นิทรรศการ See Scene  “เรียนด้วยกัน” ส่งเสริมสังคม “อยู่ร่วมกัน”

Published on

สสส.จับมือ บ.กล่องดินสอ วิทยาลัยราชสุดา เปิดโอกาสคนพิการ-ไม่พิการ “เรียนด้วยกัน” พัฒนาสังคมการเรียนรู้และการอยู่ร่วมกัน พัฒนาความสามารถทางด้านออกแบบ ขานรับตลาดแรงงาน โชว์ผลงานกราฟิกสร้างสรรค์จากฝีมืออาสาฯ หูดีและนักเรียนหูหนวก โดยมีคณะละครใบ้ Baby mime เข้าร่วมสื่อสารแบบไร้เสียงที่ทำให้เรื่องราวแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บริษัท กล่องดินสอ จำกัด และ วิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ กองกิจการนักศึกษา และ กองเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหิดลจัดงานแสดงผลงานออกแบบกราฟิกเพื่อพัฒนาทักษะให้กับนักศึกษาพิการทางการได้ยินและส่งเสริมสังคมการอยู่ร่วมกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ See Scene หลังจากที่ได้ร่วมโครงการ “เรียนด้วยกัน” ครั้งที่ 1 เป็นเวลา 10 วัน เพื่อพัฒนาสังคมการเรียนรู้สนับสนุนให้คนพิการ (ทุกประเภทความพิการ) และคนไม่พิการสามารถเรียนร่วมกัน เติมความรู้ความสามารถให้ผู้พิการ สร้างทัศนคติเชิงบวกให้คนพิการและคนไม่พิการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างสัมพันธภาพ และความเข้าใจที่ดีต่อกันผ่านเนื้อหาการเรียนรู้ต่าง ๆ ในห้องเรียนเดียวกัน โดยถ่ายทอดบอกเล่าเรื่องราวที่นักเรียนและอาสาสมัครประทับใจที่สุดของวัน ร่วมกับคณะละครใบ้ Baby mime ผ่านการสื่อสารแบบไร้เสียงที่ทำให้เรื่องราวแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น

 นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. สนับสนุนโครงการ ด้วยกัน ในการสร้างสรรค์กิจกรรมทางสังคมส่งเสริมสุขภาวะที่คนพิการและคนไม่พิการให้สามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ และสร้างองค์ความรู้เพื่อให้องค์กรอื่นๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ โดยมุ่งให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมเรื่องการดำรงชีวิตอิสระเพื่อให้สามารถสื่อสาร เดินทาง และจัดการตนเองได้ภายใต้โครงการด้วยกันมีกิจกรรมหลากหลาย ตั้งแต่ วิ่งด้วยกัน เต้นด้วยกัน ปั่นด้วยกัน ทำอาหารด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา มีผู้สนใจและติดตามกิจกรรมผ่านเพจจำนวน 5,327 คน สำหรับโครงการเรียนด้วยกันมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างคนพิการและคนไม่พิการให้เข้าใจในข้อจำกัดของกันและกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรียนรู้ในการทำกิจกรรมร่วมกัน  สสส.พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมทางเลือก นวัตกรรมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อให้คนพิการมีสุขภาวะที่ดี ทั้งมิติกาย จิต ปัญญา และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่มีศักดิ์ศรีทัดเทียมกับคนทั่วไป

 ดร.วรางคณา รัชตะวรรณ รักษาการแทนรองคณบดี ฝ่ายการศึกษา กิจการนักศึกษาและสื่อสารองค์กร วิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ความหลากหลายของผู้เรียน คือทรัพยากรที่สำคัญอย่างยิ่งของการเรียนรู้ เมื่อผู้พิการทางการได้ยินกับผู้ไม่พิการได้มาร่วมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยกัน สิ่งที่ได้เรียนรู้ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อหาของบทเรียน แต่เป็นการเรียนรู้ “วิธีการเรียนรู้” ของกันและกัน โดยผลจากการดำเนินกิจกรรมนี้ ทางวิทยาลัยราชสุดา จะนำไปในพัฒนาหลักสูตรอาชีพระยะสั้นด้านการออกแบบกราฟิกสำหรับพัฒนาศักยภาพผู้พิการที่ตอบสนองต่อตลาดแรงงาน ให้ผู้พิการตระหนักถึงคุณค่าและศักยภาพของตนเองในการเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาสังคมให้เข้มแข็งและยั่งยืน โดยวิทยาลัยราชสุดา ขอชวนทุกคนมาร่วมกันสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน ไม่ใช่แค่คนหูหนวกกับคนหูดีเท่านั้นแต่เป็นใครก็ได้ที่สนใจและมีเป้าหมายการเรียนรู้ที่สอดคล้องกัน (Inclusive learning) ด้วยกระบวนการที่ยืดหยุ่น (Flexible learning) เพราะเชื่อว่า การช่วยกันเรียนรู้นี้จะเสริมพลังที่จะช่วยพาทุกคนให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ไปด้วยกันได้

นายสมบูรณ์ ชุติวิโรจน์สกุล ผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัทกล่องดินสอ จำกัด กล่าวว่า เราเล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพของคนพิการให้สามารถขยายผลได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเปลี่ยนกรอบความเชื่อเดิมๆ ที่คนพิการเคยถูกมองว่ามีศักยภาพจำกัด หรือทำงานได้เฉพาะเพียงบางประเภทเท่านั้น โครงการนี้จึงทำให้เห็นว่า หากมีการออกแบบสร้างสรรค์รวมกับการจัดการที่ดี เราก็สามารถพัฒนาคนพิการให้มีโอกาสมากยิ่งขึ้น ตอบเป้าหมายของกล่องดินสอ ในการมุ่งสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียม หรือ Inclusive Society ให้เกิดขึ้นจริงได้” กิจกรรม “เรียนด้วยกัน” โดยเลือกจัดสอนวิชาออกแบบกราฟิกดีไซน์ เพื่อพัฒนาความสามารถทางด้านออกแบบซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างมากในขณะนี้

ด้าน นางสาว วิมลศรี จินดานุ นักเรียนพิการทางการได้ยิน กล่าวว่า เริ่มแรกรู้สึกกลัว เพราะไม่เคยได้ทำงานกับคนอื่น ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ที่หูดี ปกติเพื่อนที่หูได้ยินเค้าเรียนรู้ได้เร็ว แต่เราอาจจะเรียนได้ช้ากว่า ก็ได้น้องอาสาสมัครมาช่วย และได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เราเองก็ได้สอนภาษามือให้กับน้อง รู้สึกว่ามีความสุข และสนุกที่ได้เข้าร่วมการอบรม ถ้ามีอีกก็อยากเข้าร่วมในครั้งต่อๆ ไป ส่วนด้านทักษะเราก็ได้ความรู้การวาดภาพ ตัดต่อ นำไปใช้ประโยชน์ในการสมัครงานหรือทางานได้

นายสิรวิชณ์ พัฒนเจริญกิจ หนึ่งในอาสาสมัครที่มาเข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า การได้ทำงานร่วมกันกับผู้พิการเป็นสิ่งค่อนข้างแปลกใหม่ที่ไม่เคยลองมาก่อน การอยู่ร่วมกับคนพิการทำให้รู้ว่า คนพิการมีทักษะในการใช้เทคโนโลยี ทางานศิลปะ และมีความขวนขวายในการสร้างการสื่อสารมากกว่าคนทั่วๆ ไป ระหว่างเรียนเราก็หาวิธีการสื่อสารกันตั้งแต่เขียนบอก ใช้ภาษามือ หรือใช้วาดรูปเพื่อช่วยกันให้งานของเราสำเสร็จ นอกจากนี้ยังมีโอกาสไปพักร่วมกับนักศึกษาพิการทางการได้ยินที่วิทยาลัยราชสุดาในช่วงที่มาเรียน ทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วการใช้ชีวิตของคนพิการก็ไม่ได้แตกต่างกับคนไม่พิการ พอเราใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น เราก็เข้าใจกัน และอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น

สำหรับนิทรรศการ See Scene ภายใต้โครงการเรียนด้วยกัน ครั้งที่ 1 เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมฝีมือการเรียนด้วยกันของน้องๆ นักศึกษาหูหนวกและอาสาสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม พ.ศ. 2562  ณ ชั้น 4 หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เวลา 10.00 – 20.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 062-772-0330

Latest articles

MALEE เปิด 5 กลยุทธ์ ปั้นวิสัยทัศน์ Beyond Fruit to Global Wellbeing แตะหมื่นล้าน ภายใน 3 ปี

MALEE เปิดวิสัยทัศน์ ‘Beyond Fruit to Global Wellbeing’ สร้างสรรค์นวัตกรรมมอบคุณค่าที่เหนือกว่าน้ำผลไม้เพื่อชีวิตที่ Healthier & Happier เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ก้าวสู่ ‘Global Wellbeing Company’   

วว. จับมือ วช. ขับเคลื่อนโครงการปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ สร้างมูลค่า ลดมลภาวะฝุ่น PM 2.5

“มลภาวะจากฝุ่น PM 2.5” โดยมากจะเกิดในช่วงฤดูหนาวที่อากาศนิ่งและแห้ง ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง  หากมีฝุ่น PM 2.5 ในอากาศปริมาณสูงมาก จะมีลักษณะคล้ายกับมีหมอกควัน โดยฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และซึมเข้าสู่กระแสเลือด นอกจากนี้ตัวฝุ่นเองยังเป็นพาหะนำสารมลพิษอื่นๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย เช่น โลหะหนัก สารก่อมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้ให้ความสำคัญในการหาแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว

ฟูจิตสึเริ่มเดินหน้าพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิตอย่างเป็นทางการ

ฟูจิตสึ ประกาศเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมซูเปอร์คอนดักติ้งขนาดกว่า 10,000 คิวบิต โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2573 การพัฒนานี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEDO ซึ่งมุ่งส่งเสริมการนำคอมพิวเตอร์ควอนตัมไปใช้งานเชิงอุตสาหกรรมในอนาคต

สกพอ.จับมือ Osaka City หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero

สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี ดร....

More like this