ทิ้งจอ! ออกมาเล่น แค่วันละ 60 นาที กระตุ้นสมองสร้างการเรียนรู้

Published on

เป็นที่ทราบว่า เด็กๆ ในปัจจุบันนี้มีพฤติกรรมที่เกาะติดอยู่กับหน้าจอ ทำให้การเล่นในโลกจริงๆ ถูกทิ้งห่างออกไป พฤติกรรมเหล่านี้ เรียกรวมๆ ว่า “พฤติกรรมเนือยนิ่ง” ซึ่งผลที่ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงได้มีการโครงการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกายในสถานศึกษา เพื่อส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายอย่างต่อเนื่องในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทย อายุระหว่าง 8 – 15 ปี ให้มีสุขภาวะที่ดีเหมาะสมตามวัย และเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ครู ผู้ปกครอง ถึงความสำคัญในการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย ทั้ง 3 มิติ ลดการเนือยนิ่ง รวมไปถึงเพื่อสานพลังความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชนที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชน ขยายผลการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในวงกว้างต่อสังคมไทย หลังจัดกิจกรรมร่วมกับสถานศึกษานำร่องทั่วประเทศ

รศ.นพ.ปัญญา ไข่มุก กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกายในสถานศึกษา ภายใต้แนวคิด “ออกมาเล่น แอคทีฟ 60 นาทีทุกวัน” ถือเป็นโครงการต่อยอดและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมกิจกรรมทางกายให้ขยายไปในวงกว้าง ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากประชากรวัยเด็กเป็นช่วงวัยแห่งการเจริญเติบโตทั้งในด้านพัฒนาการทางร่างกายและสมอง ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่าปัจจุบันเด็กไทยจำนวนมากที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น น้ำหนักตัวเกิน สมาธิสั้น หรือพัฒนาการไม่สมวัย เนื่องจากถูกมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือพฤติกรรมหน้าจอที่มากเกินไป

“สสส.ได้ร่วมกับภาครัฐ เอกชน และภาคสังคม เพื่อดำเนินการตามนโยบายเพื่อการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย โดยตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับการมีกิจกรรมทางกายของเด็กไทยให้สูงยิ่งขึ้น ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวมีความสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ในการ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ที่จะส่งเสริมให้การดำเนินการในภาพใหญ่มีความเข้มแข็ง และประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ” รศ.นพ.ปัญญา กล่าว

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชนไทยมากกว่าร้อยละ 70 มีกิจกรรมทางกายอยู่ในระดับที่ไม่เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพฤติกรรมการใช้หน้าจอที่เกินกว่าเกณฑ์คำแนะนำทางด้านสุขภาพ โครงการกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะทางกายในสถานศึกษา จึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ ในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอสะสมอย่างน้อย 60 นาทีทุกวัน

“กิจกรรมหลักของโครงการจะมีทั้งการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร ของสถานศึกษาผ่านกิจกรรมการอบรมสัมมนาที่น่าสนใจ สามารถนำไปปรับใช้กับการจัดกิจกรรมในการจัดการเรียนการสอนทั้งในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 โดยแบ่งเป็น 4 ฐานกิจกรรม จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการใน 3 มิติ ได้แก่ 1) ทักษะพิสัย 2) จิตพิสัย และ 3) พุทธพิสัย อันได้แก่ พัฒนาการทางสติปัญญา และการรู้คิด เกิดจากการทำงานของสมองในขณะที่เด็กเล่น โดยทำหน้าที่สั่งการอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเคลื่อนไหวอย่างประสานสัมพันธ์กัน อีกด้วย” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดหรือความคืบหน้าของกิจกรรมในโครงการฯ ได้ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ www.facebook.com/ActivePlayActiveSchool

Latest articles

ผนึกกำลังบูรณาการ GEN ยัง Active+ มุ่งนโยบายเชิงป้องกัน หนุนสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ

โครงการ Gen ยัง Active 50+ จัดเสวนา “บูรณาการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกันในระยะยาวของประเทศไทย” ในงาน “ส่งเสริมภูมิกาย สร้างเสริมภูมิใจ ให้วัย Gen ยัง Active50+” เนื่องในวันผู้สูงอายุสากล (International Day of Older Persons) วันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี

สสส. คว้ารางวัลเลิศรัฐ ตอกย้ำความสำเร็จการจัดการขยะ-มลพิษ

สสส. คว้ารางวัลเลิศรัฐ “การจัดการขยะมูลฝอยที่ต้นทางอย่างยั่งยืนในพื้นที่ กทม.” ตอกย้ำความสำเร็จจัดการปัญหาขยะ ลดมลพิษสิ่งแวดล้อม ปลื้มกรุงเทพฯ รีไซเคิลขยะสูง 884.73 ตัน ลดขยะฝังกลบ 959.13 ตัน

ธอส. ครบรอบ 72 ปี เดินหน้าตอบแทนสังคมตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน”

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ครบ 6 รอบ 72 ปี เดินหน้าตอบแทนสังคมมุ่งสู่ความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความแข็งแกร่งให้ชุมชน ผ่านโครงการด้าน CSR ของธนาคาร ควบคู่กับการเดินหน้าตามพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน”

สุขทันที ที่เที่ยวไทย กับ 5 พิกัดเส้นทางเที่ยวปลายฝนต้นหนาว มันฟินนะ!

ททท. ชวนคนที่เรารักออกไปเที่ยวเมืองไทย ออกไปสร้างโมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ เที่ยวไทยไม่รู้ลืม กระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ กับ 5 จุดหมายท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ไม่ควรพลาด!

More like this