนักสุดในไตรมาสแรกซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวเทศกาลตรุษจีน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงกว่า 1.5 ล้านคน และทยอยปรับดีขึ้นเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย จนกลับมาอยู่ในระดับปกติได้ในช่วงกลางปี ดังนั้น ภาพรวมดีกรีผลกระทบจากไวรัสโคโรนาต่อภาคการท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 70% โดยคาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนลดลง 2.4 ล้านคนในช่วงครึ่งปีแรก ก่อนที่จะเริ่มกลับมาขยายตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมทั้งปี 2563 จะอยู่ที่ 38.7 ล้านคน ลดลงจากระดับ 40.8 ล้านคนตามคาดการณ์เดิม และรายได้ภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวข้องลดลงกว่า 1 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 0.7% ของจีดีพี

“รายได้ภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงมาจากธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารและค้าปลีก จะสูญเสียรายได้กว่า 7 หมื่นล้านบาท” เมื่อวิเคราะห์ผลกระทบต่อรายได้ภาคการท่องเที่ยว โดยแบ่งเป็นรายภาคธุรกิจพบว่ารายได้ธุรกิจโรงแรมหายไป 2.84 หมื่นล้านบาท(27%) เช่นเดียวกับการลดลงของรายได้ในธุรกิจค้าปลีกอีก 2.84 หมื่นล้านบาท (27%) และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหารลดลง 1.89 หมื่นล้านบาท (18%) และที่เหลือ (ค่าเดินทาง ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว และอื่นๆ) หายไป 2.92 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี ศูนย์วิเคราะห์ฯ ประเมินว่าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงในแง่ผู้ประกอบการไทยในระดับสูงคือธุรกิจโรงแรม โดยมีผู้ประกอบการโรงแรมที่อยู่ในข่ายได้รับผลกระทบถึง 7,500 ราย ในขณะที่ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร และอื่นๆ คาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเชนธุรกิจของผู้ประกอบการชาวจีน

“ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดกลางได้รับผลกระทบหนักสุด” ในมิติผู้ประกอบการพบว่า รายได้ของธุรกิจโรงแรมที่ลดลง 2.84 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมขนาดกลาง คาดว่าจะมีรายได้ลดลงถึง 49% ของผลกระทบรวม รองลงมาเป็นธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก 31% และธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่ 20% ตามลำดับ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบระดับสูงจะอยู่ในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมท่องเที่ยว 7 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ (32%) ภูเก็ต (29%) ชลบุรี (14%) กระบี่ (7%) สุราษฎร์ธานี (7%) เชียงใหม่ (5%) และพังงา (2%) ซึ่งมีผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมรวม 4,763 ราย คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 65% ของจำนวนผู้ประกอบโรงแรมไทยทั้งประเทศ”

คุณภาพสินเชื่อธุรกิจโรงแรมขนาดกลางเปราะบาง และมีแนวโน้มแย่ลงจากผลกระทบไวรัส สะท้อนจาก ณ สิ้นปี 2562 ระดับ NPL อยู่ที่ 5.1% และมีหนี้ SM ที่ต้องเฝ้าระวังสูงถึง 13% รองมาเป็นธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กมีสัดส่วน NPL และหนี้ SM อยู่ที่ 4.1%และ 2.4% ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี เรายังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาด และผลกระทบที่เกิดขึ้นผู้ประกอบการที่เป็นซัพพลายเชนของภาคการท่องเที่ยว ตลอดจนทุกภาคส่วนควรเร่งออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

Latest articles

Ecotopia ชวนค้นหาความหมายของการรักตัวเอง ในงาน “Reflect & Grow by ECOTOPIA x Grab ’n Grow”

Ecotopia เมืองแห่งคนรักษ์โลก คอมมูนิตี้ที่ทุกคนมีความเชื่อเหมือนกันว่า “เราสร้างโลกให้ดีขึ้นได้ด้วยกัน” ชวนคุณมาร่วมค้นหาวิธีดูแลใจและกายของตัวเอง พร้อมเชื่อมโยงกับผู้คนรอบข้างด้วยหัวใจที่แข็งแรง ในงาน “Reflect & Grow by ECOTOPIA x Grab 'n Grow” เพราะทุกการเติบโต เริ่มต้นจากการรักและเข้าใจตัวเอง

กรมการพัฒนาชุมชน หนุนเยาวชน Young OTOP โชว์ผลงานแฟชั่นที่ฮ่องกง

กรมการพัฒนาชุมชน หนุนเยาวชน ส่งเสริมและพัฒนาผู้ผลิต ผู้ประกอบการ Young OTOP ตามโครงการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาผลิตภัณฑ์ Young OTOP สู่สากล ประจำปี 2568 ในงานแสดงสินค้าแฟชั่น CENTRESTAGE (Asia’s Fashion Spotlight) 2025 ที่ฮ่องกง

“สหพัฒนพิบูล” เดินหน้าโครงการ “Green PLEASE by SPC” สร้างเครือข่ายเยาวชนหัวใจสีเขียว

ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม กลายเป็นวาระสำคัญที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ โดยหลายภาคส่วนต่างร่วมกันขับเคลื่อนแนวทางการจัดการขยะอย่างยั่งยืน เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อโลกใบนี้ การปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัยเยาว์ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า และเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อโลกอย่างแท้จริง บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของไทย สานต่อพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการ...

เตือนคนไทย ผนังกั้นหมอนรองกระดูกบาง เสี่ยงหมอนรองกระดูกปลิ้น เร็วไม่รู้ตัว

โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ เผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ “ผนังกั้นหมอนรองกระดูก” โครงสร้างเล็ก ๆ ที่หลายคนไม่รู้จัก แต่สามารถเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะ หมอนรองกระดูกปลิ้น ได้ แม้ไม่ได้ยกของหนัก...

More like this